How to ใช้ชีวิตช่วงหน้าฝนแบบ Happy ไม่มีป่วย

Health สุขภาพดีๆ
ฝนตกแบบนี้อย่าได้กลัวไปเลยค่ะซิส ต้องเผชิญกับฝนแบบสวยเริ่ดและ Happy ที่สุด เราตามมาดู How to ในการดูแลตัวเองที่จะทำให้คุณอยู่กับหน้าฝนได้อย่างสบายใจไม่ป่วยกันเลยดีกว่า

เตรียมความพร้อมก่อนออกจากบ้าน
ข้อนี้สำคัญมากๆ เลยล่ะค่ะ ถ้ารู้อยู่แล้วว่าเราอาจเจอกับฝนฟ้าคะนองในฤดูนี้ ก็ต้องพกร่มหรือเสื้อกันฝน ตัวช่วยที่จะทำให้เราลดการเสี่ยงที่จะไม่สบายจากสายฝนได้ เรียกได้ว่าเตรียมตัวไว้ก่อน มีชัยไปกว่าครึ่ง นอกเหนือจากเรื่องของอุปกรณ์กันฝนแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างคือการพกยาลดไข้นี่แหละค่ะ เพราะไม่ใช่แค่การโดนละอองฝนเท่านั้นที่จะทำให้เราไม่สบายไม่แฮปปี้ แต่อากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยในฤดูกาลนี้นี่แหละตัวดีเลย อยู่ๆ คุณอาจจะไข้ขึ้นเอาดื้อๆ พกยาไว้เป็นที่พึ่งในยามจำเป็น ช่วยได้เยอะ

วิตามินซีต้านอาการป่วย
กันไว้ดีกว่าแก้ ก็ต้องเลือกดื่มหรือทานตัวช่วยชั้นดีอย่าง “วิตามินซี” กันเลยค่ะ ถ้าชอบทานเป็นเม็ดก็ทานได้บ่อยๆ ตลอดทั้งวัน หรือเลือกทานเป็นเครื่องดื่มที่มีสารสกัดจากวิตามินก็ช่วยให้เฟรชได้เหมือนกัน อาทิ เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เป็นต้น แต่ถ้าใครชอบทานผักผลไม้สดๆ ก็ยิ่งดีใหญ่เลย เพราะจะได้คุณประโยชน์จากวิตามินซีโดยตรงแบบไม่ปรุงแต่ง เลือกผลไม้หรือผักที่ให้วิตามินซีในปริมาณสูงอย่าง ส้มหรือฝรั่ง ฯลฯ นอกจากจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายแล้ว ยังไม่ทำให้เพิ่มน้ำหนักอีกด้วย

อาหารแบบไหนที่ควรทานช่วงหน้าฝน
ใช่ว่าอาหารทุกชนิดจะดีต่อร่างกายในภาวะที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ เพราะฉะนั้น ควรศึกษาว่าอาหารหรือสมุนไพรชนิดไหนที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เราขอแนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีส่วนผสมของ “ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา หรือกระชาย” เนื่องจากเป็นผักสมุนไพรชนิดเผ็ดร้อน ที่มีผลดีในการไปช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายได้เป็นอย่างดี

รวมไปถึงผักทานง่ายที่เด็กๆ ก็สามารถเลือกทานได้อย่าง “ฟัก” นำมาทำเป็นเมนูต้มจืดร้อนๆ สักถ้วย ก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ไม่ว่าจะเจอกับลมฝนมาก็ไม่หวั่น

