วาริน ชิณวงศ์ เจ้าของชิณวงศ์ฟาร์ม “ประเทศไทยปลูกส้มโอดีที่สุดในโลก”

Business ธุรกิจ

จากอดีตประธานหอการค้า จังหวัดนครศรีธรรมราช “วาริน ชิณวงศ์” เป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินจากเดิมที่เคยทำธุรกิจไอทีมาเป็นเกษตรกร โดยเลือกเป็นเจ้าของฟาร์ม “ชิณวงศ์ฟาร์ม” ปลูก “ส้มโอทับทิมสยาม” เป็นสินค้าหลัก

เริ่มมาทำสวนผลไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เริ่มทำเกษตรกรรมเมื่อ 8 ปีที่แล้ว จากเดิมที่เคยทำธุรกิจไอที แต่เมื่อมีสมาร์ตโฟนเข้ามาธุรกิจไอทีเริ่มซบเซาประกอบกับคุณพ่ออยากให้ทำเกษตรเลยกลับมาเดินตามฝันของพ่อ และเลือกปลูกส้มโอทับทิมสยาม

โดยมองเห็นโอกาสว่าพื้นที่ประเทศไทย ปลูกส้มโอได้ดีที่สุดในโลก และส้มโอที่ดีที่สุดในโลก คือ ทับทิมสยาม รูปทรงสวย ผิวเนื้อดี รสชาตินุ่มลิ้น

ปลูกพืชอย่างอื่นด้วยไหม?

ในช่วงเวลา 4-5 ปี ที่รอให้ส้มโอทับทิมสยามออกผลนั้น เนื่องจากว่าเป็นคนตัวเล็กมีทุนรอนไม่สูงนัก จึงต้องทำพืชอื่นผสมผสานไปด้วยเลยเลือกปลูกผักสลัด เพื่อให้ได้เงินในระยะสั้น โดยทำฟาร์มสลัด ที่ อำเภอลานสกา ปรุงดินเองทั้งหมด ไม่ได้ใช้ดินเดิม จึงทำให้ผักสลัดของเรา กรอบ หวาน อร่อย ไม่ขม เก็บในตู้เย็นได้นานไม่เสียง่าย ไม่เหมือนผักโฮโดรฯ

ผลผลิตส้มโอตอนนี้เป็นยังไง?

ส้มโอดีที่สุดในโลก คือพันธุ์ ทับทิมสยาม เกรดพรีเมี่ยม ราคาจากสวนลูกละ 500 บาท ซึ่งที่สวนก็ให้ผลผลิตแล้ว ค่อนข้างจะได้ผลดี ทางเราได้คัดเป็นเกรดพรีเมี่ยมสำหรับส่งออก และ เแบบโมเดิร์นเทรด ตกราคาลูกละ 400-500 บาท เกรดตลาดก็ส่งตลาดไทย รวมถึงเกรดที่ปอกขายทั่วไปก็ส่งในราคาท้องตลาดปกติ

การทำเกษตรสมัยใหม่ ต้องทำในแนวทางที่แตกต่าง เราต้องทดลองและลงมือทำเอง โดยมีเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากนักวิชาการมาช่วย อย่างไร่ของเรามีทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรฯ กำแพงแสน มาช่วยชี้แนะ นอกจากนี้ ยังต้องมีการจำหน่ายในหลายช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าตัวจริง

สำหรับส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม เป็นพันธุ์ส้มโอดั้งเดิมในพื้นที่บ้านปราโอ ตำบลประจัน อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ที่ร่วมปลูกกับส้มโอพันธุ์อื่นๆ เช่น ขาวทองดี โรตี บานหยา เป็นต้น รวมไปถึงการทำเป็นสวนผสมผลไม้ชนิดอื่นๆ ไปพร้อมด้วย ทั้ง มังคุด ทุเรียน ลองกอง เงาะ เป็นต้น มีข้อมูลที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 7 สุราษฎร์ธานี โดยนายหวัง มัสแหละ นำกิ่งพันธุ์มาปลูกเป็นรายแรก ในปี พ.ศ. 2523 จากนั้นก็แพร่หลายเป็นที่รู้จักกันต่อๆ มา จนถึงเมื่อราวปี พ.ศ. 2544 อัมพร สวัสดิ์สุข เกษตรกรเมืองปากพนังเริ่มนำปลูกในพื้นที่อำเภอปากพนัง ต่อมาได้ขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นทั่วทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช

แนวทางการปลูกไม่ยุ่งยากซับซ้อน โดยต้องยกร่องให้ระบายน้ำได้ดี พยายามไม่ให้น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ราว 1 ไร่ สามารถปลูกได้ประมาณ 30 ต้น การดูแลรักษาง่าย ทนต่อโรค ให้ผลผลิตได้ในระยะเวลาประมาณ 3 ปี และออกดอกติดผลอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในช่วง 3 ปีแรก อาจเก็บผลผลิตได้ไม่มาก ประมาณ 20 ผล ต่อต้น แต่เมื่อต้นพันธุ์เจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มที่ เก็บผลได้ถึงประมาณ 250-300 ผล ต่อต้น

ส้มโอทับทิมสยามปลูกไม่ยาก ปลูกได้ทั้งที่ดอนและที่ลุ่ม สำหรับบริเวณที่ลุ่มควรยกร่องปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 5-6 เมตร ไม่ต้องขุดหลุมให้ลึกมาก ควรผสมดินด้วยปุ๋ยคอกรองก้นหลุมก่อนปลูก หรือตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ในด้านการตัดแต่งกิ่ง ควรเริ่มตัดแต่งกิ่งเมื่อต้นส้มมีอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป และให้ผลผลิตแล้ว ควรตัดโดยรักษาพุ่มด้านข้าง และตัดส่วนยอดให้โปร่งเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้แสงแดดเข้าถึงภายในทรงพุ่ม ทาแผลที่ตัดด้วยปูนแดง ปูนขาว หรือสีน้ำมัน แล้วควรฉีดพ่นด้วยสารป้องกันเชื้อรา ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น ให้น้ำสม่ำเสมอ เมื่อออกดอกควรงดให้น้ำช่อดอก เป็นผลแล้วจึงให้น้ำทีละน้อยไปเรื่อยๆ จนถึงระดับปกติ

สำหรับระยะเวลาที่ควรเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่เหมาะสมนั้น ควรพิจารณาดูหลังจากดอกบานประมาณ 8-9 เดือน สังเกตต่อมน้ำมันรอบจุดสีน้ำตาลที่ก้นผล จะห่าง สีเปลือกรอบจุดสีน้ำตาลเป็นสีเขียวนวล หลังเก็บเกี่ยวแล้วถ้านำมาผึ่งไว้ 1-3 วัน รสชาติจะดีขึ้น และแกะเนื้อง่าย แต่ควรระมัดระวังตอนใช้กรรไกรตัดก้านขั้วผล ต้องมีถุงผ้ารองรับ เพื่อป้องกันผลตกกระแทกพื้น เมื่อได้ผลมาแล้วนำผลใส่แข่ง หรือตะกร้าสะอาดรวบรวมไว้ในที่ร่ม

ขอบคุณภาพจาก : เพจ ชิณวงศ์ฟาร์มคาเฟ่ นครศรีธรรมราช