ตามดูไลฟ์สไตล์สุดระห่ำ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจหนุ่มผู้กระโจนเข้าสู่การเมืองคนรุ่นใหม่

Content พาเพลิน

เป็นกระแสข่าวในแวดวงคนสนใจข่าวการเมืองกับ “เอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารไทยซัมมิทกรุ๊ป ที่เตรียมตั้งพรรคการเมือง ร่วมกับ ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการ กลุ่มนิติราษฎร์ โดยมีคอนเซ็ปต์พลังคนรุ่นใหม่ที่จะมาทำให้สังคมดีขึ้น

“ผมเชื่อว่าเราในฐานะปัจเจกบุคคล มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม ให้เป็นสังคมที่น่าอยู่กว่าทุกวันนี้ได้ เพราะผมเชื่อในพลังของมนุษย์ และในทางปฏิบัติ ถ้าเราไม่นำเสนอสิ่งที่ก้าวหน้า เราก็ไม่รู้จะทำไปทำไม”ธนาธรกล่าว

อย่างไรก็ตาม เอก – ธนาธร นอกจากเป็นหนุ่มนักธุรกิจแล้ว ยังเป็นหลานชายของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.คมนาคม ในยุค ทักษิณ ชินวัตร จบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานบริษัทกลุ่มบริษัทไทย ซัมมิท ที่ประกอบชิ้นส่วนรถยนต์และจักรยานยนต์

ธนาธร ถือเป็นนักอ่านตัวยง แต่อีกด้านหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ คือ การเป็นคนสายเอ็กซสตรีม เนื่องจากเป็นคนที่รักการเล่นกีฬา และมีกิจกรรมกีฬาเอ้าท์ดอร์แนวผจญภัยตลอด ชอยพายเรือคายัค ปีนเขา เดินป่า

และขึ้นชื่อล่าสุดกับไลฟ์สไตล์ผจญภัยแบบจริงจัง ชนิดที่ต้องบอกว่า ระดับบ้าระห่ำกันเลยทีเดียว

“ตั้งแต่เด็กผมชอบการผจญภัยอยู่แล้วพอทำงานก็ไม่ได้เล่นกีฬาไม่ได้ผจญภัยท่องเที่ยว จนเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วผมมีปัญหาสุขภาพ หมอแนะนำให้ออกกำลังกาย ผมก็เริ่มมาออกกำลังกายเป็นกิจวัตร มันก็เลยสะกิดต่อมความสนใจที่อยู่ข้างในให้กลับมาอีก เริ่มจากปั่นจักรยาน ปั่นจักรยานทางไกล วิ่งสายป่า (Trail Running) วิ่งเพิ่มระยะไปเรื่อย ๆ จากครั้งแรก 50 เพิ่มเป็น 100 เป็น 150 เป็น 200 ไป 250 ไป 500 เพิ่มไปเรื่อย ๆ” ธนาธรเคยกล่าวไว้กับหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2560

ผมมีประสบการณ์การไปเดินป่า (trekking) หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ในยุโรป ในอเมริกา ก็มีโอกาสไปเดินทางหลายประเทศ

แล้วก็ยังมีคยัก ผมเคยพายเรือคยักจากเชียงใหม่ลงมากรุงเทพฯ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครทำได้ พายเรืออยู่ในป่า ต้องเอาข้าวของ เอาเต็นท์ เอาอาหาร ใส่เรือไปเอง ไปกัน 2 คนกับเพื่อน เริ่มจากแม่น้ำปิงมาลงเจ้าพระยามาเรื่อย ๆ แต่ผมเสียดาย ตอนนั้นผมคำนวณพลาด คือผมพายปกติผมได้ 7-8 กม./ชม. ผมคิดว่าบวกกระแสน้ำขาลงไปด้วยก็จะได้สัก 10 กม./ชม. ถ้าได้ตามนั้นคิดว่า 11 วันน่าจะพอ แต่ 11 วันผมมาได้แค่สิงห์บุรี ก็ต้องกลับไปทำงาน มาไม่ถึงกรุงเทพฯ เหตุผลที่ผมคำนวณผิดก็คือมันไม่มีกระแสน้ำลง เพราะมันมีเขื่อนอยู่ทุกจุดเลย พอมีเขื่อนน้ำมันนิ่ง ทำให้ช้ากว่าที่คิด ผมไป expedition หลายอันมาก ก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จ มีทั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ”

