เสียงฝนตกทำให้ฉันนึกถึงอาหารเกาหลี จำพวกจอน 전 ซึ่งเป็นแป้งทอดใส่เครื่องต่างๆ หรืออาจจะเรียกว่าเป็นแพนเค้กของเกาหลี จอนชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “นกดูพินแดต๊อก” 녹두빈대떡 หรือ “นกดูจอน” 녹두전 เป็นแป้งทอดที่มีความพิเศษแตกต่างจากแพนเค้กชนิดอื่นๆ เพราะใช้ถั่วเขียวซีกมาบดแทนการใช้แป้งสาลี จึงมีชื่อว่า “นกดู” 녹두 ที่แปลว่าถั่วเขียว

แล้วฝนตกมาเกี่ยวอะไรกับเจ้าแพนเค้กถั่วเขียวล่ะ อาจุมมาขอเล่าให้ฟังว่า คนเกาหลีเมื่อได้ยินเสียงฝนตก จะทำให้นึกไปถึงเสียงน้ำมันเดือดในกระทะขณะที่กำลังทอดแป้งดังฉี่ฉ่า ฉี่ฉ่า ทำให้เวลาฝนตกคนเกาหลีจะอยากกินแพนเค้กเป็นพิเศษ

สำหรับ นกดูพินแดต๊อก นั้น ทำได้ไม่ยาก ก่อนอื่นก็นำถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่น้ำจนนิ่ม แล้วนำไปโม่ด้วยเครื่องโม่หิน แต่สำหรับครัวในบ้านก็ใช้ในเครื่องบดผสมอาหารได้เลย ฉันชอบปั่นหยาบๆ พอให้เคี้ยวเจอถั่ว ผสมหมูสับกับผักอย่างละนิดละหน่อยตามชอบใจ ได้แก่ ถั่วงอก กิมจิ ต้นหอม เฟิร์น แล้วปรุงรสด้วยเกลือและน้ำมันงา คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระทะทำเป็นแผ่นกลมแบนทอดให้สุกทีละด้าน กินตอนร้อนๆ โดยจิ้มกับน้ำจิ้มซอสถั่วเหลือง ผสมน้ำส้มสายชูหมัก เติมน้ำนิดหน่อย โรยพริกป่น พริกไทย และต้นหอมซอย

เท่านี้ก็อร่อยแล้ว แต่จะให้เด็ดกว่านี้ก็ต้องกินคู่กับมักก็อลลี 막걸리 ซึ่งเป็นเหล้าพื้นบ้านเกาหลีที่ทำจากข้าวหมัก อันเปรียบได้กับสาโทของชาวสยาม

จะว่ากันไปแล้ว อาหารชนิดนี้มีมาแต่โบราณ มาดามจาง ได้บันทึกไว้ในตำราอาหารเก่าแก่สมัยโชซ็อน ในศตวรรษที่ 17 โดยเรียกว่า “พินจาต็อก” 빈쟈떡 หมายถึง แพนเค้กยาจก ก็เพราะว่าใส่เนื้อสัตว์เพียงนิดเดียว ไม่ต้องรวยก็อร่อยได้ ที่ตลาดกวางจัง 광장시장 กลางกรุงโซล ยังใช้โม่หินบดถั่วเขียวอยู่ มีทอดขายกันหลายเจ้า แวะไปชิมกันได้

ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์                                                                                                                                                                                                                                                                                              ผู้เขียน : นันทนา ปรมานุศิษฏ์

ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดเทอมแล้ว เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองหลายท่านคงกำลังมองหากิจกรรมพิเศษให้ลูกๆ ได้ใช้เวลาในระหว่างปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชนื หรือเสริมสร้างทักษะด้านต่างๆ

“มติชนอคาเดมี” ก็ไม่พลาด ต้อนรับฤดูกาลปิดเทอมด้วยการเปิดคอร์สพิเศษ “3 คอร์สเบเกอรี่ Kids & Family” ที่ให้น้องๆ ได้ใช้เวลาเสริมทักษะ และคอร์สที่จะให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน เพิ่มความสุข สนุกสนาน และความสัมพันธ์ ให้กับครอบครัวมากขึ้นในช่วงวันหยุด ส่วน 3 คอร์สที่ว่าจะมีเมนูอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

Kid’s Sunday “Pancake”

“แพนเค้ก” เมนูสุดคลาสสิกที่เป็นจานโปรดของใครหลายคน นิยมกินกันเป็นอาหารมื้อเช้าสไตล์อาหารฝรั่ง เพราะเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก และปลอดภัย วัตถุดิบและอุปกรณ์ก็หาได้ไม่ยาก และที่สำคัญคือกินแล้วอิ่มสบายท้อง

