ทำสารพัดอาชีพ แต่ไปไม่รอด! หันทำ “ข้าวมันไก่” รายได้พุ่งหลักแสนต่อเดือน
“ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป” คำคมนี้คงเป็นคติเตือนใจให้กับใครหลายๆ คน เช่นเดียวกับครอบครัวหยกฟ้าวิจิตร ที่กว่าจะตั้งตัวได้ ก็ล้มลุกคลุกคลานกันมาพอสมควรเลย คุณจิ๊บ – ศิริประพรรณ หยกฟ้าวิจิตร ภรรยาของ คุณหนึ่ง- ธนภัทร หยกฟ้าวิตร เจ้าของร้าน “หนึ่งข้าวมันไก่ตอน” ได้เล่าให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟัง เกี่ยวกับชีวิตสุดฝ่าฟันของครอบครัวเธอ
โดยเธอเล่าว่า ครอบครัวเธอลงทุนลงแรงไปมากกับการตั้งตัวประกอบอาชีพ ทำมาสารพัดอย่าง ตั้งแต่เปิดร้านขายส้มตำ ร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านขนมไข่นกกระทา และร้านโดนัทจิ๋วตามตลาดนัด ในบ้านเกิด จังหวัดพะเยา
“ตอนนั้นก็ทำมาทุกอย่าง สารพัดอาชีพที่พอจะหาลู่ทางทำได้ ลงทุนลงแรงไปไม่น้อย ทุกครั้งที่ทำ บ้านพี่จะถือคติว่าพยายามให้ถึงที่สุด จนมันกลายเป็นการดันทุรัง จนมาถึงจุดๆ หนึ่งที่เราและคนในครอบครัว รู้สึกมืดแปดด้านไปหมด เพราะไอ้ที่ทำๆ มา มันไม่เห็นหนทางในการสร้างรายได้ให้ เลยคุยกันกับแฟนว่า เราลองไปขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ดีมั้ย เพราะค้าขายพวกนี้มันได้รายได้ไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัวเรา” คุณจิ๊บ เล่าให้ฟัง
หลังจากตกลงเปลี่ยนแผน เบนเข็มหันมายึดอาชีพขับแท็กซี่รับจ้างด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็ดูเหมือนจะไปไม่รอดอีกครั้ง คุณจิ๊บ กล่าวว่า ในการขับแท็กซี่วันละสิบกว่าชั่วโมง ไม่ได้สร้างรายได้ที่เพียงพอให้จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าเล่าเรียนลูกทั้ง 3 คน ค่ารถ ค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ เลย
เมื่ออดทนขับได้ 2 ปี เธอจึงตัดสินใจลงทุนครั้งสุดท้าย กลับมาประกอบอาชีพในวงการค้าขาย เปิดร้านขายข้าวมันไก่ย่านอ่อนนุช โดยออกปากขอสูตรข้าวมันไก่จากพี่สะใภ้ ที่เปิดร้านขายอยู่ย่านสาธุประดิษฐ์มากว่า 20 ปี มาทำขาย
“ก็คุยกับแฟนว่า เราขับแท็กซี่กันทั้งคู่ วันละสิบกว่าชั่วโมง รายได้รวมกันก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย เลยบอกเขาว่าจะลองไปขายข้าวมันไก่ เพราะทางฝั่งพี่สะใภ้ของแฟน เขามีร้านข้าวมันไก่อยู่แล้ว ก็ไปขอสูตรเขามาเปิดร้านขาย ส่วนแฟนก็ยังขับแท็กซี่ต่อ ช่วงปีแรกๆ ที่ทำ แม้ว่าเราจะเปิดร้านตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด แต่ก็ขายข้าวมันไก่หมดมากสุด 20 โลต่อวันเอง ยอดขายก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะดีขึ้น ก็คิดเหมือนกันว่า เจ๊งอีกแล้วหรอ ก็ท้อมากแต่ไม่ยอมแพ้ เพราะถ้าเราเลิกขาย เงินจม ต้องกลับไปขับแท็กซี่อีก มองไปทางไหนมันก็แย่หมด เลยกัดฟัน เอาวะ ลองปรับสูตรข้าวมันไก่ดูซิ ให้ถูกปากคนมากขึ้น
“พอเข้าปีที่ 2 ยอดขายแต่ละเดือนก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยอดขายหน้าร้านมันขึ้นอยู่กับปัจจัยที่คุมไม่ได้ บางวันฝนตก บางวันอากาศร้อน ไหนจะช่วงปิดเทอมลูกค้าก็หาย แต่พวกดีลิเวอรี่มันไม่เคยตาย เห็นคนอื่นเขาทำก็ขายดีขึ้น แล้วช่วงนั้นแอพส่งอาหารดีลิเวอรี่ก็เป็นที่นิยมมาก เลยตัดสินใจเข้าร่วมเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ทำงานกับพวกแอพดีลิเวอรี่อย่าง GET ซึ่งเขาก็เพิ่งเปิดให้บริการไม่นาน เข้าเป็นสมาชิกไม่ยาก และดูแลเราเหมือนคนในครอบครัว ก็รู้สึกดีใจที่เราอดทนสู้และมาเจอคนร่วมงานดีๆ อย่างนี้ ตอนนี้แฟนก็เลิกขับแท็กซี่แล้วมาขายข้าวมันไก่ด้วยกันเต็มตัวแล้วค่ะ” คุณจิ๊บ กล่าว
ปัจจุบัน ร้านหนึ่งข้าวมันไก่ ขายไก่ตอน 24 ชม. ซอยสุขุมวิท 89/1 ขายได้วันละ 50-100 กิโลกรัม บางวันขายได้มากสุดถึง 150 กิโลกรัม ทำให้มีรายได้เดือนละราวๆ 600,000 บาท เรียกว่าเป็นธุรกิจครอบครัว ที่คุณจิ๊บและคุณหนึ่งผู้เป็นสามีจะรับหน้าที่ขายช่วงกลางวัน ส่วนกะกลางคืนเป็นหน้าที่ของหลานชาย และลูกชายคนโตวัย 18 ปี ที่คุณจิ๊บเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ลูกชายเคยเกเร ไม่ยอมเรียนหนังสือต่อ แต่ปัจจุบันกลายเป็นหัวแรงหลักของครอบครัว คอยรับผิดชอบทุกอย่างได้เหมือนที่แม่ทำ โดยเธอไม่เคยสอนมาก่อน และถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้ครอบครัวฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินที่ทับถมมาหลายปีได้
ด้วยยอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง สองสามีภรรยาเจ้าของร้านข้าวมันไก่ จึงมีแผนจะเช่าตึกในบริเวณใกล้เคียงเพื่อขยายสาขา เพราะการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ GET ยังทำให้ หนึ่งข้าวมันไก่ตอน 24 ชม. ของพวกเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง มีคนขับมารอสั่งออร์เดอร์จำนวนมากทุกวัน จนมีลูกค้าบางส่วนที่เคยสั่งข้าวมันไก่ผ่านแอพ และติดใจรสชาติข้าวมันไก่ ก็เข้ามาแวะชิมกันถึงหน้าร้าน นอกจากนั้นทางร้านยังรับทำข้าวกล่องและรับสั่งไก่ไหว้ด้วย โดยสามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ (091) 043-6507 (เบอร์ติดต่อเฉพาะกลางวัน) และ (096) 764-5532 (เบอร์ติดต่อเฉพาะกลางคืน)
ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์
ผู้เขียน : พัชรพร องค์สรณะคมกุล
