เรียนรู้ดู’พระกรุกำแพงเพชร’ จับกล้องส่ององค์จริง จากพิพิธภัณฑ์ขุนโสภณโภไคย

Content พาเพลิน

“ถามหน่อยว่ามีใครจะนำพระซุ้มกอ พระลีลาเม็ดขนุนที่เป็นของกรุแท้ๆ ให้คุณได้หยิบส่อง นอกจากการอบรมที่มติชนอคาเดมีที่เดียว ถ้าไม่ใช่ร่วมกับมติชนอคาเดมีผมก็ไม่นำมาให้ดู เพราะพระหลายองค์ที่นำมาครั้งนี้ ตกทอดมาตั้งแต่คุณตาคือขุนโสภณโภไคยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตอนนั้นไม่มีการปลอมพระกัน” ชัยฤทธิ์ โสภณโภไคย เจ้าของพิพิธภัณฑ์ขุนโสภณโภไคย จ.กำแพงเพชร ถือเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่รวบรวมพระกรุกำแพงเพชรไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง เผยถึงอีเว้นท์ที่จับมือกับมติชนอคาเดมี ในเครือบริษัทมติชน จำกัด(มหาชน) ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

โดย ชัยฤทธิ์ จะมาจัดอบรมเรียนรู้ดูพระกรุกำแพงเพชร วันเสาร์ที่ 15 ก.ค.66 ที่มติชนอคาเดมี ราคาเพียง 2,999 บาท โดย ชัยฤทธิ์ จะนำองค์ไฮไลท์ “เบญจภาคี” อาทิ พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีกนก พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ไม่มีกนก พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน พระกำแพงลีลา รวมถึงพระกรุกำแพงเพชรอีกกว่า 70 องค์ มาให้ผู้เข้าอบรมได้จับส่องด้วยตัวเอง

ชัยฤทธิ์ บอกว่า ที่ผ่านมาคนจำนวนมากถูกหลอกในวงการขายพระ และคนทำพระปลอมก็นิยมทำปลอมพระซุ้มกอและพระลีลาเม็ดขนุน เพราะอยู่ในชุด “เบญจภาคี” อีกทั้งเชื่อ “มีกูแล้วไม่จน” ซึ่งคนที่ไม่จนคือคนที่ขายพระปลอมนั่นเอง เพราะทำขายกันจนรวยเป็นล่ำเป็นสัน

“ทำให้การเรียนรู้พระกรุมีความสำคัญมาก เพราะปัจจุบันผิดเพี้ยนไปเกือบทั้งหมด ความถูกต้องแท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของใครคนใดคนหนึ่ง สิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความถูกต้องแท้จริงของพระกรุ ต้องมาจากธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นขององค์พระนั้นๆ”

หลายคนอาจสงสัยว่า ชัยฤทธิ์ เป็นใคร?

เขาคือคนรู้จักกันดีในแวดวงนักเลงพระกรุ โดยเฉพาะที่กำแพงเพชร เพราะนอกจากจะเป็นผู้ที่มีพระกรุกำแพงเพชรไว้ในครอบครองมากที่สุดแล้ว ยังนับเป็น “ผู้รู้” เรื่องพระกรุกำแพงเพชรอย่างหาตัวจับได้ยาก ระหว่างศึกษาหาข้อมูลและข้อเท็จจริงของพระกรุ บางคนถึงกับกล่าวหาว่าเขาเป็น “คนบ้า” ที่จู่ๆ ก็ปีนขึ้นไปบนกำแพงวัด ก้มๆ เงยๆ อยู่บนนั้นนานหลายวัน ขณะที่บางครั้งก็ไปขุดดินใต้ต้นไม้ลึกลงไปเป็นเมตร โดยไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แต่สำหรับชัยฤทธิ์แล้วการกระทำเหล่านั้น ทำให้ได้ความรู้กลับมาเป็นผลตอบแทน ไม่ใช่รู้แบบงูๆ ปลาๆ แต่ละเอียด ลึกซึ้ง และรอบด้าน

