สุสานฉิน ความมหัศจรรย์ของโลกคนตาย

Culture ศิลปวัฒนธรรม

เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับ “สุสานจิ๋นซี” หรือสำเนียงจีนแมนดาริน ว่า “ฉินสื่อ” จึงได้เรียบเรียงเรื่องของสุสานจิ๋นซี มาให้ได้เรียนรู้ก่อนว่าเป็นอย่างไร จากนั้นใครที่สนใจไปดูงานนิทรรศการที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ก็จะได้ดูอย่างมีอรรถรสมากขึ้น

“สุสานฉิน (จิ๋นซี)” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมชุดแรกของประเทศจีน ทั้งยังเป็นแหล่งที่ดูแลรักษาโบราณวัตถุที่สำคัญแห่งแรกของประเทศจีนด้วย สร้างขึ้นเมื่อ 247 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งเป็นปีแรกของการขึ้นครองราชย์ของ “จักรพรรดิ์ฉินสื่อ” จนถึงปีที่สองของจักรพรรดิ์ฉิน องค์ที่ 2 หรือเมื่อปี 208 ก่อนคริสตศักราช รวมเวลา 39 ปี  สุสานฉินเป็นสุสานจักรพรรดิ์ที่มีเนิ้อที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 และออกแบบได้อย่างสมบูรณ์ยิ่ง

สุสานมีเนื้อที่ทั้งหมด 60 ตารางกิโลเมตร มีการแบ่งพื้นที่ภายในเป็นส่วนต่างๆ มีโบราณวัตถุล้ำค่าและมีความสัมพันธ์กับสุสานฉินสื่อ ส่วนกลางของบริเวณสุสานตั้งตรงกับสุสานจักรพรรดิ์ฉินสื่อ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีกำแพงสองชั้น กำแพงด้านในแบ่งเป็นส่วนทิศเหนือและส่วนทิศใต้ ระหว่างกำแพงทั้งด้านในและด้านนอกฝั่งทิศตะวันตกและตะวันออก พบอาคารสูงลดหลั่นกัน 3 ชั้น หันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ได้สัดส่วนกัน  สร้างโดยเน้นให้สุสานจักรพรรดิ์ฉินสื่อตั้งเด่นเป็นศูนย์กลาง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และมีส่วนที่สร้างยืดออกไปทางทิศตะวันตก ซึ่งยังคง

โครงสร้างแบบตรงแกนกลางระหว่างด้านตะวันออกและตะวันตก เช่น ตำแหน่งของอาคารที่สูงลดหลั่นกันสามชั้นดังกล่าว และทางรถม้าวิ่ง เป็นต้น

ตำแหน่งของสุสานตั้งอยู่ตรงส่วนกลางค่อนมาทางทิศใต้ด้านในเมือง มีเเนื้อที่ 25,000 ตารางเมตร เป็นรูปทรงอักษาจีน “โต่ว” หมายถึงภาชนะจีนโบราณ มีความสูง 51 เมตร รอบฐานมีความยาวมากกว่า 1,700 เมตร  มีดินกลบหนา สูงตระหง่าน เป็นลักษณะทรงหอสูง รูปทรงกรวยขนาดใหญ่โต เนื้อที่ด้านบนยอดเป็นรูปสี่เหลี่ยม สร้างจากแรงงานคนจำนวน 1 แห่ง มี 3 ชั้น ขนาดของควายาวที่เห็นเป็นดินทับถมกันนั้น จากทิศเหนือถึงทิศใต้ 350 เมตร ความกว้างจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก 345 เมตร ความสูง 52.50 เมตร พื้นของอาคารเป็นกองดินทับถมกันลึกมากกว่า 50 เมตร

