‘นิวซีแลนด์’ ไฟเขียวเชือดวัว 150,000 ตัว ยุติการระบาดเชื้อไวรัส

Journal ข่าวสาร

บลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์มีคำสั่งให้ทำลายวัวจำนวนมากถึง 150,000 ตัว เพื่อยุติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “ไมโครพลาสมาโบวิส” (Microplasma bovis) ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้วัวเกิดอาการเต้านมอักเสบ ข้ออักเสบ และปอดบวม

ทางการประเทศกีวี กล่าวว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ต้องพึ่งการเพาะปลูกและปศุสัตว์ เพื่อการส่งออกเป็นสำคัญ ดังกล่าว การยุติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอันไม่พึงประสงค์ได้เร็วที่สุด จะช่วยพยุงความเชื่อมั่น และภาคการส่งออกของประเทศได้เร็วขึ้น

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ระบุว่า “การ ตัดสินใจในครั้งนี้เพื่อปกป้องภาคการเกษตร ที่เป็นรากฐานสำคัญที่สุดของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ ยอมรับว่าเป็นคำสั่งที่ยากลำบาก เพราะไม่มีใครต้องการเห็นสัตว์จำนวนมากถูกฆ่า แต่หากไม่เร่งมือควบคุมเชื้อโรค ก็จะแพร่กระจายไปยังฝูงวัวอื่นๆ ทั่วประเทศ”
REUTERS/Nigel Marple/File photo

อย่างไรก็ตาม เชื้อไมโครพลาสมาโบวิสไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ “น้ำนมและเนื้อวัว” เป็นการพิสูจน์ผ่านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ของนิวซีแลนด์อย่างถี่ถ้วนแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงประกาศใช้มาตรการเพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ เชื่อไวรัสดังกล่าวถูกพบเป็นครั้งแรกที่ ประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยยังไม่มีการยืนยันของที่มาของเชื้อดังกล่าวที่ชัดเจน

ทั้งนี้ การเชือดวัว 150,000 ตัว เพื่อกำจัดเชื้อไมโครพลาสมาโบวิสคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 886 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ อย่างไรก็ตาม จำนวนวัวที่เตรียมจะถูกฆ่านั้น เป็นเพียงส่วนน้อยของประชากรวัวในแดนกีวี ซึ่งมีทั้งหมด 4.2 ล้านตัวที่ถูกเชือดเพื่อจำหน่ายและส่งออกในแต่ละปี

ขณะที่สมาคมที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยว่า วิธีการจำกัดวัวส่วนใหญ่จะถูกส่งไปเชือดที่โรงฆ่า ภายใต้การควบคุมเชื้อไวรัสอย่างรอบด้าน ส่วนวัวบางส่วนจะถูกฆ่าและฝังดิน

 


ที่มา ประชาชาติธุรกิจ