สนามบินนานาชาติชางงีแห่งประเทศสิงคโปร์ พร้อมเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ใกล้สนามบิน Jewel Changi Airport สถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุมหลากหลายมิติ ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 เป็นต้นไป

เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 เมษายนนี้แล้ว กับ Jewel Changi Airport หรือ Jewel ไลฟ์สไตล์เดสทิเนชั่นแห่งแรกของสิงคโปร์ที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติ และความสนุกสนาน เข้ากับห้างสรรพสินค้าได้อย่างลงตัว ด้านในจะมีร้านค้าและร้านอาหารกว่า 280 ร้าน และกว่า 60% ของจำนวนร้านทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์ใหม่ที่ไม่เคยเปิดให้บริการที่ชางงีมาก่อน และอีก 30% จะเป็นร้านบริการอาหารและเครื่องดื่ม รับรองได้ว่าทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนจะได้รับประสบการณ์การช็อปปิ้ง ในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน

Jewel เป็นอาคารรูปโดมดีไซน์สะดุดตาซึ่งสร้างขึ้นด้วยกระจกแก้วและเหล็ก ออกแบบโดยบริษัทออกแบบชั้นนำ Safdie Architects ที่บริหารงานโดยสถาปนิกชื่อดังของโลกอย่าง Moshe Safdie ร่วมกับสถาปนิกฝีมือดีอีกมากมายจากบริษัท RSP Architects Planners and Engineers และบริษัท Benoy โดยคอนเซ็ปต์ในการออกแบบคือ การผสานกันของสวนสาธารณะและห้างสรรพสินค้า ที่แปลกใหม่แต่ลงตัว ซึ่งจะเห็นได้จากสวนป่าเขียวชอุ่ม Forest Valley และน้ำตก Rain Vortex อันสวยงามซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของอาคารนี้

แบรนด์ใหม่ยกขบวนมาเยือนสิงคโปร์เป็นครั้งแรกที่ Jewel

หลากหลายแบรนด์ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Jewel เป็นแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาเปิดที่สิงคโปร์เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Pokémon Center ที่มาจัดตั้งถาวรแห่งเดียวนอกญี่ปุ่น หรือแบรนด์ร้านอาหารอย่าง Shake Shack ที่มาพร้อมเมนูซิกเนเจอร์อันหลากหลาย จบจากของคาวก็สามารถมาลิ้มลองของหวานได้ที่ร้าน Läderach ที่มาร่วมเปิดตัวใน Jewel เป็นที่แรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีร้าน A&W ที่กลับมาเยือนสิงคโปร์อีกครั้งในรอบหลายปี

แบรนด์สัญชาติสิงคโปร์ที่ทุกคนหลงรัก

และในบรรดาร้านรวงที่เข้ามาเปิดที่ Jewel นั้น ยังรวมถึงแบรนด์สัญชาติสิงคโปร์แท้ ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีอย่าง Tiger Beer มาพร้อมคอนเซ็ปต์ร้าน “Tiger Street Lab” ที่จะมอบประสบการณ์สุดแปลกใหม่ให้กับเหล่านักดื่ม หรือ Naiise ก็ได้มาในคอนเซ็ปต์ “Naiise Iconic” ที่แปลงโฉมจากร้านขายสินค้าเดิมๆ เป็นร้านที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์ด้วยกิจกรรมมากมาย หรือ Supermama และ Violet Oon ซึ่งต่างก็จะมาเปิดโฉมใหม่ที่ห้างแห่งนี้เช่นกัน

นอกเหนือจากนี้ ผู้มาเยี่ยมชมยังจะได้พบกับร้านสาขาใหญ่จากอีกหลายแบรนด์ดังที่ทุกคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น ร้านไนกี้ (Nike) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ (Marks & Spencer) มูจิ (MUJI) ซาร่า (ZARA) ยูนิโคล่ (UNIQLO) โรงภาพยนตร์ Shaw Theatres ในระบบ IMAX และซูเปอร์มาร์เก็ต FairPrice Finest ที่มีสินค้ามากมายครบครัน รวมถึงมุมผลิตภัณฑ์ที่ได้คัดเลือกมาเป็นพิเศษ และพื้นที่ในการจัดงานอีเวนท์ ในส่วนของศูนย์อาหาร Five Spice ซึ่งบริหารงานโดย Food Junction ก็มีร้านอาหารชื่อดังของสิงคโปร์มากกว่า 10 ร้าน อาทิ ร้าน Faai Di by Ka-Soh และร้าน Fu Lin Yong Tofu ที่มีชื่อเสียงยาวนานมากว่า 20 ปี

สำหรับสมาชิก Changi Rewards และ CapitaStar จะได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าอีกขั้น เพราะตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนเป็นต้นไป Jewel จะมอบคะแนนให้แบบคูณสองผ่านโปรแกรม Double Rewards โดยสมาชิกที่ใช้จ่ายภายใน Jewel จะได้ทั้งคะแนนสะสมของ Changi Rewards และ STAR$® ทุกครั้งที่ซื้อสินค้าและบริการใน Jewel

เชิญชวนผู้เข้าชม Jewel ใช้ระบบขนส่งมวลชนในการเดินทาง

สนามบินชางงีมีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผู้ที่ต้องการมาเยี่ยมชมอาคาร Jewel จึงสามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟ หรือรถประจำทาง โดยนอกจากสถานี MRT สนามบินชางงีแล้ว ยังมีรถประจำทางให้บริการที่เทอมินัล T1, T2 และ T3 จำนวนมาก นอกจากนี้ T1 ยังเชื่อมต่อกับ Jewel ที่บริเวณชั้น 1 ของอาคารผู้โดยสารขาเข้า ส่วน T2 และ T3 ก็เชื่อมต่อกับ Jewel ด้วยทางเดินพร้อมระบบปรับอากาศเพื่อความสะดวกสบาย

อาคารจอดรถแห่งใหม่ของ T1 กับ Jewel ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการไปแล้วบางส่วนในเดือนพฤศจิกายน 2561 จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนเป็นต้นไป โดยมีพื้นที่จอดรถใต้ดิน 5 ชั้น

ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนนี้เป็นต้นไป ห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารจาก 26 สายการบิน ที่เช็คอินก่อนเวลา สามารถใช้บริการรับฝากสัมภาระได้ ส่วน Canopy Park และสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นบนสุดของ Jewel จะเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2562

ณัฐกานต์ สอนโยหา-เรื่อง, ภัทรสุดา พิบูลย์-ภาพ

หากพูดถึงประเทศ “สิงคโปร์” หลายคนอาจรู้อยู่แล้วว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่โดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นประเทศที่มีผลงานศิลปะที่โดดเด่นมากมาย ทำให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศสิงคโปร์ มีแนวคิดที่จะนำเสนอเรื่องราวและวัฒนธรรมของประเทศสิงคโปร์ ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการทำผลงานศิลปะให้มีคุณค่า มีรสนิยม และสื่อถึงความรู้สึกนึกคิดของศิลปินให้ออกมาสู่สายตาของผู้ชมได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ผู้ที่เข้ามาชมงานศิลปะ มีปฏิสัมพันธ์กับผลงานมากยิ่งขึ้น

งานนิทรรศการศิลปะดังกล่าวมีชื่อว่า “The Unknown World” ภายใต้แคมเปญ “Passion Made Possible : ทุกความชอบที่ใช่ เป็นไปได้ที่สิงคโปร์” ซึ่งเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.เอ็ดเวิร์ด โค ผู้อำนวยการบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศสิงคโปร์ บินลัดฟ้ามาร่วมเปิดงานด้วย

จุดประสงค์หลักของนิทรรศการก็เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมนอกกระแส ผ่านงานประติมากรรม งานแอนิเมชั่นและภาพเคลื่อนไหว ที่สะท้อนถึงตัวตนของศิลปินทั้งหมด 7 คน 7 ชิ้น โดยงานศิลปะภายในงานจะผสานเทคโนโลยี AR เข้าไป เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของวัฒนธรรมสิงคโปร์ที่น้อยคนนักจะเคยเห็น

“ไครัดดิน โฮริ” ผู้อำนวยการฝ่ายภัณฑารักษ์และหุ้นส่วนของ Chan+Hori Contemporary ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผลงานศิลปะหาดูได้มากมายในประเทศสิงคโปร์ เพราะมีศิลปินใหม่ๆ แจ้งเกิดขึ้นตลอด และพร้อมที่จะโชว์ทั้งโลกให้ได้เห็นว่า นอกเหนือจากธุรกิจ การช้อปปิ้ง หรืออาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยของประเทศนี้แล้ว ยังมีผลงานศิลปะที่หลอมรวมเข้าด้วยกันกับเทคโนโลยี ซึ่งกำลังมาแรงมากที่สิงคโปร์ ศิลปะในนิทรรศการนี้จึงเป็นผลงานที่ผสานเทคโนโลยี AR และ VR เข้ามาด้วย ทำให้ภาพหรือผลงานศิลปะดูมีชีวิตขึ้นมา

แต่ก่อนที่จะเข้าไปชมศิลปะที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี ไฮไลต์ที่สะดุดตาผู้เข้าชมนิทรรศการทุกท่าน เห็นจะเป็นงานจิตรกรรมบนฝาผนังที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ โดยการสร้างสรรค์ระหว่าง “รักกิจ สถาพรวจนา” ศิลปินสตรีทอาร์ตและกราฟิกดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และ “ซาแมนธา โล” ศิลปินสตรีทอาร์ตชาวสิงคโปร์ หรือที่รู้จักในชื่อว่า แซม โล

“แรงบันดาลใจของงานชิ้นนี้ มาจากความต้องการที่จะสื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศด้วยสัญลักษณ์ของประเทศไทยและลิงคโปร์ นั่นก็คือช้างและสิงโต โดยใส่สิ่งที่มองว่าเป็นสัญลักษณ์ของทั้งสองประเทศลงไป อย่างเช่นลายผ้าพื้นเมืองของสิงคโปร์หรือคำว่าสวัสดีที่เป็นภาษาไทย เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นประเทศทั้งสองประเทศนี้” รักกิจ สถาพรวจนา เล่าถึงแรงบันดาลใจของงานศิลปะ

สำหรับนิทรรศการ “The Unknown World” เรียกได้ว่ามีผลงานที่น่าสนใจหลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือผลงานของ Eugene Soh โดยเป็นภาพถ่ายภายใต้คอนเซ็ปต์ Renaissance City series ทั้งนี้ ปกติแล้ว Eugene Soh เป็นช่างภาพที่มักจะสร้างผลงานที่เสียดสีการใช้ชีวิตของชาวสิงคโปร์ในยุคปัจจุบัน แต่ครั้งนี้เขาได้นำภาพถ่ายที่เป็นวิถีชีวิตของชาวสิงคโปร์ ที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน มาถ่ายทอดให้ได้เห็นในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น โดยสามารถชมภาพถ่ายในรูปแบบ AR ผ่านเลนส์กล้องของเฟซบุ๊กหรืออุปกรณ์สื่อสาร จะสามารถเห็นตัวละครในชิ้นงานเคลื่อนไหว เสมือนว่ามีชีวิตจริง

Renaissance City series

อีกชิ้นที่น่าสนใจคือผลงานชิ้นที่ชื่อว่า What Tribe is Thi$? โดย Amanda Tan ที่พูดถึงอัตลักษณ์ของตัวเธอเอง ซึ่งภาพและเพลงที่สื่อออกมาจะมีทั้งของประเทศจีนและของอินเดียรวมอยู่ด้วยกัน เป็นการเน้นให้เห็นถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมในประเทศสิงคโปร์ และความสวยงามจากศิลปะของแต่ละเชื้อชาติ

What Tribe is Thi$?

ขณะที่ผลงานของ anGie seah เป็นการแสดงสดซึ่งมาในคอนเซ็ปต์ Wondering at the moon เป็นศิลปะที่พูดถึงความคิดและมุมมองของมนุษย์ โดยใช้ดวงจันทร์เข้ามาเปรียบเปรย เธอคิดว่าศิลปะเป็นเครื่องมือที่มีพลังมากในการใช้ชีวิต ซึ่งโชว์ของเธอจะเป็นรูปแบบการแสดงความคิดออกทางร่างกาย โดยโชว์นี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 มีนาคมนี้ เวลา 17.00 น.

Wondering at the moon

อีกชิ้นงานที่น่าสนใจคือผลงานของ Gerald Leow ที่มีชื่อว่า House forms series ซึ่งเขาเล่าว่าศิลปะชิ้นนี้ดัดแปลงมาจากบ้านทรงออสโตรนีเซียนที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสังคมและวัฒนธรรมของที่อยู่อาศัยในอนาคต ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของความน่ากลัว

House forms series

ความน่าสนใจยังรวมไปถึงผลงานของ Speak Cryptic มีชื่อว่า S*GATTE เป็นซุ้มประตูที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีโมโนโครม โดย Speak บอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากดวงดาว 5 ดวงบนธงชาติสิงคโปร์ ส่วนประตูนั้นสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของศิลปินที่มีเชื้อสายมลายู โบยานีส นอกจากนี้ ซุ้มประตูยังได้ใช้เทคโนโลยี AR เข้ามา เพื่อให้ภาพดูมีมิติและสวยงามมากยิ่งขึ้น

S*GATTE

นอกจากชิ้นงานที่กล่าวมานั้น ยังมีงานศิลปะที่น่าสนใจที่รอทุกคนไปสัมผัสความเป็นสิงคโปร์กันอีกมากมาย พร้อมมีกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้-17 มีนาคมนี้ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (bacc)

ทำเอาแฟนๆ เครื่องบิน และผู้ที่มักเดินทางด้วยเครื่องบินฮือฮาไม่น้อย หลังสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สเพิ่งเปิดตัวเที่ยวบินที่บินนานที่สุดในโลก ที่จะอยู่ในอากาศเป็นระยะเวลานาน 19 ชั่วโมงโดยไม่แวะพัก

โดยการตัดสินใจของสิงคโปร์แอร์ไลน์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ปีที่ผ่านมา บริษัทแอร์บัสเพิ่งเปิดตัวเครื่องบินเจ็ตรุ่นใหม่อย่าง A350-900 อัลตร้า ลอง-เรนจ์ (ULR) และสิงคโปร์แอร์ไลน์สรายงานว่า เป็นสายการบินแรกที่ได้รับเครื่องบินรุ่นดังกล่าว และได้ทำการทดสอบในต้นเดือนนี้

ทั้งนี้ เที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปยังนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดเป็นระยะทาง 9,521 ไมล์ รวมระยะเวลานาน 19 ชั่วโมง และคาดว่าจะให้บริการได้ในปลายปีนี้

ภาพจาก www.airbus.com

ขณะที่จริงๆ แล้วเครื่องบินแอร์บัสรุ่นดังกล่าวสามารถบินได้ไกลถึง 11,150 ไมล์ ซึ่งมากกว่าแอร์บัส A350 รุ่นมาตรฐานประมาณ 1,800 ไมล์

ทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ระบุว่า สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สวางแผนที่จะให้บริการใน 2 ระดับ คือ ชั้นธุรกิจ และชั้นพรีเมี่ยมอีโคโนมี่ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีปรับแสงให้พอดี เพื่อลดอาการเจ็ตแล็ก รวมไปถึงยังมีระบบหมุนเวียนอากาศที่จะปล่อยอากาศใหม่ออกมาทุก 2 นาทีอีกด้วย

ส่วนปัจจุบันเที่ยวบินที่บินยาวที่สุดในโลกคือเที่ยวบินระหว่างโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ และเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส ซึ่งมีระยะทาง 9,032 ไมล์ ใช้เวลา 18 ชั่วโมง ตามด้วยเที่ยวบินระหว่างเพิร์ธ ออสเตรเลีย ไปยังมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยสายการบินควอนตัส ระยะทาง 9,009 ไมล์ และใช้เวลากว่า 17 ชั่วโมง

สำหรับสิงคโปร์แอร์ไลน์สนั้นสั่งเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมาทั้งหมด 7 ลำ ซึ่งนอกจากเที่ยวบินสิงคโปร์-นิวยอร์กแล้ว ยังจะนำมาใช้กับเที่ยวบินอันแสนยาวนานเที่ยวบินอื่นด้วย คือ เที่ยวบินสิงคโปร์-ลอสแองเจลิส ซึ่งใช้เวลา 15 ชั่วโมง และจะให้บริการในปี 2019


Content Team Matichon Academy
[email protected]
0-2954-3971 ต่อ 2111
ติดตามอ่านข่าวสารได้ที่ www.matichonacademy.com

ไม่พลาดข่าวสารอาหาร ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์ เกร็ดความรู้
คอร์สเรียนสนุกๆได้ประโยชน์-เสริมอาชีพ
คลิกติดตามเพจเฟซบุ๊ค MatichonAcademy

ถ้าหากคุณรักในการผจญภัย และชื่นชอบกิจกรรมที่ท้าทายความตื่นเต้น  อย่ารอช้า เพราะในเดือนเมษายนนี้ ประเทศสิงคโปร์อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมแอคชั่นสุดมันส์ที่จะมาเติมเต็มแพสชั่นด้านการท่องเที่ยว และกระตุ้นอะดรีนาลีนของชาว Action Seeker อย่างคุณให้สูบฉีด

  1. ชมการแข่งขันสุดมันส์ระหว่างทีมรักบี้ระดับโลกถึง 16 ทีม ณ งาน HSBC Singapore Rugby 7s

วันที่ 28-29 เมษายน 2561

HSBC Singapore Rugby Sevens งานมหกรรมรักบี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรับรองได้ว่างานนี้คุ้มค่าแก่การรอคอยที่สุดสำหรับแฟนๆ เพราะนอกจากจะได้ชมการแข่งขันรักบี้ที่ดุเดือดและรวดเร็วระหว่างทีมที่เก่งที่สุดในโลกจำนวน 16 ทีม ที่จะมาชิงชัยกันเพื่อความเป็นหนึ่ง ถึง 45 แมทช์แล้ว ผู้ร่วมงานยังสามารถชมการแสดงดนตรีสดชั้นนำ เอร็ดอร่อยไปกับอาหารรสชาติเยี่ยม พร้อมเล่นเกมส์ลุ้นของรางวัลใน FunZone ที่สนุกสนานและเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยได้อีกด้วย เรียกได้ว่างาน Singapore Sevens คือโลกแห่งความสุขสนุกสำหรับทั้งครอบครัวอย่างแท้จริง

  1. ร่วมวิ่งไปพร้อมกับจังหวะดนตรีที่จะกระตุ้นอะดรีนาลีนของคุณให้พลุ่งพล่าน ที่ The Music Run by AIA 2018

วันที่ 21 เมษายน 2561

งาน The Music Run by AIA เป็นงานวิ่งระดับนานาชาติแบบระยะ 5 ก.. และ 10 ก.. เพียงงานเดียวเท่านั้นที่เปิดโอกาสให้นักวิ่งได้ออกแรงไปพร้อมๆ กับฟังบีทจากดนตรีสุดมันส์ มาร่วมปล่อยให้เสียงดนตรีเติมเต็มความตื่นเต้นเร้าใจและความสนุกสนานให้ทะลุขีดจำกัด พร้อมฉลองกับงานปาร์ตี้ที่จุดเข้าเส้นชัยแบบสุดเหวี่ยงด้วยกัน ใครไม่อยากพลาดประสบการณ์การวิ่งแบบใหม่ ไม่ควรพลาดอีเว้นท์นี้เด็ดขาด

  1. คุณกล้าพอหรือไม่ที่จะมาโลดโผนบนเครื่องเล่นสวิงที่น่าหวาดเสียว?

ร่วมท้าทายความกลัวของคุณได้ที่ GX-5 Extreme Swing Singapore ณ Clarke Quay มาตื่นเต้นเร้าใจไปกับเครื่องเล่นสุดมันส์ เพราะคุณต้องคาดเข็มขัดติดกับที่นั่งในแคปซูลที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลอยสูงจากแม่น้ำสิงคโปร์ถึง 50 เมตร!

 

  1. กระตุ้นต่อมรับรสชาติและตามแพสชั่นด้านอาหารของคุณที่ World Gourmet Summit

ระหว่างวันที่  2-29 เมษายน 2561

ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเตรียมท้องให้ว่างและทำตัวให้พร้อมสำหรับงาน World Gourmet Summit งานเทศกาลอาหารประจำปีที่เน้นอาหารในแบบฉบับของภัตตาคารชั้นหรูและไวน์ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีเท่านั้น ซึ่งในปีนี้ งานเทศกาลจะถูกจัดขึ้นในธีม “The Discovery WGS” โดยมีเชฟชั้นนำระดับโลกมาปรุงและเสิร์ฟอาหารรสเลิศที่รับรองได้ว่าคุณอาจจะไม่เคยได้ลิ้มลองที่ไหนมาก่อน

  1. เติมเต็มประสบการณ์ด้านศิลปะพร้อมเสพย์งานศิลป์ที่ Singapore International Festival of Arts

ระหว่างวันที่ 26 เมษายน 12 พฤษภาคม 2018

งาน Singapore International Festival of Arts 2018 เป็นเทศกาลที่นำเสนอผลงานศิลปะอันโดดเด่นในรูปแบบต่างๆ ที่จะมาปลุกจินตนาการและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในตัวคุณ ซึ่งผลงานทั้งหมดมาจากศิลปินมากหน้าหลายตา ทั้งจากในประเทศสิงค์โปร์และระดับนานาชาติ เตรียมตัวเตรียมใจของคุณให้พร้อมกับการชมงานแสดงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงบนเวที การบรรเลงดนตรี โชว์เต้นรำ และวรรณกรรมต่างๆ รวมถึงผลงานทัศนศิลป์ โดยสถานที่ในการจัดงานมีมากกว่า 10 จุด รวมถึง Festival House ที่ The Art House

  1. ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจหรือเปล่า? เราขอท้าให้คุณลองเล่นรถไฟเหาะรางคู่ที่สูงที่สุดในโลก ที่ Universal Studios Singapore

รถไฟเหาะที่น่าหวาดเสียวนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซีรีย์สุดฮิตเรื่อง Battlestar Galactica คุณอาจจะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ในระหว่างที่รถไฟเหาะทั้งสองขบวนกำลังหมุน ตีลังกา และพุ่งทะยานบนฟ้าด้วยความเร็วสูง เราขอรับประกันว่าผู้เล่นทุกคนจะได้รับประสบการณ์สุดระทึกและตื่นเต้นกลับไปอย่างแน่นอน

 

  1. สุดสัปดาห์แห่งกิจกรรมแอคชั่นโลดโผนคงไม่สามารถจบลงได้ ถ้าหากคุณยังไม่ได้ไปลุ้นและทดสอบความกล้าที่หอคอยบันจี้ หรือ Bungy Tower บนชายหาด Siloso ที่เกาะเซ็นโตซ่า (AJ Hackett Sentosa)

กิจกรรมที่น่าหวาดเสียวนี้มีเลเวลให้คุณเลือกแตกต่างกันออกไป เหล่าผู้เสาะหาประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นสามารถเลือกได้ว่าจะกระโดดจาก Vertical Skywalk ที่ความสูง 42 เมตร หรือร่อนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว บนสวิงขนาดใหญ่ The Giant Swing สำหรับผู้กล้า เราขอท้าให้คุณลองไปกระโดดบันจี้ จัมพ์ที่ความสูง 47 เมตรดู!

  1. สร้างประสบการณ์อันสนุกสนานในฉบับ Trollific ได้กับ The TrollsTopia Show ที่ Universal Studios Singapore ในเดือนเมษายนนี้

ระหว่างวันที่ 9 มีนาคม ถึง 29 เมษายน 2018

เอาใจเด็กๆกันบ้าง กับกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว มาชมโชว์และร่วมกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโชว์ใหม่จาก Poppy กับ Branch โทรลล์ตัวโปรดขวัญใจของทุกคน กิจกรรมกับ Guy Diamond ที่เต็มไปด้วยกลิตเตอร์ระยิบระยับและจะมากระตุ้นความสดใสในตัวคุณหนูๆ และท่องโลกของเหล่าโทรลล์ด้วยเกมส์ VR เสมือนจริง

 

  1. หวังว่าคุณจะยังไม่เต็มอิ่มกับแอคชั่นมันส์ๆ เพราะอีกหนึ่งกิจกรรมสุดคูลที่อุโมงค์ลมจำลอง iFly หรือ Indoor skydiving ที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังรอคุณอยู่

เติมเต็มความฝันที่จะบินได้ของคุณที่อุโมงค์ลมจำลองสำหรับสกายไดฟ์ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความกว้าง16.5 ฟุต และความสูงถึง 56.5 ฟุต! ที่นี่ถือว่าเป็นอุโมงค์ลมแห่งเดียวที่สร้างขึ้นและล้อมรอบด้วยกำแพงกระจกอะครีลิกใส ซึ่งคุณสามารถชื่นชมวิวที่งดงามของ South China Sea และชายหาด Siloso ได้ขณะที่คุณกำลังบิน

  1. สนุกสนานและเพลิดเพลินกับครอบครัวของคุณ ที่ Adventure Cove Waterpark

ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามไปพร้อมๆ กันที่ Adventure Cove Waterpark โดยคุณสามารถสร้างช่วงเวลาดีๆ กับครอบครัวได้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเล่นเครื่องเล่นสวนน้ำอย่างสไลเดอร์ นอนตากลมชิลล์ๆ แถบริมน้ำ ดำสนอร์กเกิลชมปลาหลากชนิดจากเขตร้อนท่ามกลางปะการังสีสันสดใส หรือจะลุยน้ำและปะทะตัวต่อตัวกับปลาฉลาม!