‘พิพัฒน์’ ย้ำเป้ารายได้ท่องเที่ยวปี 63 ต้องไม่ต่ำกว่า 1.23 ล้านล้านบาท ต่างชาติเข้ามาได้ 9 ล้านคนถือว่าเก่ง

Event อีเวนต์
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2563 ที่ ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ รางน้ำ บรรยายกาศภายในงานสัมมนา “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” ที่จัดขึ้นโดยเครือมติชน โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ทางการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวไทย ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย และถือว่าาเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญในการกระตุ้นและพยุงเศรษฐกิจ โดยในปี 2561 รายได้จากภาคการท่องเที่ยวคิดเป็น 18% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 4.3 ล้านงาน ซึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังส่งผลต่อการขยายตัว และการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับภาคธุรกิจอื่นในในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยปี 2562 สร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยวกว่า 3.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.37% แบ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งสิ้น 39.79 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.24% สร้างรายได้ประมาณ 1.93 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.05% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ส่วนตลาดในประเทศ มีการเดินทางของไทยเที่ยวไทย จำนวน 166.84 ล้านคน-ครั้ง หดตัวลงเล็กน้อย 0.06% สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศมูลค่า 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.18% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561

นายพิพัฒน์กล่าวว่า การท่องเที่ยวในปี 2563 หากไม่มีการระบาดโควิด-19 รัฐบาลตั้งเป้าว่าภาคการท่องเที่ยวไทย จะต้องสร้างรายได้รวมทั้ง 2 ตลาดกว่า 3.04 ล้านล้านบาท แต่เมื่อเกิดการระบาดโควิด-19 ขึ้น ก็ทำให้ความคาดหวังในการสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยวหายไป แต่ยังหวังว่าประเทศไทย จะสามารถค้นพบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้ หรือต่างประเทศมีการค้นพบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมีความเสี่ยงน้อยลง แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีการพบวัคซีนต้านวัส แต่ก็มีความคืบหน้าในการทดลองวัคซีนเพิ่มเติม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยหากไม่มีวัคซีนต้านไวรัสได้ ก็อาจทำให้ภาคการท่องเที่ยว เปิดได้เฉพาะการท่องเที่ยวในประเทศ

“จากเดิมที่คาดการณ์แนวโน้มรายได้รวมทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยปี 2563 อยู่ที่ 3.04 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40.78 ล้านคน สร้างรายได้ 2.02 ล้านล้านบาท โต 4.5% หากเทียบกับปีก่อน และตลาดไทยเที่ยวไทยออกเดินทาง จำนวน 172 ล้านคน-ครั้ง โต 4.4% สร้างรายได้ 1.13 ล้านล้านบาท โต 4.3% แต่เมื่อเกิด โควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยทุกส่วน จึงกำหนดเป้าหมายการทำงานปี 2563 สร้างรายได้รวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 1.23 ล้านล้านบาท มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทย 14-16 ล้านคน และนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 120 ล้านคน-ครั้ง ทั้งนี้ โดยขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชิตที่จะเข้ามา หากเข้ามาได้ 9-10 ล้านคน ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว” นายพิพัฒน์กล่าว

นายพิพัฒน์กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดทำโครงการเที่ยวปันสุข เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านแพคเกจเราเที่ยวด้วยกันและกำลังใจ โดยใช้งบรวม 22,400 ล้านบาท แบ่งเป็นงบของแพคเกจกำลังใจ 2,400 ล้านบาท ในการเปิดให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน ลงทะเบียนรับสิทธิ์เที่ยวฟรี โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐจำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นการขอบคุณกลุ่มผู้ที่รับมือกับโควิด-19 เป็นด่ายแรก ส่วนแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน ใช้งบ 20,000 ล้านบาท ในการสนับสนุนส่วนต่างของการใช้สิทธิ์ห้องพัก 5 ล้านห้อง และตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐ 40% ผู้ลงทะเบียนจ่ายเอง 60% ซึ่งเชื่อว่าจะต้องมีงบเหลือจากทั้ง 2 แพคเกจแน่นอน จึงคาดว่าจะนำงบประมาณที่เหลือจากเฟส 1 จะมาเปิดโครงการเฟส 2 เพิ่มเติม ภายใต้เงื่อนไขที่อาจแตกต่างไปจากเดิม