“ดีปลี”ของดีโบราณ 4 พันปี

เพจ “สมุนไพรอภัยภูเบศร” เผยแพร่ข้อมูลของ “ดีปลี” ของดีอาเซียนไว้ว่า เป็นสมุนไพรเก่าแก่ที่ปรากฎในคัมภีร์อายุรเวท มานานกว่า 4 พันปี พบมากในอินโดนีเซีย ส่วนประเทศไทยคนภาคใต้ และ ภาคเหนือนิยมนำมาเป็นเครื่องเทศแทนพริก และ พริกไทย มีรสเผ็ดร้อน ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องลาบเมืองเหนือ

สำหรับประโยชน์ของดีปลี เว็บไซต์ Medthai.com ระบุดังนี้

-ผลอ่อนดีปลีสามารถใช้รับประทานเป็นผักสดได้
-ผลแก่สามารถนำมาใช้ตำน้ำพริกแทนพริกได้ หรือในบางท้องถิ่นก็นำมาใช้แต่งใส่ในผักดองเช่นเดียวกับพริก
-ยอดอ่อนดีปลีสามารถนำมาใช้ใส่ในข้าวยำได้
-ผลดีปลีแห้งมีรสเผ็ดร้อนขม สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องในการประกอบอาหาร ด้วยการนำผลสุกดีปลีมาตากแห้งแล้วใช้ปรุงรสแกงคั่ว หรือแกงเผ็ด เพื่อใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ดี และยังช่วยปรุงรสปรุงกลิ่นให้อาหารน่ารับประทาน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้แต่งกลิ่นผักดองได้อีกด้วย
-เครื่องเทศดีปลีสามารถช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี
-ช่วยถนอมอาหารไม่ให้เกิดการบูดเน่าได้
-นอกจากจะปลูกไว้เป็นเครื่องเทศและเป็นยาสมุนไพรแล้ว ยังปลูกไว้เป็นไม้ประดับเพื่อชมใบสีเขียวสดดูชุ่มชื่น หรือปลูกเพื่อดูผลที่เป็นสีเหลืองจวนสุกก็ได้เช่นกัน
-ผลดีปลีมีน้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์สามารถฆ่าแมลงด้วงงวงและด้วงถั่วได้ และอาจนำมาสกัดเป็นสารกำจัดแมลงสูตรธรรมชาติได้
-ดีปลีใช้ปลูกในเชิงการค้าเพื่อใช้อุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพร โดยมีทั้งการปลูกเป็นพืชหลักและพืชเสริม โดยแหล่งผลิตที่สำคัญในบ้านเราได้แก่ ตำบลบ้านใหม่ ตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง อำเภอท่ามะกา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนแหล่งผลิตอื่น ๆ ก็ได้แก่ จังหวัดนครปฐม จันทบุรี และนครศรีธรรมราช

ด้านสรรพคุณทางยานั้นล้นเหลือ ทั้งบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด เป็นยากระจายลม ดีต่อท้องและปอด แก้ปัญหากระเพาะและลำไส้ได้ดี เช่น อาหารไม่ย่อย มีลมในกระเพาะมาก ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้หวัด หอบหืด หลอดลมอักเสบ

นอกจากนี้งานวิจัยใหม่ยังพบว่าดีปลี เป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพต้านมะเร็ง เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอ็อกซิไดส์ทั้งในหลอดทดลอง และ สัตว์ทดลอง

สำหรับข้อควรระวัง คือ ไม่ควรบริโภคมากเกินไป ทำให้ร้อนใน ห้ามบริโภคในหญิงมีครรภ์ นอกจากนี้ดีปลี เป็นยาเพิ่มกำลังให้ยาตัวอื่นมีคุณสมบัติในการดูดซึมยาสูง ควรระวังบริโภคร่วมกับยาต้านการแข็งของเลือด

#MatichonAcademy