‘โควิด’ระบาด ส่งผลขายสินค้าออนไลน์โต50% กสอ.เปิดคอร์สสอนขายออนไลน์

Technology
ณัฐพล รังสิตพล

เริ่มแล้ว กสอ.เปิดคอร์สเร่งด่วนสอนเอสเอ็มอีขายออนไลน์ ขานรับโควิด-19 ดันอีคอมเมิร์ซบูม

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ภายในประเทศไทยส่งผลให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าจากออฟไลน์มาสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ตลาดออนไลน์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา(มกราคม-กุมภาพันธ์) มีอัตราการเติบโต 20-50% ดังนั้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนปรับเปลี่ยนมาดำเนินการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อทดแทนในช่วงที่พฤติกรรมของคนไทยชะลอการซื้อผลิตภัณฑ์ตามสถานที่สาธารณะและร้านค้าต่างๆ กสอ.จึงเตรียมเปิดตัวโครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19”คอร์สอบรมบนออนไลน์ไลฟ์สตรีมเป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีด้วยกัน 6หลักสูตร ได้แก่ 1. ขายสินค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก (Facebook) 2.ขายสินค้าออนไลน์ ผ่านไลน์ (Line) 3. กระตุ้นยอดขายด้วยกูเกิ้ลแอดเวิร์ด (Google Adwords) 4. การขายสินค้าผ่านยูทูป(You Tube) 5. ตอบลูกค้าทันใจ ปิดการขายด้วยแชทบอท (Chat Bot) และ 6. กระตุ้นยอดขายด้วยภาพถ่ายและวีดีโอซึ่งการตลาดออนไลน์ (E-commerce) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการตลาดในการสร้างการรับรู้ตราสินค้าการสร้างอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และสร้างยอดขายโดยในช่วงนี้ตลาดออนไลน์มีอัตราการเติบโตมากกว่าภาวะปกติ

ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ควรดำเนินการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ในเชิงรุก ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายแพลตฟอร์มประกอบด้วย มาร์เก็ตเพลส อย่างไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (Thailandpostmart.com) ลาซาด้า (Lazada) และช้อปปี้ (Shopee) โซเชียลมีเดียผ่านทางเฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม(Instagram) ไลน์ (Line) ยูทูป (YouTube) หรือกระทั่งบนเว็บไซต์ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การนำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมหาแนวทางการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลอัจฉริยะในการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้น

นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่าการผลักดันให้ผู้ประกอบการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ มีด้วยกัน 2 รูปแบบประกอบด้วย 1. การขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป (Businessto Consumer: B2C) ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้า (Lazada)และช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งการทำตลาดบนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสผู้ประกอบการควรวางกลยุทธ์ราคาให้สอดรับกับการแข่งขันด้านราคาผ่านในรูปแบบการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพราะราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคพร้อมกับมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างรวมถึงการสื่อสารถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Content Marketing) ควรสร้างเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ เพื่อสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างเหนือคู่แข่งและ 2.การจับคู่ระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business toBusiness: B2B) ระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกันเองและผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศผ่านทางอาลีบาบา(Alibaba) และอเมซอน (Amazon) ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนควรศึกษาตลาดในประเทศนั้นๆ พร้อมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเข้าไปทำตลาดรวมทั้งการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานเพื่อการบริหารจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินการ

ทั้งนี้กสอ.จะเริ่มเปิดอบรมโครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19” ตั้งแต่วันที่ 27มีนาคม ถึง เดือนมิถุนายน 2563 โดยจะดำเนินการทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 09.00– 16.00 น.คาดการณ์มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมอบรมราว 15,000 ราย และนับตั้งแต่ตุลาคม 2562 – กันยายน 2563คาดการณ์มีกลุ่มประกอบการเข้าร่วมอบรมประมาณ 20,000 รายซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 600 ล้านบาท สำหรับโครงการเพิ่มศักยภาพ SMEsด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหนึ่งในภารกิจหลักในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมของ กสอ. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนให้มีความรู้ความสามารถในการนำโซเชียลมีเดียในโลกออนไลน์มาใช้เป็นเครื่องมือประยุกต์ในการดำเนินธุรกิจและเป็นการปูพื้นฐานให้แก่ผู้ประกอบการก่อนยกระดับเพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศสู่การเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืนต่อไป

ที่มา : มติชนออนไลน์