โรคหลอดเลือดสมอง เรื่องต้องรู้เพื่อลดความเสี่ยง

Health สุขภาพดีๆ

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย และเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ รวมทั้งทำให้พิการ และทุพพลภาพ

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลสุขุมวิท ให้คำแนะนำถึงโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นอาการของแขน หรือใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งชา อ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก หรือเคลื่อนไหวไม่ได้ อย่างทันทีทันใด เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดแดงไปเลี้ยงสมองตีบ ตัน หรือแตก ทำให้เนื้อสมองขาดอาหารและออกซิเจน เกิดภาวะเนื้อสมองเสียหาย

โรคหลอดเลือดสมองมีสาเหตุสำคัญมาจาก 3 ประการ คือ

1.หลอดเลือดแดงในสมองเสื่อม หรือหลอดเลือดแดงตีบแข็ง (Atherosclerosis) เกิดจากการสะสมของไขมัน ที่ผนังชั้นในหลอดเลือดแดงเสื่อมจากการสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารไขมันสูง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน

2.หลอดเลือดแดงสมองอุดตันจากลิ่มเลือด หรือชิ้นส่วนของไขมันที่หลุดลอยมา ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคของลิ้นหัวใจ หรือภาวะหัวใจโต

3.หลอดเลือดแดงสมองแตก จากภาวะความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ หรือควบคุมได้ไม่ดี หรือเส้นเลือดโป่งพอง เป็นต้น

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ประกอบด้วย

1.ภาวะความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เนื่องจากไปทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนแอ หลอดเลือดจึงแตกได้ง่าย

2.การสูบบุหรี่ จะลดปริมาณออกซิเจน และเพิ่มความหนืดของหลอดเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะสมอง ทำให้เกิดอัมพาตได้ 3.มีน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาตัวขึ้น และตีบแคบทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอเกิดอัมพาตได้

4.ไขมันในเลือดสูง ทั้งคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ทำให้เกิดเป็นก้อนไขมันเกาะติดกับผนังหลอดเลือด ทำให้หนาตัวขึ้นและหลอดเลือดตีบแคบ เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดเป็นอัมพาตได้

5.การบริโภคที่ไม่ถูกต้อง โรคอ้วน การรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป การกินอาหารที่มีเกลือ และ ไขมันสูง การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเป็นประจำ จะทำให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูง ไขมันและน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตมากขึ้น

6.ประวัติเป็นโรคหัวใจ จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตมากขึ้น ต้องควบคุมให้อยู่ในภาวะปกติ

7.กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีพ่อ แม่ พี่น้อง หรือญาติสายตรงและมีประวัติการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด เตือนว่า หากมีอาการแสดงที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล คือ 1.ชาหรืออ่อนแรง บริเวณแขนขา หรือใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง 2.ตามัวหรือเห็นภาพซ้อนทันทีทันใด 3.ปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ 4.มึนงง เวียนศีรษะ เดินเซ วิธีการรักษาทำอย่างไร

สำหรับวิธีการรักษาโรคเส้นเลือดสมองแตก ขั้นแรกจะใช้วิธีประคับประคอง หรือผ่าตัด จากนั้นหาสาเหตุของเส้นเลือดในสมองแตก

ส่วนวิธีการรักษาโรคเส้นเลือดสมองตีบ และตัน ในการรักษาในระยะเฉียบพลัน (ภายใน 270 นาที) เริ่มจากประเมินคัดแยกอาการโรคหลอดเลือดสมองอย่างทันที, ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินอาการทางระบบประสาท, ตรวจวินิจฉัยอย่างเร่งด่วนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยการเจาะเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) เพื่อแยกอาการว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองชนิดใด, อธิบายให้ผู้ป่วย หรือญาติทราบรายละเอียดของโรค และแผนการรักษา

ให้การรักษาด้วยการใช้ยาละลายลิ่มเลือด (rTPA) การให้ยาภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง (270 นาที) หลังเกิดอาการจะทำให้อาการผิดปกติทางประสาทดีขึ้นประมาณ 30% ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีมากในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบางกลุ่ม, Mechanical Thrombectomy การนำเอาลิ่มเลือดที่อุดตันในหลอดเลือดสมองออกผ่านทางสายสวน เพื่อเปิดหลอดเลือดให้เลือดสามารถไปเลี้ยงสมองส่วนนั้นๆ ได้

ศูนย์หัวใจและหลอดเลือดระบุด้วยว่า การรักษาในระยะยาว จะใช้วิธีควบคุมภาวะความเสี่ยง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง เป็นต้น, รับประทานยา และพบแพทย์สม่ำเสมอ, ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก หมั่นทำกายภาพบำบัด, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์, ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา และกายภาพบำบัด หากผู้ป่วยยังคงมีอาการทุพพลภาพ

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์