ปลูกพริกขี้หนู กำไรเบาๆ ให้ครอบครัว

Business ธุรกิจ
พริก เป็นส่วนผสมที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทย วันนี้เราเลยจะชวนเพื่อนๆ มา “ปลูกพริกขี้หนูสวนง่ายๆ” เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวอีกทางหนึ่งค่ะ

สิ่งที่ต้องมี
เมล็ดพันธุ์พริก, ถาดพลาสติกเพาะกล้า, เศษไม้เล็กๆ, ดินร่วนหรือดินที่หาได้ตามบริเวณบ้าน, เศษฟางแห้งหรือหญ้าแห้ง

ขั้นตอนการปลูกง่ายๆ
1. เตรียมดินละเอียดพร้อมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ในอัตราส่วน 2:1 และใส่ดินผสมดังกล่าวลงในถาดพลาสติกเพาะกล้า แล้วใช้เศษไม้เล็กๆ (ขนาดเท่าไม้จิ้มผลไม้) กดดินที่บรรจุอยู่ในถาดพลาสติกเพาะกล้า ให้มีความลึก 0.5 เซนติเมตร
2. นำเมล็ดพริกขี้หนูหยอดลงในหลุมปลูก หลุมละ 1-2 เมล็ด แล้วกลบดินผิวหน้าเมล็ดพริกขี้หนู รดน้ำให้ชุ่ม (ควรใช้ปูนขาวโรยเป็นเส้นรอบรูปล้อมถาดเพาะไว้ เพื่อป้องกันมดมาคาบเมล็ดไป)
3. หลังเพาะเมล็ดนาน 7-10 วัน ต้นพริกจะเริ่มงอก จึงควรรดน้ำต้นกล้าพริกขี้หนูทุกวัน วัน ๆ ละ 1-2 ครั้ง เวลาเช้าและเย็น จนต้นกล้าพริกขี้หนู มีอายุ 25-30 วัน จึงย้ายต้นกล้าพริกขี้หนูลงไปปลูกในกระถางหรือในแปลงปลูก

การเตรียมแปลงหรือกระถางปลูกพริกขี้หนู
1. ถ้าปลูกพริกขี้หนูในแปลง…ควรเตรียมดิน โดยใช้จอบขุดย่อยดินหน้าดิน ให้มีความลึก 15-20 เซนติเมตร และย่อยดินให้ละเอียด จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก แล้วหว่าน คลุกเคล้าให้เข้ากับดินในแปลง จากนั้นนำกล้าพริกลงไปปลูก
2. ถ้าปลูกในกระถาง…ให้ผสมดินปลูกในกระถาง โดยใช้ดินร่วนละเอียดผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ในอัตราส่วน 2:1 แล้วย้ายกล้าพริกขี้หนูลงไปในแปลง

การดูแลพริกขี้หนู
1. หลังย้ายต้นกล้าลงในแปลงหรือในกระถางแล้ว ควรรดน้ำทุกวัน ในช่วงการติดผลควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
2. หลังย้ายปลูก 7-10 วัน ควรใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตราส่วน ตันละ 1/4 ช้อนชา และโรยปุ๋ยห่างโคนต้นประมาณ 2-3 เซนติเมตร และรดน้ำทันที ซึ่งควรใส่ทุกๆ 15 วัน
3. หลังย้ายปลูก 60 วัน พริกขี้หนูเริ่มออกผล สามารถเก็บผลได้ 2-3 เดือน
*** ควรหมั่นเก็บผลผลิตพริกขี้หนูที่เริ่มแก่ออกขายหรือบริโภค และอาจตัดแต่งกิ่งหรือตัดต้นที่เป็นโรคหรือโทรม เพื่อทำให้ต้นแข็งแรง และสามารถให้ผลผลิตรุ่นใหม่ได้ดีขึ้นค่ะ

ประโยชน์ของพริก
1. ช่วยขับเสมหะ ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง
2. บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ
3. ช่วยกระตุ้นสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารสร้างความสุข และทำให้ผ่อนคลาย
4. ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยย่อยอาหาร ขับลม ลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
5. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

ที่มา : แม่บ้าน