จัดเต็ม“งานวันยางพาราบึงกาฬ 2563”มหกรรมยางพาราใหญ่สุดภาคอีสาน 12-18ธ.ค.นี้

Business ธุรกิจ

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมอาคารข่าวสด นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายธวัชชัย ศรีทอง รองผวจ.บึงกาฬ นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ และน.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด ร่วมแถลงข่าว “งานวันยางพาราบึงกาฬ 2563: บึงกาฬโมเดล 2020” ระหว่างวันที่ 12-18 ธ.ค.นี้ ที่สนามหน้าที่ว่าการอ.เมือง จ.บึงกาฬ ภายใต้แนวคิด “บึงกาฬโมเดล 2020”

โดยมี นายนิพนธ์ คนขยัน นายกอบจ.บึงกาฬ นางมาลินี ยุวนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร นายไอศูรย์ แสนคำ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นายวิทยา ชาญณรงค์ ผู้จัดการกลุ่มพัฒนาความยั่งยืนขององค์กร บริษัท ศรีตรังแอโกรดินดัสทรี จำกัด (มหาชน) Mr.Chen Husheng Chief Representative of Thailand Representative Office Rubber Valley Group Co.,Ltd(China), National Engineering Research Center for Rubber and Tire ศาสตราจารย์ดร.ปฏิพันธ์ ทวนทอง ผู้อำนวยการสำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 

ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ MTEC นายจารึก ศรีอรุณ นายทรงพล วิธาณพัฒนา เชฟจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต นายอิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์ นายจีรพงษ์ ศรนคร สมาคมการ์ตูนไทย รวมทั้งผู้แทนองค์กรหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงานและสื่อมวลหลายแขนง เข้าร่วมงานแถลงข่าวกันอย่างคับคั่ง

นายพินิจ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการตอกย้ำว่าจ.บึงกาฬเป็นศูนย์กลางของยางพาราในประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานต่าง ๆ รวมถึงภูมิปัญญาของชาวจังหวัดบึงกาฬ ช่วยเติมแต่ง เผยแพร่ และยกระดับความรู้ ทำให้งานของยางพาราเป็นที่กล่าวถึงและมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ พร้อมก้าวสู่ความเป็นศูนย์กลางยางพาราระดับอาเซียน ระดับโลกอีกต่อไป

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า สถานการณ์ยางพาราในภาคใต้ ภาคอีสานโดยเฉพาะจังหวัดบึงกาฬยังคงแสนสาหัส ด้วยการทำงานของรัฐบาลที่ยังล่าช้า ดังนั้นจึงฝากแก้ไขปัญหายางพาราให้มี การแปรรูป การเพิ่มมูลค่า การระบายยาง และการสนับสนุนซื้อผลิตภัณฑ์จากสินค้าเกษตรกรเท่านั้น ถ้าชาวบ้านขายยางได้ ประเทศก็ได้ไปด้วย

ภายในงานมีการจัดแบ่งโซนนิทรรศการและกิจกรรมออกเป็น 10 โซน คือ

โซนที่ 1 สวนไฟเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และนิทรรศการขบวนเรือพระราชพิธี “พระเสด็จโดยแดนชล”

โซนที่  2 บึงกาฬโมเดล 2020 นำเสนอ 7 ปีกับความก้าวหน้า “เมืองศูนย์กลางยางพารา”

โซนที่ 3 เวทีปราชญ์ชาวบ้าน เวทีที่เผยแพร่องค์ความรู้และนวัตกรรมนำเสนอด้านวัฒนธรรม ผ่านเรื่องขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยอาจารย์ธงทอง จันทรางศุ

โซนที่ 4 บึงกาฬลานเด็กเล่น ออกแบบพื้นที่กิจกรรมโดยเด็ก ๆซึ่งจะมีการประกวดและมอบรางวัลภายในงานด้วย

โซนที่ 5 บึงกาฬจานเด็ด กิจกรรมอบรมอาหารจานเด็ด เน้นทำง่าย สามารถเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ข่าวสด “คอลัมน์ อิ่มอร่อย” ยังมอบประกาศนียบัตรให้แก่ร้านอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด อร่อย จำนวน 10 ร้าน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดที่กำลังเติบโต

6

โซนที่ 6 หน่วยงานจังหวัด พื้นที่จัดแสดงผลงานของหน่วยงานราชการในจังหวัดบึงกาฬ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอการแปรรูปการวิจัยอุตสาหกรรมยางพารา จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมมือกับบริษัทอุตสาหกรรมการค้ายางพาราจากสาธารณประชาชนจีน เพื่อผลักดันเศรษฐกิจการค้ายางพาราสู่การเปิดประตูการค้าระดับนานาชาติ

โซนที่ 7 บึงกาฬมอเตอร์โชว์ พื้นที่จำหน่ายรถยนต์จากค่ายต่าง ๆให้ประชาชน

โซนที่ 8 ลานแข่งกรีดยาง เป็นการแข่งทักษะความชำนาญในอาชีพ

โซนที่ 9 บึงกาฬมาร์เก็ต ตลาดสินค้าชุมชนต้นแบบส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยให้มีตลาดและคู่ค้าที่ขยายวงกว้างขึ้น

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ที่ห้ามพลาด คือ โซนที่ 10 โซนเวทีคอนเสิร์ตและการประกวด “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2020 การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง “คาราบาวบึงกาฬลั่นทุ่ง2020ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 400,000 บาท และการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 60,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก ครูสลา คุณวุฒิ,ครูเทียม ชุติเดชและครูเรืองยศ พิมพ์ทอง มาเป็นคณะกรรมการการตัดสินในครั้งนี้ และส่งท้ายปีกับคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับประเทศและคณะหมอลำสุดฮิตของปี ได้แก่ คาราบาว,ไมค์ ภิรมย์พร,เสก โลโซ,แฟ้ม บุญมา,หมอลำคณะประถมบันเทิงศิลป์,หมอลำคณะระเบียบวาทะศิลป์

นอกจากสาระความรู้และความสนุกสนานในกิจกรรมต่าง ๆแล้วยังมีการแข่งขันกีฬาวันยางพาราจังหวัดบึงกาฬ ชิงเงินรางวัลกว่า 1,345,000 บาท อาทิ มวยไทยศึกวันทรงชัยสัญจร เปตอง วอลเลย์บอล ฟุตบอล เซปักตะกร้อ จักรยาน มอเตอร์ครอส  และโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ซึ่งผู้ที่สนใจสมัคร สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สมาคมกีฬาจังหวัดบึงกาฬ หรือโทร. 042-490-652,042490757