ทำใจให้เย็นสบายเหมือนสายฝน
จริงๆ แล้วฤดูฝนไม่ได้มาพร้อมกับความเฉอะแฉะ หรือโรคภัยไข้เจ็บทางร่างกาย แต่หลายครั้งก็เล่นบั่นทอนจิตใจได้เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่บนท้องถนนที่ต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรติดขัดอย่างรุนแรง หรือผู้ที่ใช้บริการรถสาธารณะที่ต้องยืนรอเป็นเวลานานกว่าปกติ พาลเอาหงุดหงิดท้อใจไปแบบสุดๆ วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเกี่ยวกับจิตใจก็คือการหาความบันเทิงเพื่อผ่อนคลายนั่นเองค่ะ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังรถติดอยู่ในท้องถนน ลองเปิดเพลงที่ผ่อนคลายฟังคลอไประหว่างการเดินทาง หรือเม้ามอยกับเพื่อนหรือคนสนิทระหว่างทางเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป เบนความสนใจที่มัวหมองให้ดูผ่อนคลายขึ้น เท่านี้ก็จะได้ไม่ต้องโกรธสายฝนกันอีกต่อไป

ดูแลผิวพรรณและสุขภาพเท้าช่วงหน้าฝน
นอกจากปัญหาสุขภาพเรื่องไข้หวัดที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายในช่วงฤดูฝน ก็อย่าลืมดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะสุขภาพเท้าที่ต้องเผชิญกับน้ำขัง หรือสิ่งสกปรกไหลผ่าน อาจเกิดอาการเท้าอับ เชื้อราที่เท้าหรือเท้าเปื่อยก็เป็นได้ วิธีง่ายๆ ที่เรานำมาฝากหากคุณต้องเผชิญกับน้ำท่วมขังในฤดูฝน ลองทำตามนี้กันดูนะคะ
1. ทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำอุ่น แช่ด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ แช่เท้าพักไว้ประมาณ 10 นาที
2. นำผ้าขนหนูซับเท้าจนแห้งสนิท
3. โรยแป้งบริเวณซอกนิ้วเท้า เพื่อป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับ
4. ในขณะที่เท้าแห้งเกินไป ควรทาครีมที่ปราศจากกลิ่นน้ำหอม เพื่อป้องกันอาการแพ้ และสร้างความชุ่มชื้นให้กับเท้า โดยแนะนำให้ทาครีมตั้งแต่บริเวณนิ้วเท้าไปจนถึงฝ่าเท้าและส้นเท้าตามลำดับ (ทาบางๆ เท่านั้น) จากนั้น พักไว้ให้แห้ง แล้วค่อยทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป โดยการบำรุงเท้านั้นสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอทุกวันเลยค่ะ และนอกจากสุขภาพที่ดีแล้ว ผิวพรรณในส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ห้ามละเลยเช่นกัน ควรเลือกทาครีมบำรุงผิวก่อนเข้านอนหลังจากทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยแล้ว
5. บริหารกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการยกปลายเท้าขึ้นลงรอบละ 10 ครั้ง เป็นจำนวน 3 รอบ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน

อย่ามองว่า “ฝน” เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต
ข้อนี้สำคัญมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะหลายคนมักตั้งแง่และให้ความหมายของสายฝนว่าเป็นสิ่งรำคาญจิตใจ เป็นความลำบากในการใช้ชีวิต แต่ถ้าเราคิดกลับกันในอีกมุมหนึ่ง สายฝนมีประโยชน์มากมายกับชีวิตเลยทีเดียวทั้งเรื่องกิน เรื่องอยู่ และสภาพแวดล้อม ล้วนเจริญเติบโตและดีขึ้นเมื่อมีสายฝน หากวันไหนคุณต้องอยู่แต่ในบ้านเพราะฝนตกชุ่มฉ่ำ ลองหาภาชนะมารองน้ำฝนเก็บไว้สำหรับทำประโยชน์ได้หลายอย่าง อาทิ ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ แค่นี้ก็ช่วยประหยัดค่าน้ำไปได้เยอะแล้ว เห็นไหมล่ะคะว่าสายฝนก็นำพาสิ่งดีๆ มาให้เราได้ Happy ในการใช้ชีวิตเช่นกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับไอเดียการใช้ชีวิตในหน้าฝนแบบ Happy ไม่มีป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ลองทำตามไอเดียที่เรานำมาฝากกันดูนะคะ รับรองว่าจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