จากที่กระทรวงพาณิชย์ได้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพได้มากขึ้น
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจัดทำโครงการ “ธงฟ้าสู้ภัยโควิด-19” ส่งรถเร่จากตลาดสดและตลาดกลางสินค้าเกษตรในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน
อาทิ ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี กรุงเทพฯ ตลาดเสรี จังหวัดนครปฐม ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี และตลาดกลางบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จำนวน 200 คัน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกเหนือจากรถพุ่มพวงของตลาดต่างๆ แล้ว ยังได้เสริมรถเร่เข้าไปอีกเพื่อให้บริการกับประชาชนที่อยู่ในเขตกรุงเทพชั้นใน อีกวันละไม่ต่ำกว่า 60 รอบ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนและมีเสียงเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มจำนวนรถเร่ธงฟ้า จำนวน 250 คัน และรถเสริมพิเศษ เพื่อวิ่งในเส้นทางต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ทุกชุมชน โดยพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ เพชรเกษม รามคำแหง สุวินทวงศ์ หนองจอก ร่มเกล้า บางบอน พุทธมณฑล คลองทวีวัฒนา พื้นที่จังหวัดนครปฐม อาทิ อำเภอเมืองนครปฐม ศาลายา นครชัยศรี และบางเลน พื้นที่จังหวัดนนทบุรี อาทิ อำเภอเมืองนนทบุรี ท่าอิฐ บางบัวทอง บางกรวย สมบัติบุรี ท่าอิฐ ถนน 345 จังหวัดปทุมธานี อาทิ อำเภอเมืองปทุมธานี คลองหลวง คลอง 1-4 ธัญญะบุรี ลำลูกกา เชียงราก ม.ธรรมศาสตร์ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ บางปะอิน วังน้อย นวนคร
โดยในแต่ละวันรถเร่จะออกจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในราคาประหยัด ประกอบด้วย ไข่ไก่เบอร์ 3 (ฟองละ 3 บาท) ไข่เป็ดเบอร์ 1 (ฟองละ 3.30 บาท) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ซองละ 5 บาท) น้ำมันปาล์ม (ขวด 1 ลิตร 40 บาท) เจลล้างมือ (ขนาด 30 มิลลิกรัม ราคา 25 บาท) ปลากระป๋อง (กระป๋องละ 11 บาท) ข้าวหอมไทยบรรจุถุง (ขนาด 2 กก. ราคาถุงละ 55 บาท)
และเพื่อให้เข้าถึงประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณริมน้ำ จึงได้ให้เพิ่มเรือธงฟ้า อีกจำนวน 2 ลำ ออกจำหน่ายในเส้นทางคลองบางกอกน้อย – คลองชักพระ – คลองบางกอกใหญ่ – คลองมอญ รวมทั้งกำลังจะดำเนินการคาราวานธงฟ้า สู้ภัยโควิด-19 ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบข้อมูลเส้นทางการจำหน่ายสินค้า หรือร้องเรียนรถเร่ที่จำหน่ายสินค้าไม่เป็นไปตามราคาที่กรมฯ กำหนด ได้ที่ สายด่วน 1569 หรือ Line : @thongfahcv19
ที่มา : ประชาสัมพันธ์ กรมการค้าภายใน
