“ใบเล็บครุฑลังกา” จานใส่อาหารจากธรรมชาติ ทั้งสวยทั้งช่วยลดโลกร้อน

Business ธุรกิจ

“ต้นเล็บครุฑลังกา” ไม้ประดับต้นที่นิยมปลูกทั้งในกระถางและแปลงจัดสวน เนื่องจากมีลำต้นและทรงพุ่มไม่สูง เพียง 3 เมตร ใบมีลักษณะแปลก มีลวดลายสวยงาม ในบางตำราบอกว่า ต้นเล็บครุฑลังกา เป็นไม้มงคลที่ถือตามความเชื่อว่า จะช่วยให้รอดพ้นจากภยันตราย

ที่บอกว่าได้รับความนิยมนั้นก็มาจากส่วนใบของต้นเล็บครุฑลังกานั่นเอง เพราะสามารถนำมาเป็นภาชนะใส่อาหารทดแทนการใช้จานเซรามิก หรือกล่องโฟมได้ดีเยี่ยม ซึ่งใบนั้นก็สามารถนำไปทำอาหาร อย่างเช่น ห่อหมก แทนการใช้ใบยอได้เช่นกัน โดยใบมีกลิ่นหอม ให้รสเผ็ดร้อน นำมาต้มดื่มแก้อาการปวดหัว หรือปวดเมื่อยอื่นๆ ตามร่างกาย

คุณนัน-นัยนันท์ อาบสุวรรณ์ อายุ 42 ปี และคุณมณทิรา บุญวาที อายุ 39 ปี สองสาวเจ้าของสวน ผู้ปลูกต้นเล็บครุฑลังกาในจังหวัดตราด โดยทั้งคู่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยคุณนันเรียนจบปริญญาตรีเทคโนโลยีการผลิตพืช ส่วนคุณมณทิรา เรียนปริญญาตรีด้านการจัดการศัตรูพืช และเรียนต่อปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวด้วยกันจนจบ

โดยทั้งสองใช้ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการเกษตรที่เรียนมา ประกอบอาชีพ ทำสวนเพาะพันธุ์ต้นเล็บครุฑลังกาจำหน่ายทั่วประเทศ

เจ้าของสวนในวัย 42 ปี เล่าให้ฟังว่า หลังเรียนจบเธอยึดอาชีพทำเกษตรมาโดยตลอด เริ่มจากเปิดร้านขายไม้ดอกไม้ประดับ ด้วยชอบเฟิร์นสายเป็นการส่วนตัว จึงเปิดโรงเรือนเพาะขาย กระทั่งปัจจุบันได้เพาะพันธุ์ต้นเล็บครุฑลังกาขายอีกชนิด

“หันมาเพาะพันธุ์ต้นเล็บครุฑลังกาขาย เพราะมีลูกค้าหลายคนสอบถามเข้ามาเยอะ ว่าจะหาต้นไม้ชนิดนี้ได้จากที่ไหน เห็นว่าในละแวกบ้านเรามีต้นไม้ชนิดนี้อยู่จำนวนมาก ถามพ่อแม่ท่านก็ไม่ทราบว่าขึ้นในพื้นที่จังหวัดตราดได้อย่างไร แต่รู้ว่ามีมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายแล้ว ปลูกกันแทบจะทุกบ้าน เรามีวัตถุดิบอยู่แล้ว จึงนำมาเพาะพันธุ์ขายตามคำเรียกร้องจากลูกค้า” คุณนัน เล่าที่มา

ซึ่งคุณนันนำมาเพาะพันธุ์ ควบคู่กับการเพาะเฟิร์นสายขาย รวมๆ พื้นที่แล้ว ราว 2-3 ไร่ นอกจากนี้แล้ว เธอเองยังมีไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง นาข้าว เกือบ 60 ไร่ อยู่ที่จังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

ในส่วนของการเพาะพันธุ์ต้นเล็บครุฑลังกานั้น คุณนัน บอกว่า เริ่มจากเตรียมดินปักชำ สามารถใช้ดินผสมที่มีวางจำหน่ายทั่วไปได้ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ใช้ไม้หรือเหล็กแทงนำก่อนจะทำให้ปักง่ายและกิ่งไม่ช้ำ กดดินให้แน่นพอประมาณเพื่อไม่ให้กิ่งโยกคลอน จากนั้นวางถุงปักชำไว้ในร่มรำไร รดน้ำให้ชุ่ม อย่าขยับถุงบ่อยๆ พยายามรดน้ำอย่าให้ดินแห้ง ประมาณ 2 สัปดาห์จะเริ่มมียอดแทงออกมา หากอยากให้โตเร็วสามารถใส่ปุ๋ยสูตรเสมอได้