อ.หทัยรัตน์ แซ่ตั้ง หรือ อาจารย์พี่รัตน์ ผู้สอนหลักสูตรนี้ บอกว่า เนื่องจากแพนเค้กเป็นเมนูทำง่าย คอร์ส Kid’s Sunday “Pancake” จึงเป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับน้องๆ อายุ 7-12 ปีขึ้นไป ที่เป็นวัยกำลังซน อยากจะเรียนรู้ในการทำสิ่งต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกสมาธิ ความอดทน และเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

“สิ่งที่น้องๆ จะได้เรียนรู้คือความหลากหลายของตัวแป้งแพนเค้ก การผสมแป้งเพื่อให้ตัวแป้งออกมานุ่มพอดีไม่แข็งกระด้างจนเกินไป โดยมีเพียงแค่ แป้ง นม ไข่ และน้ำตาล เป็นวัตถุดิบหลัก และการทอดตัวแป้ง นอกจากนี้ยังส่งเสริมจินตนาการที่น้องๆ อาจจะเติมแต่งสี ผงช็อกโกแลต หรือโกโก้เพิ่มเข้าไปได้ตามใจชอบ และยังสามารถทำเป็นรูปต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ รูปดาว หรือรูปตัวการ์ตูนที่ชอบ พร้อมกับการจัดแต่งจานให้สวยงามดูน่าทานมากยิ่งขึ้น” อ.หทัยรัตน์กล่าว

คลิกอ่านรายละเอียดคอร์สแพนเค้กได้ที่นี่เลย https://www.matichonacademy.com/bakery-class/article_23895

Family’s Sunday “Brownie & Choc Ball”

อีกสองเมนูที่เด็กๆ ทำได้แน่นอนก็คือ “บราวนี่” และ “ช็อกบอล” ด้วยกรรมวิธีที่ไม่ยุ่งยาก กระบวนการทำไม่อันตราย ใครก็สามารถทำกินเองได้ หรืออาจจะร่วมกันทำเป็นกิจกรรมภายในครอบครัวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

อ.หทัยรัตน์ แซ่ตั้ง หรือ อาจารย์พี่รัตน์ ผู้สอนหลักสูตรนี้ ระบุว่า คอร์ส Family’s Sunday “Brownie & ChocBall” เป็นอีกหนึ่งคอร์สที่ส่งเสริมการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ผ่านการทำเบเกอรี่ที่มีวีธีการทำค่อนข้างง่ายและปลอดภัย แต่สำหรับในวัยเด็กนั้นควรมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ เพราะการใช้เตาอบนั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กได้

“จุดเด่นของการทำขนมบราวนี่คือการตีเนื้อบราวนี่แบบฟัดจ์ ที่ทำให้เนื้อนุ่มแต่ไม่เหนียว และการตกแต่งหน้าบราวนี่โดยใช้ขนมที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น คุกกี้ ถั่ว ช็อกโกแลตสี หรือ M&M เพื่อเป็นการเพิ่มความน่ากินให้กับบราวนี่ และในส่วนของช็อกบอลนั้นจะเป็นการนำเศษที่เหลือจากการตัดขอบบราวนี่มาปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วเคลือบด้วยช็อกโกแลตพร้อมตกแต่งให้ดูสวยงามน่ากิน” อ.หทัยรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

คลิกอ่านรายละเอียดคอร์สบราวนี่และช็อกบอลได้ที่นี่เลย https://www.matichonacademy.com/bakery-class/article_23900

Family’s Sunday “Berry Cheesecake”

ปิดท้ายคอร์สเบเกอรี่รับปิดเทอมในเดือนมีนาคมกันด้วยเมนู “บลูเบอร์รี่ ชีสเค้ก” เมนูเบเกอรี่ที่ฮอตฮิตตลาด ที่ไม่ว่าจะเข้าคาเฟ่ที่ไหนก็คงได้เห็นว่ามีเมนูนี้อยู่เกือบแทบทุกร้านเลยทีเดียว แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำเมนูนี้กินเองได้ค่อนข้างง่ายโดยไม่ใช้เตาอบ เพราะมีขั้นตอนการทำที่ไม่มาก แต่ก็ใช้เวลาในการทำอยู่พอสมควร

อ.กฤษณะ ยุคะลัง หรือาจารย์พี่ต่อ ผู้สอนหลักสูตรเบอร์รี่ชีสเค้ก กล่าวว่า คอร์ส Family’s Sunday “Berry Cheesecake” เป็นคอร์สเบเกอรี่ที่สามารถเสริมสร้างการควบคุมอารมณ์ของเด็กให้ใจเย็น เพราะการทำเมนูนี้จะต้องมีความอดทนในการรอตัวแยม ครีมชีส และฐานแคร็กเกอร์เซตตัว

 