นอกจากมีพิพิธภัณฑ์ของตัวเองแล้ว ชัยฤทธิ์ยังเป็นนักอนุรักษ์ที่อยากถ่ายทอดความรู้และเรื่องราวอันล้ำค่าของพระกรุกำแพงเพชรให้แก่คนรุ่นหลังได้สืบสานรักษาพระดีของเมืองกำแพงเพชรให้คงอยู่อย่างถูกต้องชั่วลูกชั่วหลาน เขาจึงตัดสินใจเปิดอบรมเรื่องพระกรุกำแพงเพชรของแท้ ในแนวทางและวิธีการของเขาเอง ซึ่งมีรายละเอียดเฉพาะตัว

ก่อนหน้านี้ชัยฤทธิ์ ไม่คิดจะเป็น “ผู้ชี้แนะ” เท่าไหร่นัก เขามักถ่อมตัวว่าไม่มีความรอบรู้พอที่จะเป็นครูบาอาจารย์สอนใครได้ ได้แต่นำความรู้ที่มีทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นตัวอักษร จนได้หนังสือดีออกมาหนึ่งเล่ม ชื่อ “พระกรุกำแพงเพชร” เนื้อหาบอกเล่าถึงพระกรุของเมืองกำแพงเพชรที่มีในปัจจุบัน รวมถึงพระกรุพิมพ์ต่างๆ ลักษณะ รูปร่างแต่ละพิมพ์ว่าเป็นอย่างไร

“ครั้งแรกพิมพ์ออกมา 3,000 เล่ม ภายในเวลา 2 ปีขายหมดเกลี้ยง แสดงถึงความสนใจของคนเกี่ยวกับพระกรุกำแพงเพชร ซึ่งมีดังๆ อยู่ 2 แบบคือ พระซุ้มกอ และพระกำแพงเขย่งหรือพระลีลาเม็ดขนุน ผมตัดสินใจพิมพ์เล่มที่ 2 ขึ้นมาอีก โดยเพิ่มเติมความรู้เรื่องของพระกรุให้มากขึ้น พร้อมๆ กับตัดสินใจเปิดการอบรมการดูพระกรุของแท้ ว่าดูอย่างไร ใช้เวลาในการอบรม 1 วัน คนที่เข้ารับการอบรมครั้งนี้จะได้ความรู้จริงๆ ที่สำคัญจะได้ไม่ถูกหลอก

“ในอดีตคนรุ่นก่อนจะนิยมเรียกพระกรุ โดยระบุว่าเป็นวัดนั้น วัดนี้ เช่น กรุวัดพิกุล กรุวัดบรมธาตุ เป็นต้น ที่ต้องเรียกอย่างนี้ก็เพื่อให้พระกรุของวัดนั้นๆ ทำราคาได้ ปัจจุบันก็ยังเป็นเหมือนในอดีต แต่อยากถามว่าการระบุว่าเป็นพระกรุของวัดนั้น วัดนี้ เขารู้แท้แน่ชัดหรือไม่ ว่ามันใช่พระกรุจริงๆ หรือทำปลอมขึ้นมา ผมว่าทุกคนต่างก็ไม่รู้ เพราะไม่ใช่คนสร้าง ไม่ใช่คนขุด แล้วถามว่าคนวงการพระในปัจจุบันยอมรับความจริงข้อนี้กันได้ไหม คำตอบสำหรับผมคือ เขารับไม่ได้ เพราะมีเรื่องผลประโยชน์เงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องระบุว่าเป็นพระกรุวัดอะไร นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งของการเปิดอบรมการดูพระกรุครั้งนี้”

