“กระเทียม” พลังเผาผลาญ ปราการป้องกันโรคภัย

Health สุขภาพดีๆ

กระทียม ยากำลังคู่แข่งถั่งเชา

กระเทียมเป็นสมุนไพรที่มีเรื่องราวอยู่ในแทบทุกวัฒนธรรม กระเทียมเป็นทั้งเครื่องเทศ ยา และเครื่องราง มีความเชื่อกระเทียมมีพลังป้องกันภูตผีปีศาจ โรคร้าย หรือโชคร้ายต่างๆ ดังนั้นชาวเรือจะพกกระเทียมไปด้วยเวลาออกเรือ เพื่อป้องกันเรือล่ม ชาวบ้านใช้กระเทียมกำจัดภูตผีในการขึ้นบ้านใหม่ ใช้สะเดาะเคราะห์ ทหารโรมันจะเคี้ยวกระเทียมเวลาออกศึก เพราะเป็นสมุนไพรประจำตัวของเทพมาร์ส (Mars)เทพเจ้าแห่งสงคราม นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า กระเทียมเป็นยากระตุ้นกำหนัด กระเทียมโทนดองน้ำผึ้งจึงเป็นของคู่บ้านคนไทยในอดีต

ในทางยา กระเทียมเป็นสมุนไพรรสร้อน บำรุงไฟธาตุ บำรุงกำลัง จึงช่วยในโรคเกี่ยวกับการกำเริบของลม เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในท้อง ปวดเมื่อย มือเท้าตาย เคลื่อนไหวไม่สะดวก ลดการกำเริบของน้ำหรือเสมหะ เช่น หอบหืด ไอมีเสมหะ อาการบวม เป็นต้น

กระเทียม กำจัดเชื้อโรคที่เป็นพิษ

คนไทยนั้นกินกระเทียมกันทุกวัน เพราะใช้เป็นเครื่องเทศและส่วนประกอบในอาหารสารพัด ถือเป็นของคู่ครัวที่ขาดไม่ได้ คนไทยยังนำกระเทียมมาใส่ในเนื้อสดๆ เพื่อถนอม เช่น ในการทำแหนม เพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ไม่เป็นอันตรายต่อเชื้อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารที่เรียกว่า โปรไบโอติกส์ (Probiotics)ความรู้ใหม่ๆ ยังพบว่ากระเทียมเป็นพนักงานทำความสะอาดเส้นเลือดชั้นเยี่ยม ป้องกันไขมันสะสมในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปัจจุบันมีการใช้กระเทียมเป็นยาสมุนไพรไปทั่วโลก สรรพคุณเด่นๆ ของกระเทียมที่ใช้กันคือ ลดโคเลสเตอรอล ลดการแข็งตัวของเลือด ลดความดัน ลดการปวดเกร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รา และไวรัส ต้านมะเร็ง เป็นต้น

กระเทียม ยอดเยี่ยมเรื่องท้อง

ในการแพทย์แผนไทย กระเทียมมีรสร้อน ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องอืดเฟื้อ ทำลายสารพิษ เหมาะเป็นเครื่องเทศ มีงานวิจัยพบว่ากระเทียมช่วยกระตุ้นน้ำย่อย ผู้ป่วยที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารลดน้อยลงหรือระบบย่อยอาหารไม่ดี ควรกินกระเทียมเป็นประจำ จะทำให้อาการดีขึ้น และมีแนวโน้มว่า กระเทียมจะมีคุณสมบัติต้านมะเร็งในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

ตำรับยา

ยาจุกเสียดแน่นท้อง – กระเทียม 5-7 กลีบ บดละเอียด เติมน้ำส้มสายชูแท้ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) เกลือและน้ำตาลนิดน่อย ผสมให้เข้ากัน เอาแต่น้ำดื่ม

ยาลมในท้อง ท้องอืดบวม – นำใบคนทีสอมายำใสกระเทียมกิน ให้ใส่กระเทียมเยอะๆ

กระเทียมดองสูตรโบราณดั้งเดิม

ส่วนประกอบ – กระเทียม 1 กิโลกรัม เกลือทะเล 3 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง

วิธีทำ

1.ปอกกระเทียม ล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ

2.ใส่กระเทียมในโหลสะอาด เหลือที่ว่างจากโหลประมาณ 1 นิ้วครึ่ง

3.เติมเกลือ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำผึ้งจนท่วมกระเทียม แต่อย่าให้เต็มโหล

4.ปิดฝาให้สนิท ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ถ้าไม่สนิทอาจเป็นราได้