ช่วงที่ผ่านมา ธนาธร ทุ่มเทกับกิจกรรมในโครงการ TJ True South ที่จะต้องเดินทางพร้อมคนไทย 10 ชีวิต เดินเท้ากว่า 1,200 กิโลเมตร เพื่อพิชิตขั้วโลกใต้ จุดหมายในฝันของนักผจญภัย พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ปักธงชาติไทย ที่ไม่เคยมีคนไทยกลุ่มไหนเคยทำมาก่อน

และระหว่างนี้เขาต้องฝึกซ้อมเตรียมร่างกายอย่างหนัก เพื่อรับทั้งความหนาวยะเยือกและการเดินเท้าระยะไกล โดยเป็นโครงการที่ใช้เวลาเดินทาง 45 วัน ในสภาพอากาศ -50 องศาเซลเซียส และทุกคนต้องลากข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองโดยไม่มีตัวช่วย

“ความหนาวจะยากตอนหยุดเดินทาง คือตอนตั้งแคมป์ เพราะในอากาศหนาว สิ่งเดียวที่สร้างความร้อนก็คือตัวเราเอง ถ้าเราเคลื่อนไหวเราจะไม่หนาว ส่วนอากาศร้อนมันยากตอนเดิน อยากอยู่เฉย ๆ แต่ที่ยากสุดในกิจกรรมผจญภัย ผมว่าปีนเขา คือมันไม่ได้ยากที่สุด แต่มันเสี่ยงตายที่สุด ก้าวพลาดทีเดียวร่วง มันอันตรายมาก มันอยู่ในขอบที่คุณพลาดไม่ได้ พลาดทีเดียวบางทีเกมโอเวอร์”เขากล่าว

การเกิดขึ้นมาของโครงการ TJ True South ธนาธรขยายเหตุผลว่า

“มันมีหลายอย่างประกอบกัน คือผมอยากโปรโมตแอ็กทีฟ เอาต์ดอร์ ไลฟ์สไตล์ ผมไม่คิดว่ามันคือการไปเที่ยวนะ ผมรู้สึกว่าพอผมมาทำกิจกรรมเชิงผจญภัยเยอะ ๆ ผมบ่นน้อยลง กลัวความลำบากน้อยลง ผมคอมเพลนพระเจ้า คอมเพลนธรรมชาติน้อยลง มันเปลี่ยนแอตติจูด เปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนวิธีที่เรามองโลก ในแง่หนึ่งผมอยากสนับสนุนไลฟ์สไตล์แบบนี้ อีกแง่หนึ่งก็คืออยากทดสอบตัวเอง ต้องการเติมเต็มความฝันตัวเอง อีกแง่หนึ่งคืออยากปักธงไทยที่นั่น เป้าหมายที่นักผจญภัยทั่วโลกใฝ่ฝันคือ 7 Summits และ 2 Poles คือภูเขาที่สูงที่สุดในโลก 7 แห่งใน 7 ทวีป และขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ ผมอยากให้มีคนไทยไปถึง มันยังไม่มีคนจากประเทศกำลังพัฒนาไปถึง”

เป็นไลฟ์สไตล์แอคชั่นของ นักธุรกิจหนุ่มที่กระโจนเข้าสู่เส้นทางการเมืองคนล่าสุด

source
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ

 

——

[email protected]
โทรศัพท์ 0-2954-3971 ต่อ 2111