เรื่องบางเรื่องก็สามารถสร้าง “สินค้าใหม่” ขึ้นมาได้จริงๆ ไม่ต่างจากสถานการณ์สร้างวีรบุรุษฉันใดก็ฉันนั้น อย่างเช่นเวลานี้ “เจล” ที่เคยเป็นสินค้าอยู่เงียบๆ และเติบโตอย่างช้าๆ ในตลาด เวลานี้กลับเป็นสินค้า “ขายดี” โดยเฉพาะเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ คนรู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมือง และยิ่งเวลานี้ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือยี่ห้อต่างๆ ต่างถูกผลิตออกมาจำหน่ายหลากหลายดูละลานตาไปหมด ทั้งสีสัน รูปทรง ของผลิตในประเทศ นอกประเทศ เอาเป็นว่าสามารถสรรหาเลือกซื้อได้ตั้งแต่ราคาถูก ปานกลาง ไปจนถึงแพงเวอร์
ก่อนอื่นต้องรู้จัก “เจล” ก่อนว่าคืออะไร?
คำว่า “เจล” หรือ gel เป็นของผสมที่มีลักษณะกึ่งแข็งคล้ายวุ้น เป็นระบบคอลลอยด์ (colloid) ชนิดหนึ่งที่มีน้ำเป็นตัวกลาง เจลในอาหารส่วนใหญ่จะเป็นไฮโดรคอลลอยด์ (hydrocolloid) ซึ่งมีอนุภาคของแข็ง เป็นโพลิเมอร์ที่ชอบน้ำ ได้แก่ โพลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) กัม (gum) โปรตีน (protein) อนุภาคเหล่านี้กระจายตัวในน้ำ และรวมตัวกับน้ำได้ดี เมื่อให้ความร้อนแล้วทำให้เย็นตัวลงจะจับตัวกันเป็นตาข่าย 3 มิติ เป็นของกึ่งแข็ง โครงสร้างของเจลสามารถกักโมเลกุลของน้ำไว้ภายใน เจลจึงมีลักษณะเป็นของกึ่งแข็ง เนื้อสัมผัสของเจลอาจเปราะ แข็ง หนืด หรือยืดหยุ่น ขึ้นอยู่กับชนิดของอนุภาคของแข็งส่วนที่เป็นโครงสร้าง
เจลในอาหารแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. Thermoreversible gels คือ เจลที่เปลี่่ยนกลับเป็นของเหลว เมื่อได้รับความร้อนเช่น เจลจาก วุ้น คาร์ราจีแนน เจลาติน เป็นต้น 2. Thermoirrevisible gels คือ เจลที่ไม่เปลี่ยนกลับเป็นของเหลวเมื่อได้รับความร้อน เช่น เจลจากสตาร์ซ์ (starch) เจลจากอัลจีเนต (allgenate) เจลจากโปรตีน เช่น การเกิดเจลของไข่ขาวสุก เป็นต้น
คราวนี้ “เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ” หรือ Hand sanitizer คืออะไร?
