จากตกงาน-ไม่มีรายได้ สร้างอาชีพ ขาย “ไส้กรอกเพื่อชีวิต” ส่งลูกจบปริญญา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรากำลังอยู่ในยุคที่เศรษฐกิจซบเซา มีข่าวคนตกงาน โรงงานปิดตัว นักศึกษาจบใหม่เดินเตะฝุ่นออกมาไม่เว้นวัน หลายคนกลับมายืนได้ แต่อีกหลายคนยังรอโอกาส
อย่างกรณี หนุ่มคนนี้ จากที่เคยมีการงานมั่นคง ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง แต่เพราะปวดหลังจากโรคกระดูกทับเส้น ทำให้ คุณหนุ่ม-วิทยา ดำสุวรรณ วัย 48 ปี ต้องลาออกจากงานประจำที่ยึดเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องมานานหลายปี หันมายึดอาชีพขายไส้กรอก “ไส้กรอกเพื่อชีวิต” ถึงทุกวันนี้ 13 ปี
“ผมกับภรรยาทำงานในโรงงานเดียวกัน แต่ผมลาออกมาก่อนเพราะร่างกายไม่ไหว เป็นโรคประดูกทับเส้น เคว้งอยู่นาน เงินน้อย และมีภาระ เลยต้องหาอาชีพทำ ทำอยู่หลายอย่าง ขับวินก็เคยมาแล้ว จนมาจบที่ขายไส้กรอก เพราะลงทุนไม่เยอะ อุปกรณ์ไม่มีอะไรมาก มีแค่รถเข็น ร่ม ตะแกรง เตาปิ้ง ลงทุนไปประมาณ 5,000 บาท” คุณหนุ่ม บอกถึงการลงทุน
ปิ้งไส้กรอกขายอยู่คนเดียวพักใหญ่ แม้ลูกค้าจะยังไม่มากแต่ยังพอขายได้ “ซื้อไส้กรอกจากตลาดเจ้าพรหม อยุธยา มาปิ้งขายใกล้บ้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ตอนหลังย้ายร้านห่างจากที่เดิม 50 เมตร แถวๆ เทศบาลป่าโมก จ.อ่างทอง ลูกค้ายังไม่เยอะเท่าไหร่ พออยู่ได้ ขายอยู่คนเดียวเป็นปีเหมือนกันครับ”
จนปี 2554 เกิดอุทกภัยใหญ่ น้ำท่วมโรงงานอุตสาหกรรมเสียหาย จนต้องประกาศปิด ภรรยาของคุณหนุ่มจึงกลายเป็นคนตกงาน
“ภรรยาเข้ามาช่วยขาย รถเข็นใหญ่ขึ้น สองแรงช่วยกัน นานวันเข้าลูกค้าก็เพิ่มขึ้น เริ่มเอาสินค้าตัวอื่นมาขายด้วย มีแหนมย่าง ไส้กรอกวุ้นเส้น ไส้อั่ว ไส้กรอกอีสานทอด ราคา 10-15 บาท ขายตั้งแต่ สี่โมงครึ่งถึงสี่ทุ่มโดยประมาณ”
แม้จะออกขายช่วงเย็น แต่ไม่พ้นต้องตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมของ “เช้ามาผมต้องตื่นไปรับของ ไส้กรอก แหนม ผัก ที่ตัวเมืองอ่างทอง ไม่ได้รับที่อยุธยาแล้ว กลับบ้านมาจัดของ พวกที่เป็นของทอด ก็ทอดไว้เลย ส่วนของย่าง ไปย่างใหม่ๆ หน้าร้าน” คุณหนุ่ม ว่าอย่างนั้น
6.ปรุงคาวก็ได้ ปรุงหวานก็ดี ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเจ้าผักสมุนไพรชนิดนี้ใช้ทำอาหารได้สารพัด ตั้งแต่ต้มจืด ผัดผัก แกงเผ็ด ทอดกรอบ หรือใส่ในยำแซบๆ แต่ที่เริ่ดกว่านั้นยังสามารถพลิกแพลงใส่ในขนมอบ เช่น คุกกี้หรือขนมปังช่วยเพิ่มความหอมและคุณค่าทางอาหาร รวมถึงทำเป็นเครื่องดื่มร้อนๆ อย่างใบชาจิงจูฉ่ายก็ไม่ผิดกติกา
7.กินสดช่วยลดโรค จิงจูฉ่ายในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานถึง 392 กิโลแคลอรี่ มีเส้นใยและคุณค่าสารอาหารสูง โดยเฉพาะแคลเซียมและวิตามินซี แต่จะให้ได้คุณค่าสูงสุดก็ต้องกินสดๆ ไม่ว่าจะกินเป็นผักเคียงกับเมนูลาบ สาคูไส้หมู จิ้มน้ำพริก หรือจะกินแบบน้ำผักคั้นสดๆ ผสมน้ำผึ้งนิด น้ำมะนาวหน่อยก็ได้
ในหนึ่งวันขายได้มากพอตัว ปิ้งแทบไม่ทัน “ต่อวันขายได้มากอยู่ คร่าวๆ ประมาณ 2,000 บาท ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย”
ต่อมาภรรยาได้เปลี่ยนไปรับจ้างขายเสื้อผ้า ทำให้คุณหนุ่มยืนเป็นตัวหลัก ขายไส้กรอกเพื่อชีวิต “ภรรยาไปทำงานรับจ้างขายเสื้อผ้า เลิกเย็นจะมาช่วยขาย ส่วนลูกสาวลูกชายว่างก็มาช่วยกัน เพราะช่วงเย็นจะคนเยอะ”
ก่อนถามย้อนไปเมื่อตอนตกงาน มีภาระหนี้สินอะไรบ้าง “มีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ค่าเช่าบ้าน ลูกเรียนหนังสือ ตอนนี้เรียนจบปริญญาตรี ทำงานกันหมดแล้ว จากเงินขายไส้กรอก”
ขายมา 13 ปี จนลูกค้าเชื่อใจ “ลูกค้าเชื่อใจร้านเรา เทคนิคไม่มีอะไรมาก รักษามาตรฐาน คุณภาพ ความสะอาด และราคาไม่แพง คนทุกระดับชั้นมาซื้อร้านผมหมด ไม่ว่าจนหรือรวย”
จากการขายไส้กรอกนี้เอง ทำให้คุณหนุ่มอยากช่วยเหลือคนไม่มีรายได้ และคนตกงาน “ผมมีรถเข็นคันเล็ก และรถพ่วงข้าง ถ้าใครสนใจ อยากมีอาชีพ มีรายได้ มาขายได้ เหมือนกับผมจ้างขายแล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน คุณแค่ปิ้งขายอย่างเดียว ส่วนของผมเตรียมของให้ ลูกค้ามีอยู่แล้ว ขายมากได้มาก รถคันเล็กจะมีเงินมัดจำ 5,000 บาท รถพ่วงข้างยังไม่ได้ตีราคามัดจำ” คุณหนุ่ม บอกรายละเอียด
สนใจอยากมีรายได้ สามารถติดต่อไปได้ที่ 096-967-5825 (คุณหนุ่ม)
| ที่มา | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
|---|
