มารู้จักพ่อค้าแม่ค้าบนโลกออนไลน์

Money เงินทองต้องรู้

ในโลกยุคปัจจุบันอะไร อะไร ก็ผันตัวเองขึ้นไปอยู่บนออนไลน์ ซื้อขายกันตั้งแต่อาหารการกิน เครื่องอุปโภคบริโภคทั้งหลาย ปัจจัย 4 เรียกว่าตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบก็ว่าได้

ตลาดออนไลน์จึงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลก และยิ่งสถานการณ์ไม่ปกติมีไวรัสโคโรน่าอาละวาดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดออนไลน์ก็ยิ่งเพิ่มความสำคัญและจำเป็น มาดูกันว่าใครคือ “พ่อค้าแม่ค้า” ในตลาดออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลของ Online Seller Archetypes ของ Sea (Group) ได้สำรวจผู้ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้จำนวน 42,000 ราย จาก 6 ประเทศ ได้แก่สิงคโปร์  เวียดนาม  ฟิลิปปินส์  มาเลเซีย  อินโดนีเซีย และประเทศไทย ระบุว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แบ่งได้ 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.กลุ่มแม่บ้าน เกือบทั้งหมดเป็นคุณแม่ช่วงวัย 30 ที่รับหน้าที่ดูแลบ้านและความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 4 คน โดย 60% ของกลุ่มนี้มาทำหน้าที่ขายของออนไลน์เพื่อนำรายได้มาใช้ในการดูแลครอบครัว ส่วนปัจจัยสำคัญที่เลือกช่องทางอีคอมเมิร์ซในการทำธุรกิจ เพราะมีความยืดหยุ่นของเวลาทำงาน สามารถทำงานค้าขายและทำธุรกิจไปพร้อมๆ กับการดูแลครอบครัว

2.กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา กลุ่มนี้คล้ายกลุ่มแรก คือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในวัยเรียน ค้าขายออนไลน์ควบคู่ไปกับการเรียน สร้างรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์เป็นรายได้หลัก และนำรายได้ไปใช้เพื่อการศึกษา  ดังนั้น ตลาดอีคอมเมิร์ซจึงเข้ามาเป็นช่องทางที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้ทดลองทำการค้าขายตามไอเดีย และความคิดสร้างสรรค์ของตนได้ง่ายมากขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยคือ มีต้นทุนต่ำและระดับความเสี่ยงก็ยังต่ำอีกด้วย

3.กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพจากโลกออฟไลน์  กลุ่มนี้เรียกง่ายๆ ก็คือผู้ประกอบการที่เดิมทำธุรกิจอยู่บนช่องทางออฟไลน์ และมีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การทำธุรกิจที่ยาวนานหลายสิบปี แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปกดดันให้กลุ่มนี้ต้องเข้ามาใช้อีคอมเมิร์ซอย่างกระทันหัน ไม่เพียงเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ แต่ยังต้องการหาโอกาสขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ อีกด้วย  แม้ว่ากลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพ จะมีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การทำงานจริงเป็นจุดแข็ง แต่ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน คือเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ค้าออนไลน์กลุ่มอื่นๆ จากสถิติชี้ว่า สัดส่วนยอดขายบนอีคอมเมิร์ซโดยเฉลี่ยของผู้ค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 28% เท่านั้น ยังเติบโตได้อีกมาก หากมีการฝึกทักษาใหม่หรืออัพเกรดความรู้ทั้งตัวผู้ประกอบการและพนักงานให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จาก Digital Tools ได้เต็มที่มากขึ้น

4.กลุ่มพนักงานประจำที่ขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซเป็นอาชีพเสริม โดยมองว่าอีคอมเมิร์ซใช้งานง่าย ช่วยให้จัดการร้านค้าและคำสั่งซื้อได้ตามเวลาที่สะดวก และต้นทุนต่ำ จึงตัดสินใจนำเข้ามาใช้เป็นช่องทางในการรักษาระดับความพึงพอใจของทั้งนายจ้างและลูกค้าบนโลกออนไลน์ เนื่องจากงานประจำคือความมั่นคง  ส่วนอีคอมเมิร์ซเป็นแหล่งที่มาของรายได้หลัก ยิ่งไปกว่านั้น 2 ใน 3 ของกลุ่มนี้ยังเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว พวกเขาจึงมุ่งมั่นและจริงจังกับการทำธุรกิจส่วนตัวบนอีคอมเมิร์ซ โดยกลุ่มนี้มีความสามารถในการใช้ Digital Tools ดีอยู่แล้ว หากเติมความรู้ในการบริหารธุรกิจเข้าไป ก็จะทำให้มีศักยภาพการขยายธุรกิจสูงขึ้น

5.กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ เป็นกลุ่มคนที่สังคมมักจะนึกถึงเมื่อพูดคำว่า พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ โดยกลุ่มนี้ขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพหลักเพียงอาชีพเดียว มีความแอคทีฟบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มสูงมาก บริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างยอดขายจากช่องทางอีคอมเมิร์ซได้มากกว่า 50% ของยอดขายทั้งหมด นับเป็นกลุ่มที่มีทักษะการทำธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลสูงที่สุดในกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งกลุ่ม มืออาชีพนี้มักเป็นคนช่วงอายุ 30 ปี โดย 66% ระบุว่าต้องการหารายได้เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และอีก 57% ระบุว่าต้องการนำรายได้ไปลงทุนต่อเพื่อขยายธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ

จากข้อมูลยังระบุอีกว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เข้ามาเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้เร็วขึ้น หลายๆ ประเทศมีความพยายามที่จะสนับสนุนและส่งเสริม SMEs ให้อยู่รอดด้วยการใช้ ขบวนการทางดิจิทัลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการเยียวยาหรือส่งเสริมศักยภาพ SMEs แบบ One-size-fit-all อาจไม่ใช่คำตอบ เนื่องจากธรรมชาติของผู้ค้าออนไลน์มีความหลากหลาย ทั้งด้านปูมหลัง แรงจูงใจ และการนำอีคอมเมิร์ซไปปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มแม่บ้านและกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ที่แตกต่างไปจากภาพผู้ประกอบการในความคิดของสังคมส่วนใหญ่อย่างชัดเจน นอกจากนี้ทั้งสองกลุ่มนี้เข้ามาทำธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมากที่สุด แต่เป็นความจำเป็นต้องทำเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ของครอบครัวและการศึกษา