แค่เก็บเงินเป็น ก็เป็นเศรษฐีได้ กับเทคนิคฉบับมนุษย์เงินเดือน

Human of Office ชีวิตมนุษย์เงินเดือน

มนุษย์เงินเดือนไม่มีทางรวย! ประโยคนี้กลายเป็นค่านิยมผิดๆ ทางความคิด ที่เรามักจะได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆ ถูกปลูกฝังว่าต้องทำธุรกิจส่วนตัวถึงจะรวย ซึ่งถ้าไม่รู้จักเก็บออม ไม่มีวินัย ไม่รู้จักวิธีใช้เงินต่อเงิน ต่อให้จะเป็นเจ้านายหรือลูกจ้างก็ไม่มีวันเป็นเศรษฐีได้แน่นอน เพราะฉะนั้นเรามีเทคนิคเก็บเงินแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนที่คุณสามารถทำตามได้จริงๆ มาฝากกัน!

1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
การเก็บเงินก็ต้องมีเป้าหมายเพื่อให้คุณเข้าใกล้ความฝันได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป้าหมายในการเก็บเงินของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันแน่นอน แต่เราแนะนำว่าให้เริ่มจากการตั้งเป้าหมายระยะสั้นๆ ก่อน ว่าถ้ามีเงินเท่านี้จะนำไปทำอะไร เช่น ภายใน 5 เดือนจะต้องซื้อทอง 3 บาทให้ได้ เป็นต้น ก็จะช่วยทำให้เป้าหมายของคุณใกล้ความจริงมากขึ้น และมากกว่าจะคิดถึงแค่คำว่า รวย เพียงอย่างเดียว

2. รู้จักบริหารเงินที่มีอยู่
เศรษฐีทุกคนที่จะร่ำรวยได้ ต่างก็ต้องรู้จักพฤติกรรมของตัวเองเสียก่อน ว่ามีรายรับ – รายจ่ายมากน้อยเพียงใดบ้าง ต้องรู้จักว่าเงินที่มีอยู่ในแต่ละเดือนจะถูกนำไปใช้กับค่าใช้จ่ายอะไร เมื่อใช้ไปแล้วเกิดประโยชน์อะไรกับเราหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นก็ต้องหาวิธีตัดออกไปก่อน ฉะนั้นต้องรู้จักบันทึกรายรับ – รายจ่าย รวมถึงภาระหนี้สินต่างๆ ให้เป็นนิสัย เพื่อจะได้รู้สถานะการเงินของตัวเองอยู่เสมอ แนะนำว่าควรทำอย่างละเอียด ไม่ใช่คิดแค่ตัวเลขก้อนใหญ่ๆ เพราะเศษเงินบาทที่คุณคิดว่าไม่สำคัญแล้วมองข้ามไป จริงๆ มันอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ไร้ประโยชน์มากกว่าเงินร้อยเงินพันเสียอีก

3. เงินเดือนน้อยไม่ใช่ปัญหา เก็บได้เหมือนกัน
ควรเปลี่ยนความคิดน้อยเนื้อต่ำใจว่าเงินเดือนน้อยเก็บไปก็ไม่รวย หรือจะเหลือเก็บได้ยังไง แค่ความคิดก็กลายเป็นอุปสรรคเสียแล้ว ลองหยุดคิดด้านลบแล้วเปลี่ยนเป็นลงมือทำจริงๆ หรือลองหาวิธีเก็บเงินแปลกๆ เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าต้องแบ่งเงินเก็บมากเกินไปจนเบียดเบียนค่าใช้จ่าย เช่น บอกตัวเองว่าจะเก็บเงินตามวันที่ของทุกเดือน เพื่อฝึกวินัยการเก็บเงินให้ได้ทุกวัน อย่างวันที่ 25 ก็เก็บเงิน 25 บาท วันที่ 30 ก็เก็บเงิน 30 บาท แล้วสิ้นเดือนลองรวมเงินดูนะคะว่าเก็บได้เท่าไหร่

4. ไม่ต้องรีบใช้เงิน แค่หยุดคิดก่อน
มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา สิ่งของล่อตาล่อใจมีเยอะนัก ยิ่งทุกวันนี้สินค้าออนไลน์สั่งง่ายเหมือนเสกมา ดูดเงินในบัญชีไปไม่รู้เท่าไหร่ เดือดร้อนจนเงินเดือนไม่พอใช้ เป็นหนี้บัตรเครดิตเพิ่ม เพราะบริหารเงินไม่เป็น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินไป ลองหยุดวิ่งตามเทรนด์ ลดจำนวนของฟุ่มเฟือยที่คิดว่าไม่มีหรือไม่ทำก็ได้ เช่น การช้อป กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ของจุกจิก หรือแม้กระทั่งการเข้าคาเฟ่ทุกอาทิตย์เพื่อสั่งกาแฟแก้วเดียวแล้วถ่ายรูป เป็นต้น อาจจะแบ่งเงินเก็บได้เพิ่มมากขึ้นนะคะ

5. ออมบ้าง ลงทุนบ้าง เดี๋ยวเงินก็เพิ่ม
เงินเดือนได้เป็นก้อนก็จริง แต่พอจะแบ่งเก็บบางคนถึงกับปาดน้ำตา เพราะกลัวใช้รายเดือนไม่พอ แต่ถ้าคุณลองนึกภาพตัวเองตอนวัยเกษียณที่ไม่มีเงินเก็บสักบาทเดียว จะร้องไห้เสียใจก็คงไม่ทันแล้วจริงไหม? วิธีเบสิคในการเก็บออมใช้ได้เสมอ คือ แบ่งเงินตามสัดส่วนที่เป็นไปได้จริง ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่ายรายวัน หนี้สิน เงินออม เงินฉุกเฉิน เงินลงทุน ลองแบ่งให้ชัดเจนว่าสัดส่วนไหนจำเป็นมากหรือน้อย แต่อย่างน้อย เงินออม และเงินลงทุน ควรแบ่งไว้เพื่อต่อยอดเงินในอนาคตได้ เช่น การฝากในบัญชีฝากประจำ หรือซื้อ LTF RMF เป็นต้น

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะทำงานเป็นลูกน้องหรือเป็นเจ้าของกิจการ ต่างก็มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ขอแค่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนและพอใจในสิ่งที่ตนมี ก็เป็นความร่ำรวยทางจิตใจได้แล้วเช่นกัน เทคนิคที่เราแนะนำไปทั้ง 5 ข้ออาจจะช่วยให้คุณรวยขึ้นได้จริงๆ ถ้าหากคุณมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำมากพอค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.moneyguru.co.th/blog
https://www.moneyguru.co.th/blog