ร้านอาหารสวนกระแสเศรษฐกิจ จัดอาหารเอาใจนักเรียน สั่งจานเดียวกินได้ 3-4 คน

Journal ข่าวสาร

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2561 จากกรณีมีการแชร์กันในโลกโซเชียลว่ามีร้านอาหารตามสั่งบริเวณถนนพายัพทิศ ซอย 9 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ให้ปริมาณอาหารเยอะและราคาไม่แพง เป็นที่ถูกใจของนักเรียน นักศึกษา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปรวจสอบที่บ้านเลขที่ 559/9 ถนนพายัพทิศ ซอย 9 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบร้านอาหารตามสั่งมีชื่อว่า “จานระเบิด” มีนายธนภัทร สุวรรณประทีป อายุ 38 ปี และนางสาวดวงพร คณา อายุ 39 ปี สองสามีภรรยาเป็นเจ้าของร้าน ภายในร้านมีโต๊ะบริการลูกค้าทั้งหมด 4 โต๊ะ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา

จากการสอบถามนายศักดิ์พล บุญญวงศ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า เริ่มจากเห็นคนแชร์กันเยอะในเฟซบุ๊ก เพื่อนที่เคยมากินก็บอกว่าอร่อยแถมได้เยอะมากจึงลองมากิน ถ้าไม่เห็นราคาในป้ายก็คิดว่าน่าจะจานละร้อยกว่าบาท ซึ่งสามารถกินได้ถึง 3-4 คนเลยทีเดียว วันนี้ตนสั่งเมนูกระเพราจานยักษ์มากินเพราะอยากลอง แต่น่าจะกินไม่หมดคงต้องห่อกลับบ้านอีกด้วย

ด้านนางสาวสิริมา ปัตตาทานัง อายุ 19 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา กล่าวว่า ตนเห็นจากเพื่อนในเฟซบุ๊กแชร์มา จึงลองมากินซึ่งเห็นว่าได้มากกว่าร้านอื่น 2-3 เท่า คิดว่าคุ้มมากหากมากินกับเพื่อนหารกัน 3-4 คน ตนเห็นว่าเป็นไอเดียแปลกใหม่ที่ดีมาก เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีรายได้มากนัก ถือเป็นการช่วยประหยัดได้อีกทางหนึ่ง

นางสาวดวงพรเล่าให้ฟังว่า ไอเดียนี้เริ่มมาจากตอนที่ตนเองยังเป็นนักศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ผู้ปกครองให้เงินมาใช้อย่างจำกัด เมื่อไปกินร้านอาหารตามสั่งรู้สึกว่าได้ในปริมาณที่น้อย ไม่พออิ่ม จึงมีความคิดที่อยากจะเปิดร้านอาหารเพื่อทำอาหารให้นักเรียน นักศึกษามารับประทานในปริมาณที่สามารถรับประทานได้จนอิ่ม เพื่อเป็นการช่วยประหยัดไปอีกทางหนึ่ง และที่สำคัญราคาอาหารต้องไม่แพง สามารถเข้าถึงนักเรียน นักศึกษาได้ทุกคน ซึ่งทุกเมนูมีให้เลือก 3 ขนาด คือ จานเด็ก 29 บาท จานปกติ 49 บาท และจานยักษ์ 69 บาท สำหรับจานยักษ์จะได้ข้าวประมาณ 1 กิโลกรัม ยังไม่รวมกับข้าวที่สั่ง สามารถรับประทานได้ 4-5 คน ทั้งนี้ตั้งแต่มีการแชร์ต่อๆ กันในโลกโซเชียล ปริมาณของคนที่เดินทางมารับประทานที่ร้านก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจนทำแทบไม่ทัน กำไรที่ได้จากการขายอาจจะไม่มากนัก เน้นที่ปริมาณของลูกค้ามากกว่า

 


ที่มา มติชนออนไลน์