‘เล่นมือถือ’ส่งผล’นศ.’ป่วยโรคกล้ามเนื้อเพิ่ม นักกายภาพแนะวิธีใช้

Tips & Tricks สารพันเกร็ดน่ารู้

มือถือก่อโรคกล้ามเนื้ออักเสบ นักกายภาพแนะวิธีใช้ให้ถูกต้อง – โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟนอาจนำมาซึ่งผลเสียต่อร่างกายได้

โดย กภ.จุติพร ธรรมจารี นักกายภาพ บำบัดประจำศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยในกลุ่มที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย อายุประมาณ 20-22 ปี มาเข้ารับการรักษาที่ศูนย์กายภาพบำบัดกันมากขึ้น ด้วยกลุ่มโรคกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเป็นได้ตั้งแต่ข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อศอก ไปจนถึงคอ บ่า ไหล่

กภ.จุติพร ธรรมจารี กล่าวต่อไปว่า โรคกล้ามเนื้ออักเสบที่เกิดจากการใช้สมาร์ตโฟน ได้แก่ “อาการนิ้วล็อก” ซึ่งเกิดจากการอักเสบบริเวณตรงเอ็น บริเวณข้อนิ้วมือ ในส่วน ของข้อมือมักพบ “โรคเดอ เกอร์แวง (De Quervain’s Disease)” หรืออาการปลอกเอ็นข้อมืออักเสบ ไล่ขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นในส่วนของโรคบริเวณข้อศอก จัดอยู่ในกลุ่มโรคเอ็นข้อศอกอักเสบ หรือที่เราเรียกกันว่า Tennis Elbow หรือ Golfer Elbow

เนื่องจากไม่มีใครที่จะถือสมาร์ตโฟนโดยเหยียดข้อศอก เราจะต้องงอข้อศอกเล็กน้อยเพื่อให้สมาร์ตโฟนเข้ามาใกล้สายตาเรามากขึ้น เพราะฉะนั้นการที่เรางอข้อศอกนานๆ จะทำให้อักเสบเกิดขึ้นบริเวณเอ็นข้อศอกได้

ไล่ขึ้นมาถึงข้อไหล่ มักพบโรคเอ็นข้อไหล่อักเสบ เนื่องจากการถือสมาร์ตโฟนเป็นเวลานานด้วย และถ้าเรานั่งห่อไหล่หลังค่อม คอยื่น ก็จะทำให้เอ็นบริเวณข้อไหล่มีการกดทับกับโครงสร้างของกระดูก ซึ่งเมื่อเกิดการกดทับนานๆ หรือเกิดการเสียดสีนานๆ จะส่งผลให้เกิดการอักเสบ และอาการปวดตามมา

นอกจากนี้ การนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ จะส่งผลให้เกิดโรคในกลุ่ม Myofascial pain syndrome หรือพังผืดในกล้ามเนื้อ ซึ่งเกิดจากการนั่งท่าเดียวนานๆ กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็ง ตึงรั้ง จนปวดตรงบริเวณบ่า และสะบัก และอาจจะร้าวขึ้นคอ ขมับ หรือกระบอกตา หรือบางรายที่นั่งอยู่ท่าเดิมนานๆ จะเกิดการยึดรั้งของเส้นประสาทบริเวณแขนทำให้มีอาการปวดชาร้าวไปตามแขนได้เหมือนกัน และอาจทำให้กระดูกคอเสื่อมได้ เนื่องจากเป็นการนั่งที่ผิดหลักชีวกลศาสตร์ หรือยิ่งไปกว่านั้นอาจ ส่งผลทำให้เกิดโรคหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาทได้เลยทีเดียว

สำหรับวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคกล้ามเนื้ออักเสบต่างๆ ที่เกิดจากการใช้สมาร์ตโฟนนั้น กภ.จุติพร ธรรมจารี ได้แนะนำว่า หากต้องใช้สมาร์ตโฟนพิมพ์ข้อความยาวๆ สำหรับการติดต่อเรื่องที่สำคัญ ควรเปลี่ยนจากการพิมพ์เป็นการโทร. นอกจากนี้อาจใช้เป็นข้อความเสียง หรือการพิมพ์อักษรด้วยเสียงผ่านฟีเจอร์ในสมาร์ตโฟน และไม่ควรนั่งท่าเดียวนานๆ ควรมีการเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-40 นาที ด้วยการขยับยืดเหยียดเพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ

นอกจากนี้ควรหาหมอนหรืออะไรก็ตามที่เหมาะสมสำหรับรองตรงบริเวณข้อศอก เพื่อให้สมาร์ตโฟนอยู่ในระดับสายตา จะได้ไม่ต้องก้มหน้านานๆ ซึ่งจะส่งผลต่อกระดูกคออีกทั้งจะได้ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณสะบักหรือไหล่ ที่จะส่งผลทำให้เกิดอาการปวดแขน ส่วนเรื่องขนาดของตัวอักษร และความสว่างหน้าจอก็มีส่วนสำคัญ เพราะหากสมาร์ตโฟนมีขนาดตัวอักษรที่เล็กเกินไป หรือมีความสว่างไม่เพียงพอ จะทำให้เรายิ่งต้องก้มและต้องเพ่ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อที่คอ และตาได้

กภ.จุติพร ธรรมจารี นักกายภาพ
pokemon-1553977_960_720

กภ.จุติพรกล่าวด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัดมหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมอบรมฟรีในหัวข้อ “เล่นมือถือ อย่างมีความสุข Smart Phone Smart Posture” เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุของการบาดเจ็บ และโรคที่เกิดจากการใช้สมาร์ตโฟน การใช้ สมาร์ตโฟนอย่างถูกต้อง

และการออกกำลังกายเพื่อป้องกันและรักษาเมื่อเกิดการบาดเจ็บ และจะได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนในหัวข้อที่น่าสนใจอื่นๆ อีก ทั้งในเรื่องของโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ทางระบบประสาทกิจกรรมบำบัด ตลอดจนกายภาพบำบัดในเด็ก เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งหัวข้อจะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารการจัดอบรม และบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับกายภาพบำบัด ได้ที่ www.pt.mahidol.ac.th หรือ FB: ศูนย์กายภาพบำบัดมหาวิทยาลัยมหิดล

ที่มา : คอลัมน์ ข่าวสดสุขภาพ