12 นักษัตร จากตำนานจีน

Content พาเพลิน
ใกล้สิ้น “ปีหมู” ก้าวสู่ “ปีหนู” ขึ้นศักราชใหม่ พ.ศ. 2563 จะเป็น หนูทอง หนูเงิน หรือหนูนา หนูพุก คงต้องไปถามเอากับซินแสหรือหมอดูถึงจะได้ความ แต่ถ้าถามหาโชค ลาภ เงินทองของปีหนูที่จะมาถึงนี้ ที่แน่ๆ ทำนายทายทักกันได้เลยว่าประเทศไทยปีหนูไม่สู้ดี เศรษฐกิจยังย่ำแย่ ประชาชนก็ยังยับเยิน…

ปีหนูหรือปีชวด เป็นชื่อเรียกตามปีนักษัตร ที่มีทั้งหมด 12 นักษัตร และมีสัตว์ต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ คติความเชื่อนี้มีแต่ในกลุ่มประเทศแถบเอเชียเท่านั้นที่ใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์เหมือนและใกล้เคียงกัน ความเป็นมาแบบที่มีหลักฐานพยานเด่นชัดอาจจะหาได้ยากยิ่ง แต่เล่าต่อกันมาก็มีแต่ “นิทาน” เท่านั้น อย่างเรื่องนี้ “12 นักษัตร จากตำนานจีน” เรื่องมีอยู่ว่า…

เง็กเซียนฮ่องเต้ เทพเจ้าสูงสุดของจีน ประมุขของทวยเทพทั้งหลาย มีดำริว่าอยากจะตั้งสัตว์ต่างๆ เป็นเจ้าของปี จึงให้สัตว์ต่างๆ ว่ายข้ามน้ำมารายงานตัว ใครมาถึงก่อนได้ปีก่อนตามลำดับ ในตอนนั้นหนูกับแมวเป็นเพื่อนรักกัน แต่เป็นสัตว์สองชนิดที่ว่ายน้ำได้แย่ที่สุด แต่ทั้งหนูและแมวก็มีความฉลาดทั้งคู่ เลยร่วมกันทำความตกลงกับวัว ว่าขอเกาะหลังวัวไป วัวซึ่งแข็งแรงและมีใจอารีอยู่แล้ว ก็ตกลง แต่พอใกล้จะถึงฝั่ง หนูกลับคิดอยากจะได้ตำแหน่งที่หนึ่งให้ได้ จึงวางแผนเตะแมวตกน้ำไป เพื่อกำจัดคู่แข่ง และเมื่อใกล้ถึงฝั่ง หนูก็รีบกระโดดจากหลังวัวขึ้นสู่ฝั่งเป็นตัวแรก จึงได้เป็นนักษัตรลำดับที่ 1

ตามด้วยวัวซึ่งขึ้นฝั่งตามมา กลายเป็นนักษัตรที่ 2 ถัดจากวัว ก็เป็นเสือที่หอบแฮ่กๆ ขึ้นฝั่ง โดยบอกว่าขณะข้ามน้ำมา โดนน้ำซัดปลิวไป ต้องลุยน้ำกลับมาใหม่ จึงมาถึงช้ากว่ากำหนด เสือจึงได้ตำแหน่งนักษัตรที่ 3 จากนั้น กระต่ายก็ตามมาถึง โดยเล่าให้ฟังว่าทีแรกก็กระโจนตามโขดหินมาเรื่อยๆ แต่พอถึงกลางน้ำก็ไปต่อไม่ได้ โชคดีที่มีขอนไม้ลอยมา เลยเกาะขอนไม้เข้าสู่ฝั่งได้ กลายเป็นนักษัตรที่ 4 อันดับ 5 ที่มาถึงเป็นมังกร ซึ่งน่าสงสัยว่าสัตว์ที่เหินฟ้าได้อย่างมังกร ทำไมมาถึงตั้งอันดับห้า เง็กเซียนฮ่องเต้ถาม มังกรตอบว่า ตนต้องหยุดให้น้ำฝนกับชาวบ้านก่อน จึงล่าช้าไปบ้าง และเมื่อมาถึงกลางทาง เห็นกระต่ายเกาะขอนไม้โดนน้ำซัดไปอีกทางหนึ่ง จึงได้ช่วยเป่าลมอยู่ข้างหลังเพื่อพากระต่ายเข้าสู่ฝั่งด้วย เง็กเซียนฮ่องเต้ได้ฟังก็ชื่นชมในน้ำใจของมังกรมาก และให้ตำแหน่งนักษัตรที่ 5 ตามกติกา

หลังจากนั้นก็มีเสียงม้าร้องมาแต่ไกล แต่ก่อนที่ม้าจะถึงฝั่ง ปรากฏว่ามีงูซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกีบม้าโผล่ออกมา ทำให้ม้าตกใจเสียหลักล้มลง งูจึงขึ้นฝั่งก่อนและได้เป็นนักษัตรที่ 6 ตามด้วยม้าเป็นนักษัตรที่ 7 ไกลออกไปมีกลุ่มสัตว์สามตัวขึ้นฝั่งมาด้วยกัน คือ แพะ ลิง และไก่ ทั้งสามช่วยกันข้ามน้ำมา โดยไก่เป็นคนเจอแพ จึงพาแพะกับลิงขึ้นแพมาด้วยกัน ทั้งแพะทั้งลิงช่วยกันกวาดสาหร่ายและถ่อแพมาจนถึงฝั่ง เง็กเซียนฮ่องเต้จึงให้ตำแหน่งนักษัตรแก่สัตว์ทั้งสาม โดยให้แพะเป็นอันดับ 8 ลิงเป็นอันดับ 9 และไก่เป็นอันดับ 10 จากนั้นหมาก็ขึ้นฝั่งตามมา เป็นอีกครั้งที่เง็กเซียนฮ่องเต้สงสัย ว่าทำไมสัตว์ที่ว่ายน้ำเก่งอย่างหมาถึงมาถึงช้าได้ขนาดนี้ หมาตอบว่า เป็นเพราะตนมัวแต่อาบน้ำเพลินอยู่ อีกทั้งน้ำก็ใสเย็นชื่นใจเหลือเกินก็เลยเล่นน้ำต่อสบายใจ จนเกือบจะมาไม่ถึงฝั่งเสียแล้ว หมาเลยได้ตำแหน่งนักษัตรอันดับ 11 ไป

ถึงตอนนี้เวลาเย็นลงมากแล้ว เง็กเซียนฮ่องเต้กำลังจะปิดรับลงทะเบียน พลันได้ยินเสียงอู๊ดๆ ของหมู ที่กำลังขึ้นฝั่งมา หมูมาช้าเพราะหิวกลางทาง เลยแวะกินอาหารก่อน พอกินอิ่มก็พักงีบหลับต่ออีกต่างหาก กว่าจะตื่นมากุลีกุจอว่ายน้ำเข้าฝั่ง หมูจึงได้ตำแหน่งนักษัตรอันดับ 12 แล้วเง็กเซียนฮ่องเต้ก็สั่งปิดลงทะเบียน เป็นอันว่าหมูคือนักษัตรอันดับสุดท้าย แมวซึ่งถูกหนูเตะตกน้ำและว่ายน้ำไม่คล่อง พยายามตะเกียกตะกายยังไงก็มาไม่ทัน จึงอดได้ตำแหน่งปีนักษัตร ตั้งแต่นั้นมา แมวจึงผูกพยาบาทกับหนู และเกลียดน้ำมาตลอด