ทำไมต้องกิน “ควินัว” ประโยชน์น่ารู้ที่คุณต้องไม่พลาด

Health สุขภาพดีๆ

หลายคนอาจคุ้นหูกับคำว่า “ควินัว” แต่เชื่อสิว่าก็ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าประโยชน์ของควินัวจริงๆ มีอะไรบ้าง สายสุขภาพต้องตามมาอ่านกันเลย!

ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับ “ควินัว” กันก่อนดีกว่า “ควินัว” เป็นธัญพืชคล้ายพืชตระกูลถั่ว ที่มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่ชนเผ่าพื้นเมืองชาวอินคา ในแถบทวีปอเมริกาใต้ และในความเป็นจริงแล้วควินัวไม่ใช่ธัญพืชเหมือนถั่ว แต่เป็นพืชตระกูลเดียวกับเดียวกับหัวบีท ผักโขม ที่มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่า “ซูเปอร์ฟู้ด” คราวนี้เรามาดูประโยชน์ของพืชชนิดนี้กันดีกว่า

แหล่งเส้นใยอาหารชั้นดีในควินัว
เห็นเป็นเมล็ดจิ๋วๆ แบบนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า “ควินัว” อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร โดย ควินัว 1 ถ้วยจะมีปริมาณเส้นใยอาหารประมาณ 5 กรัม เป็นเส้นใยชนิดไม่ละลายน้ำที่จำเป็นต่อระบบการย่อยอาหารในร่างกาย เส้นใยชนิดนี้จะให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้ง่าย ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

ลดน้ำหนักด้วย “ควินัว”
เพราะ “ควินัว” เป็นพืชที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมอาหาร รวมไปถึงเหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะควินัวมีปริมาณไขมันน้อย จึงช่วยลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ

โปรตีนสูงประโยชน์มากมี
เพราะใน “ควินัว” อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ 9 ชนิด ซึ่งประกอบไปด้วยไลซีนที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ควินัวมีโปรตีนที่คล้ายกับสัตว์ โดยในควินัว 1 ถ้วย จะให้พลังงาน 220 แคลอรี่ และโปรตีน 8 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับโปรตีนที่ได้จากไข่ 1 ฟองกันเลย ข้อควรแนะนำในการทานควินัวอีกเล็กน้อยก็คือ แม้เราจะรู้ว่าในควินัวให้โปรตีนสูงแต่ก็มีคาร์โบไฮเดรตมากกว่าแหล่งโปรตีนอื่นๆ เช่นเดียวกัน

ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
ในควินัวอุดมไปด้วย Quercetin ซึ่งเป็นสารในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแบบเดียวกับที่พบในพืช ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง รวมไปถึงโรคอีกหลายชนิดเลยทีเดียว

ใครแพ้กลูเตนต้องทานควินัว
กลูเตนนั้นเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในข้าวชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวไรย์ ข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์ โดยส่วนใหญ่พบในผลิตภัณฑ์จำพวกแป้งสาลี อาทิ แป้งเค้ก แป้งพาย เบเกอรี่ต่างๆ ซึ่งควินัวไม่มีกลูเตนจึงสามารถนำควินัวมาประกอบอาหารทดแทนได้เช่นกัน

นานาประโยชน์มากมายจาก “ควินัว” ซูเปอร์ฟู้ดที่หลายคนกำลังเริ่มหันมานิยมประกอบอาหารและรับประทาน เพราะมีดีขนาดนี้ ถ้าอยากดูแลตัวเองและรักสุขภาพ เราแนะนำให้ลองหันมาทาน “ควินัว” กันเยอะๆ นะคะ

ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