“จุดเด่นของบลูเบอร์รี่ ชีสเค้ก คือตัวครีมชีสที่นำมาทำนั้นจะต้องมีคุณภาพ และหากคนที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาทำ อาจจะนำครีมชีสที่แข็งและเย็นอยู่มาทำเลย ทำให้จับตัวเป็นก้อนๆ ไม่สามารถทำต่อไปได้ จะต้องมีการเรียนรู้พื้นฐานก่อน เพราะว่าครีมชีสจะมีอุณหภูมิที่เหมาะสมในการทำอยู่ และจุดเด่นอีกอย่างของเบเกอรี่ชีสเค้กก็คือแยมที่มาราดตกแต่งทานคู่กับเค้ก ซึ่งสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นแยมส้ม แยมสตรอว์เบอร์รี่ หรือแยมสับปะรด แต่ในคอร์สนี้จะใช้เป็นตัวแยมบลูเบอร์รี่ ที่นิยมกินกันเป็นส่วนมาก”

นอกจากนี้ คอร์ส Family’s Sunday “Berry Cheesecake” ยังมีการแนะนำแนวทางการทำเบเกอรี่สำหรับเด็กๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่อยากจะมีความรู้ในการทำขนมหรืออาหารต่างๆ และยังสอนเทคนิคการคำนวณต้นทุนและวิธีการขายให้กับคุณพ่อคุณแม่และเด็กๆ อีกด้วย

มติชนอคาเดมีจัดเต็มทุกหลักสูตร ให้ผู้ปกครองและน้องๆ หนูๆ ได้ลงมือทำจริงทุกขั้นตอน สนใจสามารถสสมัครเข้ามาได้ที่ Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105 line : @matichonacademy

พิเศษ!!! โปรโมชั่นรับลมร้อน มติชนอคาเดมีคืนกำไรลูกค้า แจก GIFT VOUGHER มูลค่า300บาท สำหรับผู้สมัครเรียนหลักสูตรอาหารและเบเกอรี่ ใช้เป็นส่วนลดในการเรียนคอร์สต่อไป หมดเขต 31พ.ค.62 รีบๆ จองกันเข้ามานะคะ

ข้าวไทยกินกับอะไรก็อร่อย อยากกินแพนเค้กแต่ไม่มีแป้งสาลีก็ไม่ต้องกลัว เพราะข้าวสวยหุงสุกที่มีติดบ้านก็สามารถทำแพนเค้กได้ แถมแพนเค้กจากข้าวยังมีเนื้อสัมผัสนุ่มนิ่ม กินแล้วเพลินใจ

ส่วนผสม
– ข้าวหอมมะลิงหุงสุก
– ไข่ไก่
– น้ำตาลทราย
– กลิ่นวานิลลา
– แป้งข้าวโพด
– เบกกิ้งโซดา
– นม 
– น้ำมันรำข้าว
– น้ำตาลทราย
– เกลือ

  

วิธีทำ

มาทำการทำแป้งแพนเค้กข้าวกันก่อนดีกว่าค่ะ
1. แยกไข่แดงออกกับไข่ขาวก่อนและนำไข่แดงที่ได้มาเทรวมกัน
2. เอาไข่ไก่ที่มีแต่ไข่แดงเทลงไปปั่น ตามด้วยน้ำมันรำข้าว นม ข้าวหอมมะลิหุงสุก กลิ่นวนิลา เกลือ น้ำตาลทราย เบกลิ้งโซดา แล้วปั่นให้ละเอียดพอได้ตัวแป้งแล้วให้พักทิ้งไว้ก่อน

มาทำเมอแรงค์กันต่อค่ะ
3. ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟอง ตามด้วยน้ำตาลทรายลงไป ตีจนขึ้นฟูตั้งยอดแข็ง
4. แล้วนำมาตะล่อมผสมกับแป้งที่เราทำไว้ จากนั้นร่อนแป้งข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากัน
5. นำกระทะตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง หยอดแป้งลงไปเป็นแผ่นกลมๆ ทอดจนเหลือแล้วตักใส่จานพักไว้

เป็นอันเสร็จนำมาตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีม น้ำผึ้ง และโรยไอซ์ซิ่ง พร้อมเสิร์ฟ

แป้งแพนเค้กใครว่าทำยาก!! เคยกินไหม "แพนเค้กข้าว" ทำเองได้ที่บ้าน

แป้งแพนเค้กใครว่าทำยาก!! เคยกินไหม "แพนเค้กข้าว" ทำเองได้ที่บ้าน #happydish #แพนเค้กข้าว

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ วันศุกร์ที่ 28 กันยายน 2018

สนใจเรียนทำอาหาร
ดูได้ที่ www.matichonacademy.com
หรือดูตารางเรียนประจำเดือนได้ที่นี่ >ตารางเรียน

หรือติดตามอัพเดทเรื่องราวอาหารและไลฟ์สไตล์สนุกๆได้ที่
Facebook : MatichonAcademy