ของชนิดนี้รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 คิดค้นครั้งแรกโดยพยาบาลชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน ชื่อ Lupe Hernandez โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกร่างกาย เพื่อใช้ทำความสะอาดมือในยามที่ไม่สะดวกในการล้างมือ ใช้ง่ายและปลอดภัย โดยมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 75% ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้ 99.9% รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส เพราะตัวแอลกอฮอล์นั้นจะไปทำลายในส่วนพื้นผิวโปรตีนที่หุ้มเชื้อโรคอยู่ ทำให้เชื้อโรคนั้นตายไป เมื่อเราอยู่นอกบ้าน ไม่สะดวกในการใช้สบู่และน้ำล้างมือ “เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ” จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการฆ่าเชื้อโรคบนมือเรา ก่อนจะไปสัมผัสใบหน้า จมูก ปาก หรือทำกิจกรรมต่างๆ เช่น รับประทานอาหาร
“เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ” มีส่วนผสมที่สำคัญในการทำอันดับหนึ่งเลยก็คือ “เอทานอล” หรือ “เอทิลแอลกอฮอล์” 95% ทำไมต้อง 95% เพราะว่าการที่นำส่วนผสมอย่างอื่นมาผสมให้เป็นเจลล้างมือได้นั้น จะเกิดความเจือจางของแอลกอฮอล์เกิดขึ้น เราจะได้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่ 75% นอกจากส่วนผสมมาตรฐานหลักโดยทั่วไปตามคำแนะนำของกรมอนามัยแล้ว ยังเพิ่มส่วนผสมของ “ว่านหางจระเข้” ที่สามารถใส่ลงไปในเจลแอลกอฮอล์ล้างมือได้อีกด้วย
แอลกอฮอล์นั้นถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้ก็จริง แต่แอลกอฮอล์มีผลทำให้ผิวหนังแห้ง และอาจระคายเคืองได้ ดังนั้น การเติมว่านหางจระเข้ลงไปในเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงวิตามิน E, C, A และ สารเบต้าแคโรทีน ก็เพื่อช่วยใช้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิวหนัง เราจึงสามารถใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก
ส่วน “เอทิลแอลกอฮอล์” วัตถุดิบหลักในการทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มีสูตรเคมี C2H5OH เป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการนำพืชมาหมักเพื่อเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล จากนั้นจึงเปลี่ยนจากน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ โดยใช้เอนไซม์หรือกรดบางชนิดช่วยย่อย เมื่อทำให้เป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 95% โดยการกลั่น ส่วนใหญ่ผลิตจากพืช 2 ประเภทคือ พืชประเภทน้ำตาล เช่น อ้อย บีทรูท และพืชจำพวกแป้ง เช่น มันสำปะหลัง ข้าว ข้าวโพด เป็นต้น
การเลือกซื้อเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่ดีมีคุณภาพนั้น ส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะต้องมีถึง 70-75% ถ้าเจลแอลกอฮอล์ล้างมือมีส่วนผสม 60-65% นั้น จะยังไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่ถ้ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากเกินไป ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ก็จะไม่ได้เหมือนกัน เพราะการฆ่าเชื้อโรคที่มือโดยใช้เจลล้างมือนั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15-20 วินาที แต่ถ้าปริมาณของแอลกอฮอล์มากเกินไป แอลกอฮอล์จะระเหยในอากาศไวเกินกว่าจะไปจัดการกับเชื้อโรคบนมือของเราได้ เพราะฉะนั้นก่อนซื้อเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้ดูที่ส่วนผสมว่ามีเอทิลแอลกอฮอล์ หรือ “ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์” ที่ 70-75%
รู้แจ่มชัดอย่างนี้แล้ว การซื้อหาเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่วางจำหน่ายหลากหลายแบรนด์ในท้องตลอดเวลานี้ ก็ไม่ยากอีกต่อไป สามารถเลือกดูส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้ ซึ่งเจลล้างมือตอนนี้นอกจากสีสันสวยงาม น่าซื้อ บรรจุภัณฑ์น่ารักแล้ว ยังสามารถเลือกกลิ่นได้อีกด้วย ว่าชอบกลิ่นไหน มีตั้งแต่กลิ่นลาเวนเดอร์ เมล่อน สตรอว์เบอร์รี่ กุหลาบ วานิลลา สับปะรด มะพร้าว ฯลฯ
ที่สำคัญ อย่าลืมว่าการใช้ที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะมีประสิทธิภาพ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือสามารถใช้บ่อยครั้งได้เท่าที่ต้องการ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่ไม่น้อยเกินไป กดลงฝ่ามือแล้วถูให้ทั่วทั้งฝ่ามือ หลังมือ และข้อมือให้ชุ่ม แล้วปล่อยให้มือแห้งไปเอง ห้ามเช็ดเจลออกเด็ดขาด ระยะเวลาในการใช้เจลควรอยู่ที่ 15-20 วินาที ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ในการล้างสารเคมีออกจากมือ