อาณาจักรฉิน
การขุดค้นสุสานจิ๋นซี

ห้องสุสานมีความยาวจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก 80 เมตร ความกว้างจากทิศเหนือไปทิศใต้ 50 เมตร เนื้อที่ว่างด้านบนสูง 15 เมตร พื้นสุสานบรรจุเก็บสารพวกปรอท ทั้งยังมีระบบระบายน้ำอยู่ด้านล่างที่บริเวณโดบรอบสุสาน เพื่อป้องกันให้สุสานมีความปลอดภัยตลอดเวลา ส่วนที่เป็นอาคารสักการะมีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสุสาน มีระเบียงวนรอบที่บริเวณด้านอก มีฐานสูงอยู่ตรงกลาง อาคารหลักนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือใกล้กับกำแพงทิศเหนือด้านใน ตั้งอยู่รวมกับซากอาคารอื่นๆ นอกจากนี้ทิศเหนือของกำแพงด้านในบริเวณฝั่งตะวันตก เป็นที่ตั้งของกลุ่มอาคารเอนกประสงค์ และทิศเหนือของกำแพงด้านในบริเวณฝั่งตะวันออก เป็นบริเวณสุสานของเหล่า

บรรดาเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ที่พระตำหนักหลังที่ฝังพร้อมร่วมกันไป

พื้นที่ระหว่างกำแพงเมืองชั้นในและชั้นนอก ด้านทิศตะวันตกเป็นทางรถม้า แบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนเหนือและส่วนใต้ บริเวณทิศใต้มีหลุมฝังคอกม้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ 1 หลุม หลุมฝังโบราณวัตถุขนาดเล็ก 16 หลุม  หลุมฝังสัตว์ปีกและสัตว์สี่เท้า รวมทั้งหลุมฝังหุ่นทหารทำท่านั่งคุกเข่า 31 หลุม บริเวณทิศเหนือใกล้กับทางรถม้ามีสุสานเจ้าพนักงานประจำพระตำหนักหลังที่ฝังพร้อมไปด้วย 1 แห่ง ส่วนอื่นๆ เป็นร่องรอยของสถานที่สำหรับการจัดเตรียมอาหารให้ผู้ทำงานก่อสร้างสุสานและอาหารที่ใช้สำหรับเซ่นไหว้บูชาสุสาน ตลอดทั้งผู้ดูแลสุสาน เนื้อที่ระหว่างกำแพงเมืองด้านในและด้านนอกทางทิศตะวันออก บริเวณทางทิศใต้ของรถม้า มีหลุมฝังหุ่นทหาร นักแสดงตัวละครต่างๆ หลุมฝังเสื้อเกราะและหลุมฝังโบราณวัตถุขนาดใหญ่ 1 หลุม ที่บริเวณด้านทิศตะวันออกของกำแพงรอบนอก

ที่หมู่บ้านซั่งเจียวชุน พบหลุมฝังโบราณวัตถุ 17 หลุม มีหลุมฝังโรงม้า 101 หลุม หลุมฝังหุ่นทหาร กองทัพทหารและม้า 1 กองทัพ ทิศเหนือขุดพบหลุมฝังที่เป็นที่เก็บสะสมเสบียงประเภทเนื้อสัตว์ 1 หลุม หลุมฝังสัตว์ที่ทำด้วยสำริด 1 หลุม รวมทั้งซากอาคารขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นที่ทำการระหว่างดำเนินการก่อสร้างสุสานและซากเมืองลี่อี้ ซึ่งเป็นที่พักสำหรับคณะทำงานก่อสร้างสุสานและเฝ้าดูแลสุสาน  และยังได้พบสถานที่เป็นเตาเผาอิฐกระเบื้องที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ทางทิศตะวันตก ซากโรงแปรรูปวัสดุหิน รวมทั้งหลุมฝังพนักงานที่ก่อสร้างสุสาน 3 แห่ง ด้านทิศใต้ขุดพบเขื่อนทำนบป้องกันน้ำหลาก มีความยาวประมาณ 3,500 เมตร  สิ่งที่ฝังร่วมกันไปในสุสานเหล่านี้  ล้วนตั้งอยู่เป็นกลุ่มบนพื้นที่แบ่งเป็น 3 ส่วน เรียงตัวจากด้านในไปด้านนอก เว้นระยะห่างกันอย่างลงตัว โดยมีกำแพงชั้นในและชั้นนอกเป็นเขตกั้น