แม้การขยายพันธุ์จะมีขั้นตอนที่ง่าย สามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่ยังมีข้อควรระวัง คุณนัน บอกว่า ถ้าปลูกเพื่อนำใบไปเป็นภาชนะใส่อาหาร ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะขึ้นอยู่กับแสง น้ำ และความชื้น ต้นไม้ชนิดนี้ชอบดินร่วนปนทราย ถ้าปลูกในป่าทึบ ไม่ค่อยโดนแดดใบจะแบไม่เป็นรูปถ้วย แต่ถ้าแดดจัดใบจะเล็กและเหลือง ฉะนั้น ควรปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ โดนแดดรำไร จะได้ใบสีเขียวสดมันเป็นรูปถ้วย

ปัจจุบันคุณนันสามารถเพาะต้นเล็บครุฑลังกาไว้ขายได้มากถึงหนึ่งหมื่นต้น ในจังหวัดตราดเองยังมีเกษตรกรส่วนน้อยที่ปลูก หากได้รับความนิยมมาก คิดว่าไม้ชนิดนี้คงมีคนปลูกเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ล้นตลาด เพราะใช่ว่าจะสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย

คุณนัน-นัยนันท์ อาบสุวรรณ์ อายุ 42 ปี และคุณมณทิรา บุญวาที อายุ 39 ปี

สำหรับประโยชน์ของต้นเล็บครุฑลังกานั้นมีหลากหลาย หนึ่งในที่เห็นได้ชัดคือการนำมาเป็นภาชนะใส่อาหาร ซึ่งเป็นที่ฮือฮาอยู่พอสมควร

“ชาวบ้านในจังหวัดตราดเรียกใบเล็บครุฑลังกาว่า ใบตานี ใช้ใบทำอาหารแกงกะทิและทำห่อหมกรสชาติไม่เฝื่อน และยังใช้ใบเป็นถ้วยใช้ใส่อาหาร แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่ควรใส่อาหารที่มีน้ำ ใส่แต่อาหารแห้ง หรือขนมจะเหมาะสมกว่า นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว ยังสามารถปลูกเป็นแนวรั้วบ้านประดับได้ เพราะลำต้นมีลักษณะเป็นพุ่มไม่สูงมาก”

สำหรับใบที่นำมาเป็นภาชนะ ส่วนใหญ่มีสามขนาด ถ้วยเล็กถึงกลางมีขนาดประมาณ 5 นิ้ว ส่วนถ้วยใหญ่มีขนาด 8-10 นิ้ว แต่จะให้ได้ถ้วยใหญ่ต้องเป็นต้นที่มีอายุ 7-8 ปี หากจะเก็บใบขายต้องปลูกหลายๆ ต้น เพราะในหนึ่งต้นไม่สามารถเก็บใช้ได้ทุกใบ แต่ในการปลูกหนึ่งครั้ง หากดูแลดีๆ สามารถเก็บผลผลิตได้เป็นสิบปี

“การเก็บใบขายต้องปลูกหลายๆ ต้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า บางรายอยากได้ 500-1,000 ใบ ต้องคัดคุณภาพให้ แต่ถ้าใช้ในการกินไม่ต้องคัดมาก ตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่สั่งเป็นกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต โรงเรียน แม้กระทั่งวัดยังมี เฉลี่ยรายได้เฉพาะที่ขายต้นเล็บครุฑลังกาแล้วราวๆ 5-6 หมื่นบาทต่อเดือน”

นอกจากเก็บใบขายแล้ว ทางสวนยังจำหน่ายกิ่งเปล่าและต้นพร้อมปลูกให้กับผู้ที่สนใจด้วย ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เล็บครุฑลังกา ส่งทั่วประเทศ ทุกวันไม่มีวันหยุด สำหรับมือใหม่หัดปลูก ไม่ต้องกังวล ทางร้านพร้อมแนะนำให้ทุกขั้นตอน

ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์