“น้ำพริกป่า” สูตรคุณชายคึกฤทธิ์ น้ำพริกที่ไม่ต้องใช้ครกกับสาก

Food Story อาหาร

ชื่อของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นอกจากจะเป็นเสาหลักของบ้านเมืองในอดีตแล้ว ชื่อเสียงของอาจารย์หม่อม ที่ใครต่อใครเรียกขานด้วยความเคารพยังมีอีกมากมายหลายด้าน นับว่าท่านเป็นพหูสูตรอย่างแท้จริง ถ้าพูดกันในเรื่องของอาหารการกินแล้วอาจารย์หม่อมก็นับเป็น “นักชิม” ตัวยง กับเขาด้วยคนหนึ่ง ยิ่งการทำครัว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มีฝีมือยกเป็นชั้นครูได้เลยทีเดียว อย่างเช่นเรื่องของ “น้ำพริก” อาหารประจำสำรับกับข้าวแบบไทยๆ คุณชายคึกฤทธิ์มีสูตรการตำน้ำพริกเยอะแยะมากมายจนสามารถเขียนออกมาได้เป็นเล่มๆ ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างก็ได้รับอานิสงส์ในเรื่องนี้ อีกทั้งยังเป็นลาภปากได้กินของอร่อยๆ ในเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

ถึงกระนั้นก็ตาม แม้ท่านจากไปร่างสลายหายไปแล้ว แต่ชื่อเสียงยังปรากฏอยู่เป็นนิรันดร์ ฉันใดก็ฉันนั้น ชื่อของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ยังเป็นบุคคลสำคัญมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในด้านการครัวหรืออาหารการกิน ท่านได้ฝากตำราอาหารและสูตรอาหารต่างๆ ไว้มากมาย อาจารย์หม่อมเคยเล่าถึงการตำน้ำพริกชนิดหนึ่ง เรียกว่า “น้ำพริกป่า” ท่านบอกด้วยว่าเป็นน้ำพริกที่ไม่ต้องใช้ครกกับสาก และยังมีส่วนผสมใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม ผิดไปจากสูตรน้ำพริกเดิมๆ ในสำรับข้าวไทย ที่ต้องใช้กะปิ กระเทียม และพริกเป็นพื้น ลองดูว่าน้ำพริกสูตรนี้มีดีอย่างไร

เริ่มกันด้วย “เครื่องปรุง” ก่อน ซึ่งออกจะผิดเพี้ยนไปจากน้ำพริกธรรมดามากอยู่ จึงขอบอกไว้ให้ละเอียด เครื่องปรุงน้ำพริกป่านั้น มีดังนี้ กุ้งสดเผา ส้มซ่า หอม กระเทียม กะปิ เกลือ น้ำปลา น้ำตาลปึก มะนาว พริกขี้หนู และ พริกเหลือง

มะนาว
พริกขี้หนู
น้ำพริกป่า (ภาพจาก : Thai PBS)

“น้ำพริกป่า” มีของแปลกใหม่ใส่เข้ามาหลายอย่าง เช่น กุ้งสดเผาอย่างหนึ่ง ส้มซ่าอีกอย่างหนึ่ง น้ำพริกเราไม่เคยใส่หอม แต่ครกนี้ใช้ใส่รวมไปกับกระเทียม นอกนั้นเครื่องปรุงก็เหมือนน้ำพริกธรรมดา ที่แปลกประหลาดไปกว่าน้ำพริกอื่นทั้งหมด ก็คือ น้ำพริกครกนี้ไม่ต้องใช้ครกกับสากเลย ใช้ผสมเอาอย่างนั้นแหล่ะครับ และใช้นิ้วมือคลุกก็ได้ อร่อยดีด้วย หรือจะใช้ช้อนส้อมคลุกก็ได้อีกเหมือนกัน

เริ่มต้นเอากุ้งสดมาเผา พอเริ่มจะสุกหรือสุกแล้วเล็กน้อย นำมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ มันกุ้งเอาใส่ไปด้วย ส้มซ่าหั่นให้ละเอียด ซอยหอมกับกระเทียม แล้วเอาทุกสิ่งที่บอกไว้นี้ผสมกับกะปิใช้มือเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และ น้ำตาล ได้รสดี แล้วหั่นพริกใส่ ใช้รับประทานกับผักสด แกล้มด้วยปลาดุกย่างหรือปลาช่อนทอด น้ำพริกชามนี้ ต้องเรียกว่าชาม เพราะไม่ได้ใช้ครก ลองทำรับประทานดูเถอะครับ อร่อยสิ้นดี ไม่มีเครื่องปรุงอะไรมาก กุ้งเดี๋ยวนี้หาไม่ยากแล้ว ถ้าหากว่าไม่นึกว่าเป็นน้ำพริกเสียอย่างหนึ่ง จะเว้นเอาผักออกไปเลยก็ได้ไม่ต้องมาจิ้มให้เสียเวลา และใช้คลุกกับข้าวรับประทานจะอร่อยมาก ถ้าจะให้ดี ก็เจียวไข่ให้ค่อนข้างฟู เอาไว้แกล้มอีกสักจานหนึ่ง

“ใครที่ไหนจะเอาผมไปฆ่าที่ไหนก็ตามใจเถิด แต่ผมจะต้องบอกไว้ที่นี่อีกครั้งว่า ไข่เจียวนั้น ถ้าหากว่าเจียวด้วยน้ำมันพืช ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนจะไม่อร่อย ถ้าจะให้อร่อยต้องเจียวด้วยน้ำมันหมูแต่อย่างเดียวเท่านั้น”

ท่านว่าของท่านไว้อย่างนี้ หากสงสัยประการใด ลองเข้าครัวลงมือทำตามสูตรนี้ ดูสิว่าจะเป็นน้ำพริกที่ “อร่อยสิ้นดี” อย่างที่ว่าหรือไม่!!