“จิ๋นซีฮ่องเต้” (ฉินสื่อ) จักรพรรดิ์องค์แรกของแผ่นดินจีน เป็นผู้ครองที่เฉียบขาดและปราดเปรื่อง เรื่องของพระองค์ถูกเล่าขานมานานกว่า 2,200 ปี ในฐานะผู้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ เข้าเป็นจักรวรรดิฉิน และถือเป็นผู้ผนวกแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียว

หลุมที่พบรถม้า เมืองหยงเฉิง
กองทัพทหารดินเผา
แผนผังตำแหน่งที่ตั้งสุสานจิ๋นซี
หุ่นทหารและม้าดินเผาในสุสานจิ๋นซี

“ฉิน” ที่เป็นต้นรากของคำว่า “จีน” ในปัจจุบัน บันทึกเก่าแก่ของ “ซือหม่าเฉียน” นักบันทึกประวัติศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีนซึ่งรับราชการอยู่ในสมัยฮั่น ได้พรรณนาถึงสถานที่ฝังพระศพของพระองค์เอาไว้อย่างยิ่งใหญ่และวิจิตรพิสดารจนยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จนกระทั่งเกิดการค้นพบกองทัพหุ่นทหารดินเผาซึ่งมีขนาดเท่าคนจริงเมื่อ 45 ปีที่แล้ว ก่อนที่ประวัติศาสตร์ของจีนจะมีความชัดเจนขึ้นในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ มีการเกิดข้นของราชวงศ์ที่ปกครองอยู่แล้ว 3 ราชวงศ์ คือ ราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ชาง และราชวงศ์โจว โดยราชวงศ์โจวเป็นราชวงศ์ที่มีอำนาจปกครองยาวนานที่สุดในระยะเวลากว่า 800 ปี และเมื่อสิ้นสุดยุคของราชวงศ์นี้ แผ่นดินจีนก็แยกออกเป็นแว่นแคว้นต่างๆ ถึง 7 อาณาจักรอยู่หลายสิปปี กระทั่ง “ฉินอ๋องเจิ้ง” หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ในเวลาต่อมา ได้สถาปนาขึ้นเป็นผู้ปกครอง และทรงรวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ เข้าเป็นปึกแผ่นในที่สุด

นิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีน กับกองทัพทหารดินเผา ที่นำมาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่นำโบราณวัตถุจากสุสานจิ๋นซี มาจัดแสดงเท่านั้น แต่ยังจัดแสดงโบราณวัตถุในภาพรวม เพื่อเผยแพร่ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมและพิธีกรรมสำหรับฮ่องเต้และจักรพรรดิ ที่แสดงถึงการถ่ายทอดวัฒนธรรม ตลอดจนศิลปกรรมต่างๆ โดยวัตถุที่นำมาจัดแสดง มีทั้งโบราณวัตถุจากยุคก่อนการรวมชาติ สมัยราชวงศ์โจวตะวันออก ซึ่งมีอายุ 2,700 ปีมาแล้ว และโบราณวัตถุสมัยราชวงศ์ฮั่น อาณาจักรอันรุ่งเรืองที่ดำรงความยิ่งใหญ่และมั่งคั่งสืบต่อจากอาณาจักรก่อนหน้า ทั้งหลายเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองจีนในสมัยต่อมา ได้สืบสานและปรับเปลี่ยนคติการปกครอง วิถีการดำเนินชีวิต และมีการเตรียมชีวิต เพื่อโลกหน้า สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิต และจารีตของชาวจีนที่ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน