“แกร็บ”ไม่หยุดวิ่งมอ’ไซค์ผิดกม. ชี้กระแสตอบรับดีป้ายเหลืองขาดแคลน

Uncategorized

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ได้รวมตัวประท้วงคัดค้านการให้บริการแกร็บไบค์ โดยเรียกร้องให้บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หยุดเปิดโอกาสให้รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล (ป้ายทะเบียนสีขาว) มาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร ผ่านแอพพลิเคชั่นนั้น ล่าสุดนายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่(ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าว แกร็บ พร้อมร่วมมือภาครัฐ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ ภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 ว่า แกร็บ (Grab) ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ละฝ่ายอาจมีมุมมองที่คลาดเคลื่อนกัน ซึ่งอยากให้สังคมเข้าใจว่า ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นส่วนประกอบสำคัญของแกร็บ แต่อาจเพราะวินมอเตอร์ไซค์มีต้นทุนในการประกอบอาชีพ จึงอาจเข้าใจผิดและไม่พอใจในระบบของแกร็บ ทั้งที่แกร็บมุ่งที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของวินมอเตอร์ไซค์ให้ดีขึ้น

นายธรินทร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้เรียกใช้บริการแกร็บมากกว่า 700,000 รายต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สาธารณะป้ายเหลืองในระบบแกร็บมีไม่เพียงพอให้บริการกับความต้องการจำนวนมาก ดังนั้นจำเป็นต้องมีรถมอเตอร์ไซค์ป้ายขาวออกมาวิ่งให้บริการ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นบริการที่ผิดกฎหมาย แต่บริษัทคำนึงถึงสภาพทางสังคม ทั้งนี้หากมีผู้ขับขี่แกร็บวินอยู่ในระบบมากขึ้น ก็จะทำให้รถป้ายขาวน้อยลง อย่างไรก็ตามเพื่อความพึงพอใจของทุกฝ่ายคงต้องหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน เพื่อให้เป็นภาพที่วิน-วิน ทุกฝ่าย ทั้งผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ภาครัฐ และแกร็บ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นไทยแลนด์ 4.0 ไม่ได้ ทั้งนี้ในช่วงนี้อยากให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มาลองระบบของแกร็บ ถ้าไม่ชอบก็ปิดระบบไปได้ ไม่มีอะไรเสีย ซึ่งช่วงทดลองจะมอบสิทธิพิเศษให้เพียงรับงานแค่วันละ 2 งาน เป็นเวลา 7 วัน ก็จะมีเงินให้ 1,000 บาททันที

นายธรินทร์ กล่าวอีกว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับทางรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกรมการขนส่งทางบกมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้ละเอียดอ่อน และมีผลกระทบหลายอย่าง จึงไม่อยากให้กดดัน ขอเวลาให้ทั้ง 3 ฝ่ายหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกันก่อน ส่วนการรับมือกับสถานการณ์กระทบกระทั่งที่อาจเกิดขึ้นอีกนั้น ทางแกร็บได้สื่อสารกับผู้ขับขี่ในระบบของแกร็บทุกคนว่า ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการยั่วยุ และเลี่ยงการปะทะไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะถ้าเกิดความรุนแรงจากคนของแกร็บ จะมีบทลงโทษตามกติกาทันที แต่หากเกิดจากเหตุสุดวิสัยต้องให้ภาครัฐเป็นคนตัดสิน