สำหรับใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น เชื่อเลยว่าเมนูที่สั่งกันบ่อยๆ ต้องมี ‘ซูชิ’ ติดอันดับมาด้วยแน่นอน เพราะเป็นเมนูที่มีหน้าให้เลือกหลากหลาย แต่เคยสังเกตกันไหมคะ ว่าเวลาเราสั่งซูชิมา 1 จานนั้น เราจะได้ซูชิแค่จานละ 2 คำ เพราะอะไรจึงเป็น 2 คำ ทำไมไม่เป็น 3, 4 หรือ 5 คำ หากกำลังสงสัยแบบเราอยู่ ตามไปอ่านคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
จากบทความของ Japan Guide Book (www.jgbthai.com) ได้ให้รายละเอียดว่า เหตุผลที่ทางร้านซูชิ เสิร์ฟซูชิแค่จานละ 2 คำ ก็เพราะว่า ซูชิในสมัยเอโดะนั้นมีจุดที่แตกต่างจากซูชิในปัจจุบันอยู่มาก นั่นก็คือ “ขนาดของซูชิ” นั่นเอง เมื่อเทียบกับซูชิในปัจจุบันที่เพียงเอาเข้าปากคำเดียวก็หมดแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าซูชิในสมัยเอโดะมีขนาดใหญ่กว่าในปัจจุบันถึง 2-3 เท่า!
ซูชิที่มีรูปร่างคล้ายกับข้าวปั้นโอนิกิริใส่ซาชิมิแบบนี้ แน่นอนว่าทานได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น ในเวลาต่อมาจึงได้ทำการลดขนาดซูชิลงมาครึ่งหนึ่ง จนนำไปสู่ซูชิที่เสิร์ฟมาจานละ 2 คำ ตามที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ที่ญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าของที่เสิร์ฟมาเป็นคู่จะทำให้เกิดเรื่อง “โชคดี” ด้วย และนี่ก็น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมรูปแบบการเสิร์ฟซูชิถึงต้องเสิร์ฟจานละ 2 คำค่ะ