ชัยฤทธิ์ บอกด้วยว่า คนที่มีอาชีพในวงการพระ ที่ไม่ใช่คนกำแพงเพชร ย่อมไม่สามารถรู้ลึกถึงข้อมูลที่แท้จริงเท่าคนกำแพงเพชร เพราะคนเหล่านั้นรู้จากการฟังต่อๆ กันมา หรือไม่อาจเห็นองค์พระจริง ในอดีต ตั้งแต่ปี 2520 นักขายพระที่กำแพงเพชรมีการ “กดพระ” ไปขายที่ส่วนกลาง ซึ่งการนำไปขายนั้นระบุด้วยว่าเป็นพระกรุวัดนั้น วัดนี้ แต่จะจริงหรือไม่-ไม่มีใครรู้ หรือเป็นการ “ยัดกรุ” ต่อมาประมาณปี 2556 มีเซียนพระใหญ่ระดับประเทศไปหาเขาที่บ้านถึง 2 ครั้ง เพื่อขอซื้อพระ ระหว่างดูพระก็มีการพูดคุยกันไม่รู้ว่าพระกรุที่อยู่ในมือเป็นพระกรุวัดไหน เซียนพระคนนั้นกลับบอกว่า “ไม่รู้ไม่เป็นไร” แต่ขอให้ขายให้เขาเถอะ เดี๋ยวเขาจะไป “ยัดกรุ”เอง ทำให้เราได้รู้ว่าแท้จริงแล้วความรู้ในการดูพระกรุในวงการเซียนพระหาความจริงแท้แน่นอนไม่ได้ ต่างโป้ปดบิดเบือนเบี่ยงเบนจากความถูกต้อง แต่ถ้าหากคนเรามีความรู้แท้จริงเกี่ยวกับพระกรุก็จะไม่ถูกหลอก ดังนั้นการเรียนรู้ดูพระกรุกำแพงเพชร ต้องเรียนรู้ดูจากพระองค์จริงเท่านั้น องค์จริงจะดูง่ายมากๆ เพราะฉะนั้นต้องหาองค์จริงดูให้ได้ องค์จริงเป็นสิ่งสำคัญ เป็น “องค์ครู” เราต้องเห็นด้วยตาว่าเนื้อองค์พระที่แท้จริงเป็นอย่างไร เนื้อองค์พระมีหลายเนื้อ ตั้งแต่เนื้อดำ เนื้อแดง ผิวไผ่รวก

ชัยฤทธิ์ อธิบายว่า หลังจากนั้นเป็นการดูที่ “คราบรา” เห็นคราบสีดำๆ แล้วบอกว่าเป็นคราบราได้หรือไม่? บอกได้เลยว่าพวกขายพระปลอมทั้งหลายมีวิธีการทำคราบรา โดยใช้หมึกสีดำใส่แปรงสีฟันแล้วสลัดลงไปบนองค์พระ ก็จะดูเป็นสีดำคราบรา แต่ถ้าดูเป็นจะเห็นว่ามันเหมือนกับหยดน้ำที่หยดลงไปบนเนื้อองค์พระ ไม่ใช่รา

“ตอนหลังพวกขายพระปลอมฉลาดมากขึ้น หันมาใช้แกนของถ่านไฟฉายนำมาขูดเป็นผงเอาไปคลุกกับหมึกจีนแล้วค่อยสลัดลงไปบนองค์พระ เริ่มมีตุ่มเม็ดเล็กๆ ต่างๆ พอคนจับได้ ก็มีวิธีการใหม่ หลังจากเผาเสร็จใช้ด่างทับทิมสาดผสมเข้าใส่เป็นสีดำจับเนื้อแน่นขูดไม่ออก ให้นำไปต้มสามวันเจ็ดวันแล้วใช้แปรงขัดยังไงก็ไม่ออก แต่มันก็มีความต่างกัน คือด่างทับทิมสีไม่เหมือนราที่แท้จริง ราที่แท้จริงเป็นสิ่งมีชีวิต มันมีตีน มันจะเกิดขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะเดินแล้วกระเถิบแบบไม่มีทิศทาง บางทีขึ้นจุดนั้นจุดนี้ ถ้าเป็นหมึกสลัด-สลัดจากขวาไปซ้ายทุกมุมจากแปรงสีฟันที่ออกไปจะสาดไปที่เดียวกันหมด ฉะนั้น หมึกสลัดดูออกทันที เรื่องปลอมพระนี้ยังมีขั้นตอนทำตั้งมากมาย”

โดยในการอบรม ชัยฤทธิ์ จะบอกตั้งแต่เบื้องต้นลักษณะของพระองค์จริง การดูองค์พระเนื้อเป็นอย่างไร คราบรา นวลกรุ “คำว่านวลกรุ ต้องดูว่า รา กับ นวลกรุ อันไหนเกิดก่อนกัน คำตอบคือราต้องเกิดติดเนื้อองค์พระก่อน เพราะฉะนั้น พระองค์ไหนก็ตามถ้าเกิดราปิดทับนวลกรุ โยนทิ้งได้ทันที เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ราต้องอยู่ใต้นวลกรุ เพราะนวลกรุเป็นสิ่งสะสมที่เกิดขึ้นทีหลัง ค่อยสะสมไปเรื่อยๆ จนติดแน่น ดังนั้นนวลกรุจะปิดทับราเสมอ ต้องไม่ลืมหลักวิทยาศาสตร์ข้อนี้ ถ้าลืมเมื่อไหร่ก็เท่ากับว่าเราเข้าไปตกบ่วงของคนขายพระปลอม ต้องระวัง

“อย่างไรก็ดี การสอนให้คนดูพระให้เป็นว่าจริงหรือไม่จริง แท้หรือไม่แท้ ชัยฤทธิ์บอกว่าเป็นเหมือนโปลิศจับขโมย พอแก้ทางหนึ่งได้ ก็ไปโผล่อีกทาง พวกขายพระปลอมมีวิธีหนึ่งที่บอกได้ยากมาก ถ้าเขาใช้วิธีนี้ก็ต้องบอกเลยว่า จับผิดได้ยากมาก แต่ก็สามารถจับได้ ผมจะบอกว่าวิธีเป็นอย่างไร ขอไปเฉลยในการอบรม ต้องไปดูตอนอบรมเท่านั้นครับ ไปเห็นองค์จริงแล้วผมจะบอก” เจ้าของพิพิธภัณฑ์ขุนโสภณโภไคยเผย

ในส่วนของพุทธคุณ ชัยฤทธิ์ บอกว่า ทุกสิ่งดีหมด แต่อยู่ที่ตัวคนปฏิบัติเท่านั้นว่าจะทำอย่างไร ผิดศีลธรรมหรือไม่ เมื่อทำไม่ดี ย่อมได้ไม่ดีตอบแทน หากใครจะแย้งว่าเยอะแยะไปที่ทำไม่ดี แต่ได้ดี บอกเลยว่านั่นเป็นเพราะ “บุญเก่า” เขายังไม่หมด เมื่อไหร่ที่หมดบุญเก่า เขาต้องประสบชะตากรรมอย่างแน่นอน

สนใจอบรม เรียนรู้ดูกรุพระกำแพงเพชร

เสาร์ที่ 15 ก.ค. 66 เวลา 09.00-18.00 น.

ที่มติชนอคาเดมี มบ.ประชานิเวศน์ 1

ราคา 2,999 บาท

#แจกฟรี ‼️ สำหรับผู้เข้ารับการอบรม

  • พระซุ้มกอพิมพ์กลาง กรุวัดซุ้มกอที่ได้จากการบูรณะล่าสุดปี 2565
  • หนังสือพระกรุกำแพงเพชรเล่ม 2

โทร : 08-2993-9097 , 08-2993-9105

Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี คลิก m.me/Matichon.Academy.Thailand

line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

=================

ส่วนวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ค.66 เวลา 09.00-18.00

มติชนอคาเดมี เปิดตลาดพระเครื่อง โดย 10 เซียนพระ องค์สวย ของแท้ เปิดให้เช่าบูชา

พร้อม #ชมฟรี นิทรรศการ กรุพระกำแพงเพชรหายาก

ที่มติชนอคาเดมี ประชานิเวศน์ 1