5.ทิ้งไว้ 1 เดือน จึงนำมารับประทาน

กระเทียมดอง สูตรโอท๊อป

ส่วนประกอบ – กระเทียม 1 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 2 ถ้วย เกลือป่น 3 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 1 ½ ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ถ้วยตวง น้ำ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1.ปอกกระเทียม ถ้าเป็นกระเทียมแห้งแช่ น้ำทิ้งทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง

2.ต้มน้ำให้เดือด เติมน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือป่น และน้ำผึ้งลงไป
คนให้ละลาย ทิ้งไว้ให้เย็น

3.นำกระเทียมที่ปอกใส่โหลที่สะอาด ให้เหลือที่ว่างประมาณ 1 นิ้วครึ่ง

4.เติมน้ำดองลงไปในโหลขวด กะให้พอดีแต่อย่าให้เต็มโหล กระเทียมจะลอยขึ้นมา

5.ปิดฝาให้สนิท เพื่อไม่ให้ราขึ้น

6.ทิ้งไว้ 1 เดือน จะหวานพอดี แต่ 3 อาทิตย์ก็รับประทานได้ แต่จะมีรสเผ็ดเล็กน้อย

กระเทียมโทนดอง (สูตรไทยใหญ่)

ส่วนประกอบ – กระเทียมโทน เกลือ พริกขี้หนูสด น้ำอ้อยก้อน หรือน้ำผึ้ง

วิธีทำ

นำกระเทียมโทนมาล้างทำความสะอาด เลือกหัวที่เน่าออก ไม่ต้อง
แกะเปลือกออก คลุกกับเกลือในอัตราส่วน กระเทียมโทน 1.6 กิโลกรัมต่อเกลือ 80 กรัม เมื่อเข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ 3 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วเอาออกมาล้างกับน้ำเปลือกจะหลุดออกมา ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำมาปรุงรสด้วยเกลือ พริกขี้หนูแดงสด น้ำอ้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เก็บใส่ขวดโหล

วิธีกินกระเทียมเพื่อบำรุงร่างกาย

วิธีที่ 1 นำกระเทียม 3 กลีบ ปอกเปลือก ทุบพอแตก กินกับน้ำอุ่นหลังอาหารเช้า

วิธีที่ 2 กินกระเทียมสดพร้อมกับอาหาร ทั้ง 3 มื้อ

น่ารู้

-การใช้ประโยชน์ทางยาจากกระเทียมนั้น ต้องบดกระเทียมให้ละเอียด เพื่อให้สาร alliin ในกระเทียมเปลี่ยนเป็นสารออกฤทธิ์ allicin อย่างเต็มที่

-กระเทียมบดแล้วต้องกินทันทีไม่ทิ้งไว้นาน เพื่อโอสถสารจะได้ไม่สลายตัว

-บางท่านอาจจะแพ้กระเทียม มีทั้งอาการแพ้ทางผิวหนัง หอบหืด ผู้แพ้ละอองเกสรดอกไม้มีโอกาสแพ้กระเทียมมากกว่าคนปกติ

-หากกินยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดอยู่ ให้ระวังการรับประทานกระเทียม เพราะจะไปเสริมฤทธิ์ยาดังกล่าว

-ท่านที่รับประทานกระเทียมเป็นประจำ หากต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรแจ้งแพทย์ทราบ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดไม่แข็งตัวหลังการผ่าตัด

-ผู้ที่มีธาตุร้อนเป็นเจ้าเรือน คือ มีอาการหน้าแดง คอแห้ง ท้องผูก ร้อนในกระหายน้ำ กระเพาะอาหารเป็นแผลหรืออักเสบเรื้อรัง มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ไม่ควรกินหรือกินได้เล็กน้อย

-ดับกลิ่นกระเทียมดิบในปาก ให้เคี้ยวใบชา หรือใช้น้ำชาแก่ๆ บ้วนปาก หรือคี้ยวพุทราจีน 2-3 เม็ด หรือยี่หร่า 3-4 เม็ด หรือถั่วเขียว 4-5 เม็ด

-กระเทียมดองทำให้กินกระเทียมได้ง่ายขึ้น แม้ไม่มีสารออกฤทธิ์ allicin แต่มีสาร S-allycysteine ที่ออกฤทธิ์ได้เช่นกัน

-กระเทียมควรรับประทานพร้อมโปรตีน เพื่อไม่ให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร และไม่ควรรับประทานกระทียมตอนท้องว่าง


ที่มา หนังสือบันทึกของแผ่นดิน ๖ สมุนไพรท้องไส้…ในวิถี ASEAN โดย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร