อาหารไทยเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่นด้วยวัตถุดิบที่ใช้และรสชาติที่อร่อย และถูกจัดอันดับอยู่ในระดับต้นๆ ของอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ล่าสุดการันตีอีกหนึ่งสุดยอดรสชาติจากสำนักข่าวระดับโลกซีเอ็นเอ็น (CNN) ที่ได้ทำการสำรวจอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก โดยอาหารไทยติดอันดับที่ 8 จากอาหาร 10 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ 7 เมนูอาหารไทยยังติดอันดับ ใน 50 เมนูอาหารยอดนิยมทั่วโลก ได้แก่ ต้มยำกุ้ง (อันดับที่ 4) ผัดไทย (อันดับที่ 5) ส้มตำ (อันดับที่ 6) แกงมัสมั่น (อันดับที่ 10) แกงเขียวหวาน (อันดับที่ 19) ข้าวผัดของไทย (อันดับที่ 24) และหมูน้ำตก (อันดับที่ 36) ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์และครบเครื่องครบรส ที่ถูกใจนักชิมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกและคนท้องถิ่น

ราชประสงค์ ย้ำจุดเด่นของย่านที่เติมเต็มทุกธุรกิจและไลฟ์สไตล์ จนได้รับการขนานนามว่า “The Heart of Bangkok” โดยมี “ราชประสงค์ วอล์ก – R-Walk” โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 4 ทิศทาง ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบให้ผู้คนเดินได้ทั่วย่านอย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ และเชื่อมทุกประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ EAT-PRAY-STAY-SHOP เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ย่านราชประสงค์นับเป็นแหล่งรวมของอาหารรสเลิศ และเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ได้สัมผัสกับสุนทรียรสของอาหารในโรงแรมภายในย่านราชประสงค์ โรงแรมชั้นนำในย่านได้คัดสรรเมนูอาหารขึ้นชื่อ นำมารวบรวมเป็นเมนูแนะนำย่านราชประสงค์ TASTE OF RATCHAPRASONG โดยมี 8 เมนูซิกเนเจอร์อาหารไทยผสมผสานไอเดียการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ภายใต้คอนเซ็ปต์ THAI TASTE WITH A MODERN TOUCH

ฟินกับ 8 เมนู จาก 8 ห้องอาหารในโรงแรมสุดหรูใจกลางเมืองกรุง

บลู ออฟ เดอะ ซี (Blue of the Sea) – ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ

อาหารจานเด่นเมนูนี้ เชฟเฟย์ รุ่งทิวา ชุ่มมงคล หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 10 ปี ได้แรงบันดาลใจมาจากปูผัดผงกะหรี่ของไทย เพราะอาหารทะเลเป็นวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย เชฟจึงคัดสรรเนื้อปูม้าและหัวขึ้นฉ่ายฝรั่งจากโครงการหลวง ซึ่งเป็นผักที่นิยมเป็นอย่างสูงในแถบสแกนดิเนเวีย มาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำเมนูนี้ บลู ออฟ เดอะ ซี มีกลิ่นอายของทั้งอาหารไทยและอาหารนอร์ดิคในสไตล์โมเดิร์น เทคนิคการทำอาหารโดยการนำเนื้อปูมาใส่ในขึ้นฉ่ายฝรั่งที่ทำเป็นรูปทรงกระบอก แต่งหน้าด้วยครีมโฟมรสผงกะหรี่ และตกแต่งเพิ่มสีสันให้กับเมนูด้วยขึ้นฉ่ายฝรั่งหั่นฝอย ไข่ปลาเทราต์ และดอกเวอร์บีน่าสีม่วงอ่อน เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ทีได้รับประทาน เมนู บลู ออฟ เดอะ ซี จะให้รสชาติความหวานจากเนื้อปู ซึ่งเข้ากับครีมโฟมผงกะหรี่ได้อย่างดี แนะนำให้รับประทานคู่กับน้ำบีทรูทที่มีส่วนผสมของบีทรูท สับปะรด และมันแกว มีรสเปรี้ยวและช่วยเพิ่มความสดชื่น เพิ่มกลิ่นและรสชาติของปูให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม

พิกัด: ฟร้อนท์ รูม ชั้น Lower Lobby ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ถึง 22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-846-8888

ราคา: 380++ บาท

เซียร์ทูน่าต้มยำกับซอสมะขาม – ห้องอาหารบาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ

เซียร์ทูน่าต้มยำกับซอสมะขาม สร้างสรรค์โดยนำความเป็นไทยแบบดั้งเดิม ผสมผสานเข้าไปในเมนู ชูวัตถุดิบเด่นเอกลักษณ์ของไทยคือ ซอสมะขามและผงปรุงรสต้มยำสูตรพิเศษที่โรงแรมทำขึ้นเอง โดยมีส่วนผสมหลักคือ ใบมะกรูด ข่า ตะไคร้ และพริกชี้ฟ้า ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้มาจากโครงการหลวง นำทูน่าหมักด้วยผงปรุงรสต้มยำ ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารไทยแบบโมเดิร์นที่มีรสชาติจัดจ้านกำลังพอดี จัดแต่งจานด้วยเซียร์ทูน่าเรียงซ้อนบนขนมปังหน้ากุ้งโรยงา สันคอหมูทอด และราดด้วยซอสมะขามสูตรพิเศษของโรงแรม ห้องอาหาร บาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น อยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟสมพงษ์ วิสูงเร ผู้มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ในด้านอาหารไทยและอาหารยุโรป เชี่ยวชาญในการประยุกต์เมนูออกมาอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากการประกวดอาหารไทยโมเดิร์น และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

พิกัด: บาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น ชั้น 9 ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-209-1700 ต่อ 8705 

ราคา: 220++ บาท

สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับทาปาสไทย 10 คอร์ส ในรูปแบบโมเลคิวลาร์ พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลองแล้ว ที่ อาร์ บาร์ ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์

เชฟประเสริฐชัย ตรงวานิชนาม Chef De Cuisine ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ได้ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรังสรรค์ทาปาสไทยนานาชนิด ที่ถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบโมเลคิวลาร์ หรือวิธีการทำอาหารแบบใหม่ที่นำเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ประกอบการทำอาหาร ให้ผู้ทานลืมภาพอาหารไทยแบบเดิมๆ แล้วสนุกไปกับการลิ้มลองอาหารในรูปแบบใหม่ รวมทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และนำเอาสมุนไพรไทย เช่น พริกขี้หนู มะขาม ตะไคร้ และมะกรูด มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักเพื่อรักษารสชาติอาหารไทยแบบดั้งเดิมหากแต่มีวิธีนำเสนอที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น เมนูไฮไลท์คือ มัสมั่นเนื้อวัวที่ใช้เนื้อวัวจากนำเข้าจากออสเตรเลีย ที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีแบบธรรมชาติ และใช้วิธี โมเลคิวลาร์ ในการเปลี่ยนน้ำแกงมัสมั่นเป็นซอสครีมเข้มข้น ที่ยังคงรสชาติและกลิ่นแกงมัสมั่นดั้งเดิมไว้เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีทำให้สุกภายใต้สูญญากาศ ถึง 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อ รวมถึงการตกแต่งที่ถูกถ่ายทอดจากจินตนาการที่สร้างความตื่นเต้น น่าค้นหา และทันสมัยในทุกๆจาน นอกจากนี้ทางอาร์ บาร์ ยังได้เตรียมมอบความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษ เพื่อต้อนรับทุกท่านที่มาเยือน ก่อนที่จะสนุกไปกับการรับประทานอาหารมื้อนี้อีกด้วย

พิกัด: อาร์ บาร์ ชั้นล็อบบี้ ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา
07.00 น. ถึง 01.00 น. (สำหรับโปรโมชั่นดังกล่าวเสิร์ฟทุกวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 21.00 น. พร้อมค็อกเทลต้อนรับ เวลา 18.30 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-125-5105 

ราคา: 1,000++ บาท ต่อท่านรวมเครื่องดื่มต้อนรับ (ราคาพิเศษ 20 ตุลาคม-1 ธันวาคม 2561)

ยำดอกขจร บัวหลวง – ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม โดย โรงแรม แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
ณ ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก

เอกลักษณ์ของเมนู ยำดอกขจร บัวหลวง คือการนำเอากลีบของดอกบัวหลวงสายพันธุ์ บัวแดง ฉัตรชมพู หรือสัตตบงกช ที่มีรสชาติขมเล็กน้อย มาผสานเข้ากับดอกขจร ที่มีรสชาติหวานหน่อยๆ บวกกับเครื่องเคียงที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมะพร้าวคั่วกรอบ ถั่วลิสงคั่วบด และเม็ดบัวต้ม รับประทานพร้อมกับน้ำยำ ที่ได้นำ
กะทิพริกเผามาปรุงกับน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊ป และเกลือ เคี่ยวให้เกิดรสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน เผ็ดปลายลิ้น จัดวางดอกขจรในกลีบดอกบัวอย่างพอดีคำทำให้ทานง่าย ยิ่งไปกว่านั้นสีเขียวของวัตถุดิบยังตัดกับสีชมพูของกลีบดอกบัว ทำให้เมนูนี้สวยสะดุดตา แนะนำทานคู่กับชามะตูม ใบเตยที่มีรสชาติหอมหวานซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม โดยมี เชฟทรงพล กิตติคุณวัจนะ คอยดูแลในส่วนของอาหาร ผู้ที่อยู่ในแวดวงการอาหารมานานหลายปี และจบหลักสูตรการทำอาหารจากโรงเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

พิกัด: เอราวัณ ที รูม โดย โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-254-6250 

ราคา: 290++ บาท

กุ้งคั่วพริกเกลือ – ห้องอาหารสไปซ์มาร์เก็ต ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

กุ้งคั่วพริกเกลือ เป็นซิกเนเจอร์เมนูของร้านที่ไม่ควรพลาด โดยเชฟเลือกใช้กุ้งลายเสือตัวใหญ่เนื้อสดแน่น ซึ่งเข้ากันดีกับสมุนไพรไทยอย่างพริก ข่า และตะไคร้ ที่นำมาโขลกและผัดให้เกิดกลิ่นหอม จากนั้นโรยด้วยหอมแดงและกระเทียมทอดกรอบ โดยเหตุผลที่เลือกใช้สมุนไพรไทยเพราะมีความโดดเด่นในเรื่องกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ไทย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เมนูนี้ถูกตกแต่งในรูปแบบใหม่และทันสมัยเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ห้องอาหารสไปซ์มาร์เก็ตอยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล ที่สำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจสาขาการจัดการครัวและภัตตาคาร จากวิทยาลัยดุสิตธานี และเคยได้ร่วมงานกับโรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาวมากมายอีกด้วย

พิกัด: สไปซ์มาร์เก็ต ชั้น ล็อบบี้ ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ช่วงกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  โทร. 02-126-8866 

ราคา: 1,520++ บาท

ต้มยำกุ้งมังกร – ห้องอาหารวูว์ ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ

เชฟลักษณ์ ปรีเปรม หนุ่มวิศวกรที่มีใจรักในการปรุงอาหาร ได้นำเอาเมนูที่เป็นเอกลักษณ์และยอดนิยมของไทยอย่างต้มยำกุ้งมาต่อยอด เพิ่มความพรีเมียมโดยใช้กุ้งมังกรตัวใหญ่เนื้อแน่น เด้ง สด หวาน จากจังหวัดภูเก็ตมาเป็นวัตถุดิบหลัก กุ้งมังกรจากภูเก็ตมีความโดดเด่นตรงที่มีเปลือกบางซึ่งทำให้มีเนื้อเยอะ เมื่อปรุงน้ำซุปต้มยำกับเนื้อกุ้งมังกรเข้าด้วยกัน เติมความเปรี้ยวด้วยใบมะขามและน้ำมะนาวสด ทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อมและเผ็ดกำลังดี อีกทั้งใบมะขามยังมอบสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ที่ได้รับประทานอีกด้วย ต้มยำกุ้งมังกร ถูกจัดเสิร์ฟอย่างสวยงามในลูกมะพร้าวอ่อน ซึ่งเพิ่มความหอมอร่อยน่าทาน และตกแต่งจานอย่างสวยงามด้วยเปลือกกุ้งมังกร และเมนูนี้ยังปรุงให้ชมสดๆ ข้างโต๊ะอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษที่สุดให้แก่ผู้ทาน

พิกัด: วูว์ ชั้น 12 ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 24.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-207-7819 

ราคา: 2,500++ บาท

ปลากะพงซอสมะขาม – ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

ปลากะพงซอสมะขาม เป็นเมนูเด่นของห้องอาหารเอสเพรสโซ่ เน้นการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรไทย เช่น มะขามเปียก มะนาว หอมแดง พริกแห้ง และผักชี พร้อมเครื่องปรุงรสอย่างน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ มาทำเป็นน้ำซอสราดบนเนื้อปลากะพงชุบแป้งทอดทอดกรอบ ทำให้ได้รสหวานของเนื้อปลากะพง ไปพร้อมกับรสชาติเปรี้ยวหวานจัดจ้านของซอสมะขาม ทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อมครบรส ห้องอาหารเอสเพรสโซ่เสิร์ฟอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีอาหารหลากหลาย นอกจากปลากะพงซอสมะขาม ยังมีต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน ยำสามกรอบ และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บแบบไทย เพิ่มรสชาติให้กับอาหารทะเลสดใหม่ อาทิ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งล๊อบสเตอร์ หอยนางรมฟิน เดอร์ แคลร์ และปูอลาสก้า ฯลฯ ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ อยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟโรลันโด มาเนสโก ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานครัวและงานบริการในห้องอาหารมานานหลายปี ทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป

พิกัด: ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ชั้น M ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-656-0444 ต่อ 6430 

ราคา: อาหารกลางวัน 899++ บาท และอาหารเย็น 1,400++ บาท (วันจันทร์ถึงเสาร์) และ บรันช์วันอาทิตย์ 2,200++ บาท

อกเป็ดเซียร์เสิร์ฟพร้อมตับห่าน – ห้องอาหารอูโน มาส ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอก
คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

อกเป็ดเซียร์เสิร์ฟพร้อมตับห่าน เป็นเมนูที่ได้นำวัตถุดิบที่ผลิตในท้องถิ่นของไทยผสมผสานกับรูปแบบของอาหารสเปน โดยเชฟซานโดร อากีเลรา ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากว่า 22 ปี และเคยร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำระดับระดับมิชลิน สตาร์ ในประเทศฝรั่งเศสและสเปน เลือกใช้อกเป็ดจากโครงการหลวงที่มีคุณภาพดีเลิศเทียบเท่าระดับโลก ด้วยเนื้อที่แน่น หนังกรอบ และรสชาติที่อร่อย ทานคู่กับตับห่านเซียร์ ซึ่งทำให้เมนูนี้มีความหอม มัน มีรสชาติกลมกล่อมและลงตัว ราดด้วยซอสซึ่งทำจากน้ำสต็อกโครงเป็ดที่ใช้เวลาเคี่ยวนานหลายชั่วโมง รวมถึงวัตถุดิบและเครื่องปรุงอื่นๆ จากสเปนที่เชฟนำมาผสมผสานเป็นสูตรเฉพาะของห้องอาหาร อูโน มาส อีกทั้งเมื่อทานคู่กับซอสมัสตาดที่ตกแต่งข้างจานจะช่วยชูรสชาติให้ดียิ่งขึ้น การจัดจานของเมนูนี้ถูกจัดในแบบสเปนสไตล์ อูโน มาส ทำให้ดูมีความเรียบง่าย ทันสมัย และแปลกตายิ่งขึ้น

พิกัด: ห้องอาหารอูโน มาส ชั้น 54 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-100-6255 ต่อ 5400

ราคา: 550++ บาท

ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเชฟที่มากฝีมือ ผสานกับความพิถีพิถันในการปรุงแต่งอาหารเลิศรสจากวัตถุดิบพรีเมียม ที่มาพร้อมกับไอเดียการตกแต่งในรูปแบบโมเดิร์น แปลกใหม่ น่าตื่นเต้น และน่าค้นหา ทำให้เกิดอัศจรรย์แห่งรสชาติอาหารไทยในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร สร้างเสน่ห์และยกระดับให้ทุกเมนูเป็นซิกเนเจอร์ที่ครองใจคนทั่วโลก ร่วมสัมผัสกับสุนทรียรสของ TASTE OF RATCHAPRASONG อาหารไทยที่ผสมผสานการตกแต่งสุดครีเอทีฟสไตล์โมเดิร์น ภายใต้แนวคิด THAI TASTE WITH A MODERN TOUCH ที่ย่านราชประสงค์ แนะนำให้มาลิ้มลองได้แล้ววันนี้

เปิดตำนานเส้นทางแห่งความอร่อย ปักหมุดร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด ณ ย่านราชประสงค์ ตอกย้ำความเป็น “แบงคอก ดาวน์ทาวน์ (Bangkok Downtown)” และฮับของอาหารและการท่องเที่ยวใจกลางเมืองกรุง รวมทุกไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เอาใจนักท่องเที่ยวสายกิน โดยได้รวบรวมอาหารจานเดียวประเภทเส้นที่เป็นเมนูสุดฮิตติดชาร์ตอันดับต้นๆ ของคนไทยและชาวต่างชาติ ด้วยรสชาติกลมกล่อมนุ่มละมุนลิ้น ปรุงแต่งให้เป็นเมนูตามสไตล์และวัฒนธรรมของแต่ละชาติ ซึ่งล้วนต่างมีเอกลักษณ์ความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร มีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรร ทานง่าย สะดวกพร้อมเสิร์ฟ ราคาเป็นมิตร และอิ่มอร่อยได้ตลอดทั้งวัน

ย่านราชประสงค์ตอบโจทย์และรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวสายกินที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ แต่ยังคงกลิ่นอายของความดั้งเดิม มีร้านอาหารเก่าแก่ที่เสิร์ฟเมนูประเภทเส้นหลากหลายสัญชาติที่ได้สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงยุคปัจจุบัน นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินถึงกันอย่างสะดวก ง่ายดาย และรวดเร็ว ด้วย “ราชประสงค์วอล์ก – Ratchaprasong Walk” เดินตะลุยชิม 10 เมนูอาหารประเภทเส้นจากร้านเจ้าเด็ดในย่านราชประสงค์ที่เมื่อเห็นแล้วต้องมาเช็คอินชิมความอร่อยทันที

อร่อยปักหมุด 10 เมนูอาหารเส้นใจกลางเมือง ณ ย่านราชประสงค์

บะหมี่เกี๊ยวกุ้งหมูแดงก้ามปู ร้านสว่าง (หัวลำโพง) ประตูน้ำ – สำหรับคนที่ชอบทานอาหารจานเดียวแบบรวดเร็ว แนะนำให้ลอง บะหมี่เกี๊ยวกุ้งหมูแดงก้ามปู ที่ร้าน สว่าง (หัวลำโพง) ประตูน้ำ เส้นบะหมี่ของทางร้านทำเองสดใหม่ทุกวันโดยใช้ไข่เป็ด มีความเหนียวนุ่ม และเส้นเล็กทำให้ลื่นคอ เกี๊ยวที่ลวกอย่างพอดี สอดไส้กุ้งตัวใหญ่เต็มคำ อีกทั้งหมูแดงหมักด้วยน้ำตาลมะพร้าวและไม่ใส่สีผสมอาหาร สูตรเฉพาะของทางร้านย่างเสิร์ฟสดใหม่ทุกวัน ใช้ปูทะเลก้ามโตสดจากเยาวราช เนื้อแน่นอร่อยน่าทาน น้ำซุปถูกเคี่ยวตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยกระดูกหมูและหัวไชเท้า ทำให้กลมกล่อม มีรสชาติอร่อยสไตล์จีน และมีกลิ่นของเครื่องเทศกับพริกไทย ส่วนใหญ่ช่วงเช้าพนักงานออฟฟิศชาวไทยนิยมมาทานที่ร้านสว่าง ส่วนช่วงเย็นและดึกจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทานหลังเพลิดเพลินจากการเดินตะลุยช้อปปิ้งตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรป

ราคา: 150-300 บาท

พิกัด: ระหว่างซอยเพชรบุรี 30 และ 32 (ตรงข้ามศูนย์การค้าเดอะพาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ถึง 23.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-056-0663

 

ขาห่านอบบะหมี่หม้อดิน ร้านอายัท อบาโลน เรสตัวรองท์ (Ah Yat Abalone Restaurant) โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ – หากอยากทานอาหารจีนกวางตุ้งขนานแท้ สามารถแวะมาที่ อายัท อบาโลน เรสตัวรองท์ และชิมเมนู ขาห่านอบบะหมี่หม้อดิน ซึ่งนำเอาเนื้อขาห่านชิ้นโตไปตุ๋นในน้ำสต๊อกหลายวันเพื่อให้น้ำสต๊อกและเครื่องเทศซึมเข้าไปในเนื้อ ทำให้ขาห่านมีความเหนียวนุ่มละลายในปาก จากนั้นนำมาอบกับบะหมี่และเห็ดหอมชั้นดี มีรสชาติหวานหอมตัดเค็มกลมกล่อม ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบ และนำเข้าอาหารทะเลสดใหม่จากประเทศสิงคโปร์

ราคา: 980++ บาท

พิกัด: โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ ชั้น 2 เปิดบริการทุกวัน ช่วงกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 15.00 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-255-0356

 

ก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านแม่ศรีเรือน เซ็นทรัลเวิลด์ – ร้านก๋วยเตี๋ยวไทยแบบดั้งเดิมที่คนนิยมมาทาน โดยเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือ ก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน ชื่อดัง สำหรับเมนูนี้ ทางร้านจะนำโครงไก่ กระดูกหมู และหัวไชเท้ามาเคี่ยวติดต่อกันหลายชั่วโมง เส้นมีความเหนียวหนึบ ลวกอย่างพอดี เนื้อไก่ต้มสุกนุ่มอร่อยกำลังพอดี มีรสชาติเข้มข้นแบบที่ไม่ต้องปรุงก็อร่อย ใครมาทานก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน เมนูนี้มีให้เลือกหลากหลายแบบ
ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และสะอาด ไม่ว่าจะเป็นมะนาวแท้ ถั่วงอกปลูกเอง พริกแห้ง และถั่วคั่วเอง ร้านแม่ศรีเรือนเป็นร้านเก่าแก่ที่มีมายาวนานและอยู่เคียงคู่กับคนไทยกว่า 57 ปี โดยทุกเมนูยังคงใช้สูตรต้นตำรับของคุณยายศรีเรือน คำลักษณ์ จนถึงปัจจุบันนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนทานอาหารรสฝีมือคุณแม่หรือคุณยายแท้ๆ

ราคา: 50++ บาท

พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-646-1821

 

ข้าวซอยน่องเป็ดกรอบ ร้านอาหารโพรวองซ์ (Provence Restaurant) เกษรวิลเลจ – หากเดินแถวย่านราชประสงค์ในใจกลางเมือง ต้องแวะมาชิม ข้าวซอยน่องเป็ดกรอบ ของ ร้านอาหารโพรวองซ์เมนูนี้มีความพิเศษตรงที่คงความเป็นไทยด้วยน้ำแกงข้าวซอยที่มีความเข้มข้นเหมือนได้ไปทานที่ภาคเหนือจริงๆ มีความจัดจ้านแต่ไม่มากจนเกินไป และเพิ่มความเป็นฝรั่งเศสเข้าไปด้วยการใส่เนื้อเป็ดกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเข้ากันกับเส้นข้าวซอยและน้ำแกงได้อย่างดีเยี่ยมแบบไม่เหมือนใคร ถูกปากทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างแน่นอน ร้านอาหารโพรวองซ์อยู่เคียงคู่กับเกษรวิลเลจมานานหลายปี ถูกตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศส มีกลิ่นอายของเมืองโพรวองซ์ท่ามกลางสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและดอกไม้หลากหลายสี

ราคา: 420++ บาท

พิกัด: เกษรวิลเลจ ชั้น L เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึง 20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-656-1438

 

นาเบยากิอุด้ง (Nabeyaki Udon) หรืออุด้งหม้อไฟรวม ร้านอุตาอันดง (Utaandon) อิเซตัน ณ เซ็นทรัลเวิลด์ – สำหรับผู้ชื่นชอบทานอุด้งหรือโซบะเป็นชีวิตจิตใจ สามารถมาลองชิม นาเบยากิอุด้ง หรือ
อุด้งหม้อไฟรวม ของร้านญี่ปุ่นขนานแท้ อุตาอันดง ความโดดเด่นของร้านนี้คือน้ำซุปที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพปรุงสดใหม่ทุกเช้าและถูกเคี่ยวถึง 5 ชั่วโมงจากเนื้อปลาโอแห้งที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและสาหร่ายคอมบุ ทำให้น้ำซุปหอมกรุ่นอร่อยถูกใจ ทานแล้วลื่นคอ อีกทั้งร้านยังทำเส้นอุด้งกับโซบะขึ้นมาเองอีกด้วย เส้นเหนียวนุ่มมีประวัติยาวนานและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งคนไทยแลชาวต่างชาติ

ราคา: 280++ บาท

พิกัด: อิเซตัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-255-9800

 

ผัดไทโบราณหน้ากุ้งสด ร้านผัดไทแม่ใหญ่ต้นตำรับสิงห์บุรี ศูนย์อาหาร “เดอะคุ้ก” ณ ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า – หากอยากรับประทานอาหารประจำชาติของประเทศไทยอย่างผัดไท แนะนำให้มาลองผัดไทโบราณหน้ากุ้งสด ที่ร้าน ผัดไทแม่ใหญ่ต้นตำรับสิงห์บุรี เคล็ดลับความอร่อยของผัดไทของร้านนี้คือ การนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาผัดกับเครื่องผัดไท เส้นนุ่มเหนียวหนึบ ใช้ซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน มีรสชาติเปรี้ยวหวานจากมะขามเปียก ไม่ใส่ผงชูรส และใช้น้ำมันรำข้าวเพื่อสุขภาพ อร่อยได้โดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม มีผักสดและมะนาวไว้ให้ตักเอง

ราคา: 70 บาท

พิกัด: ศูนย์อาหาร “เดอะคุ้ก” ณ ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ชั้น 4 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 094-646-2442

 

ชาชู อิตโต สึเคเมน (Chashu Itto Tsukemen) ร้านเมนยะอิตโต (Menya Itto) ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก – ร้านอาหารชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เมนยะ อิตโต ได้เปิดตัวสาขาแรกในประเทศไทยที่ ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก เมนูเด็ดโดนใจคือ ชาชู อิตโต สึเคเมน ด้วยวัตถุดิบพรีเมียม ทำเส้นสึเคเมนเองโดยใช้แป้งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ผสมกับจมูกข้าวสาลี มีความเหนียวนุ่ม เข้ากับน้ำซุปได้อย่างลงตัว นำเอาไก่ ปลาทะเล กุ้งซากุระเอบิ และหอยเชลล์มาเคี่ยวติดต่อกันถึง 18 ชั่วโมง น้ำซุปจึงมีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมหอมหวานลื่นคอ นอกเหนือจากนั้นในเมนูนี้ยังมีเนื้อไก่ หมูชาบู หมูสามชั้น และแผ่นสาหร่ายอีกด้วย เมนูสึเคเมนจะเสิร์ฟเส้นหนาแบบเย็น แยกน้ำซุปเข้มข้น เวลาทานให้นำเส้นและท็อปปิ้งไปจุ่มในน้ำซุปแล้วก็ทาน หลังทานราเมงเสร็จเติมน้ำซุปวาดาชิ (Wadashi) ลงไปเพื่อปรับความเข้มข้นของน้ำซุปแล้วซดจนหมดเพื่อเป็นการปิดมื้อการทาน

ราคา: 270++ บาท

พิกัด: ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก ชั้น LG เปิดบริการวันจันทร์ถึงศุกร์ ช่วงกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 15.30 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 21.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-250-7669

 

ชินดังดงต๊อกปกกิพรีเมี่ยม ร้านทูดาริ (Tudari) เซ็นทรัลเวิลด์ – หากชื่นชอบทานหม้อไฟสไตล์เกาหลี แนะนำให้ลอง ชินดังดงต๊อกปกกิพรีเมี่ยม ที่ร้านอาหารเกาหลี ทูดาริ ใช้สูตรต้นตำรับสไตล์เกาหลีแท้ สามารถเลือกท็อปปิ้งตามใจชอบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมูหรือหมูสามชั้น ปูอัด กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ปลา เกี๊ยวทอด ต๊อกปกกิ ไข่ วุ้นเส้นเกาหลี เส้นชินราเมน หรือบะหมี่เกาหลี โดยวัตถุดิบที่ใช้มีคุณภาพสูงและส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี น้ำซุปมีรสชาติหวาน เส้นจะถูกโปะด้วยซอสเผ็ดสูตรพิเศษของทางร้านและโรยด้วยพริกสด มีรสชาติที่เข้มข้นครบทุกรส อีกทั้งยังมีเมนู ชินดังดงต๊อกปกกิ ซีฟู้ด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลอีกด้วย ร้านถูกตกแต่งด้วยลวดลายไม้ มีกลิ่นอายของอารยธรรมแดนกิมจิโดยมัณฑนากรชาวเกาหลี

ราคา: 450++ บาท

พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-252-6696

 

ขนมจีนน้ำยาปู ปูนิ่มกรอบ ร้านกับข้าวกับปลา เกษรทาวเวอร์ – มีเมนูอาหารไทยแบบฟิวชั่นทันสมัยที่คงความอร่อยและรสจัดจ้านของอาหารชาติไทย หากอยากทานอาหารประเภทเส้นแนะนำให้ชิม ขนมจีนน้ำยาปู ปูนิ่มกรอบ มีรสชาติเผ็ดเหมือนส่งตรงจากภาคใต้ เส้นขนมจีนเหนียวนุ่ม เมื่อทานคู่กับน้ำยาปูปักษ์ใต้รสจัดจ้านด้วยสูตรเฉพาะจากทางใต้แบบดั้งเดิม เมนูนี้จึงลงตัวได้อย่างพอดี มีรสชาติที่อร่อยและกลมกล่อม ปูนิ่มทอดกรอบและผักสดเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนี้ได้อย่างดี วัตถุดิบทุกอย่างถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีเลิศและมีคุณภาพ โดยทั้งรสชาติของอาหารบวกกับบรรยากาศสบายๆ ร้านกับข้าวกับปลามอบความรู้สึกเหมือนทานอาหารที่บ้านด้วยฝีมือรสดีของแม่ นักท่องเที่ยวจีนนิยมมาทานร้านนี้หลังเพลิดเพลินจากการตะลุยเดินทั่วย่านราชประสงค์อีกด้วย

ราคา: 490++ บาท

พิกัด: เกษรทาวเวอร์ ชั้น 3 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-075-2661

 

เทคเกรเตเล่ คอน อะรากอสตา (Tagliatelle con Aragosta) ร้านอาหารอิตาเลี่ยน ทีโอ มีโอ (Theo Mio: Italian Kitchen by Theo Randall) โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ – สำหรับนักชิมที่หลงใหลอาหารอิตาเลียนขนานแท้ แนะนำให้แวะมาชิม เทคเกรเตเล่ คอน อะรากอสต้า ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน ทีโอ มีโอ สุดหรู เมนู เทคเกรเตเล่ คอน อะรากอสต้า ใช้เส้นพาสต้าโฮมเมด
แบบ “Audente style” ผัดด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษของเซเลบริตี้เชฟชาวอังกฤษ ทีโอ แรนดัลล์ รสชาติเปรี้ยวนำ พร้อมกับเพิ่มความอร่อยด้วยความหวานของเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ชิ้นใหญ่และไส้กรอกชอริสโซ ทำให้ตัดกันได้ดีอย่างลงตัว เมนูนี้จึงมีรสชาติกลมกล่อมและเข้มข้น อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศด้วยใบโหระพาอิตาเลียนอีกด้วย เมนูทั้งหมดของร้านอาหาร ทีโอ มีโอ ใช้เส้นโฮมเมดทำสดใหม่ทุกวันและเน้นวัตถุดิบสดใหม่

ราคา: 725++ บาท

พิกัด: โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ชั้น G เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 23.30 น. (บรันช์มื้อสายพร้อมฟรีโฟล์วในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.00 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-656-0444 ต่อ 6273

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร้านอาหารประเภทเส้นที่ให้มากกว่าความอร่อยจนต้องสั่งเบิ้ล ย่านราชประสงค์เป็นศูนย์กลางที่รวมร้านอาหารชวนลิ้มลองหลากหลายเชื้อชาติกว่า 400 แห่ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันไป สามารถสรรหาหรือเลือกรับประทานได้ตามใจสั่งโดยไม่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดในเมืองกรุงให้เสียเวลาและเสียอารมณ์อีกต่อไป นักท่องเที่ยวสามารถเดิมเชื่อมต่อกันได้อย่างง่ายดายทั่วย่านบน ราชประสงค์ วอล์ก เรียกได้ว่าสมกับที่เลื่องชื่อเป็นย่านแห่ง “โมเดลดาวน์ทาวน์”

ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุค “เมกะเทค” นี้ โลกได้ถูกขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะกลุ่มคนเก่ง (Talented People) ที่เป็นด่านหน้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความคิดใหม่ๆ ในการพัฒนาประเทศ แน่นอนว่ากลุ่มคนเก่งเหล่านี้ มักจะอยู่รวมกันเป็นสังคม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์ประสบการณ์ในหลากหลายมิติ หากจะพูดถึงย่านคนเก่งแล้ว คงจะหนีไม่พ้น ซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) ที่อยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโกในสหรัฐอเมริกา อันเป็นย่านสุดเนิร์ด แหล่งรวมคนมากความสามารถ หรือหากเป็นเอเชีย ที่กำลังมาแรงคือ “เซินเจิ้น” แหล่งรวมคนทาเล้นท์ จนมีสมญานามว่า “ซิลิคอน วัลเลย์แห่งเอเชีย” หรือ “บังคาลอร์” เมืองใหญ่ในประเทศอินเดีย ที่กำลังเป็นแหล่งรวมชุมชนคนเก่ง สำหรับประเทศไทย ราชประสงค์ ย่านที่ได้รับการขนานนามว่า “The Heart of Bangkok” และใช้โมเดล Smart District แห่งแรกของเมืองไทย โดยผสานเทคโนโลยีเข้ากับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทไลฟ์สไตล์ (Smart Lifestyle) ร่วมกันในที่แห่งเดียว จึงกลายเป็นย่านแห่งไลฟ์สไตล์และธุรกิจต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งรวมคนรุ่นใหม่ที่มากความสามารถ โดยเหตุผลหลักที่ผลักดันย่านราชประสงค์ให้กลายเป็น ศูนย์รวมสังคมคนทาเล้นท์ ที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีสมาร์ทออฟฟิศรวมตัวกันเป็นโซไซตี้ รวมถึงเป็นย่านที่มีการดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และล่าสุดย่านราชประสงค์ได้เปิด “ราชประสงค์ วอล์ก –  R-Walk” โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 4 ทิศทาง อำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ให้สามารถเดินได้ทั่วย่านอย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ เชื่อมทุกประสบการณ์และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะการอยู่อาศัย ทำงาน เรียน หรือบันเทิง ราชประสงค์จึงกลายเป็นย่านที่รวมตัวของสังคมคนเก่ง (Talented People) เป็นที่ตั้งยุทธศาสตร์ขององค์กรมากมายถึง 500 บริษัท ต่างเป็นองค์กรที่โดดเด่นของแต่ละธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการเงิน อาทิ หยวนต้า (Yuanta) ธนาคารเกียรตินาคิน เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (MayBank Kim Eng) ธุรกิจเทคโนโลยี อาทิ ไลน์ (Line) เฟซบุ๊ค (Facebook) ธุรกิจการตลาด อาทิ แมคฟิว่า (McFiva) ฯลฯ จนทำให้ย่านกลายเป็นแลนด์มาร์คของสังคมคนเก่งไปโดยปริยาย

ซึ่งแน่นอนว่า ที่ไหนมีคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่นั่นจะต้องมีโคเวิร์คกิ้งสเปซ และ ร้านกาแฟสุดโมเดิร์น เป็นของคู่ใจ สำหรับนักคิด และเหล่านักสร้างสรรค์แล้ว “ไอเดียดี อารมณ์ดี มาจากกาแฟดีๆ สักแก้ว ในสถานที่ที่ใช่” บรรยากาศที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ การช่างสังเกตและแลกเปลี่ยนความคิดกับคนเก่งๆ นำมาซึ่งความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น โคเวิร์คกิ้งสเปซ และ ร้านกาแฟสุดโมเดิร์นจำนวนมาก จึงเกิดขึ้นภายในย่านราชประสงค์เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพ (Productivity) และการสร้างสรรค์ (Creativity) ในการทำงานของบุคคลกลุ่มนี้ และการทำงานร่วมกัน (Collaboration) อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานกลุ่มคนเก่งในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัท นักศึกษา ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจดาวเด่น (Talented Entrepreneurs) ที่ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา (Mobile Working)

ปักหมุด 9 ที่สุด โคเวิร์คกิ้งสเปซ และ ร้านกาแฟสุดโมเดิร์น ใจกลางเมือง

เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท (Gaysorn Urban Resort) แลนด์มาร์ค CO-SHARING SPACE แห่งใหม่ใจกลางเมือง ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “Work-Live-Play-Grow” ด้วยการออกแบบพื้นที่และตกแต่งในสไตล์รีสอร์ทที่ผสมผสานระหว่าง “ธรรมชาติ” และ “เมือง” เข้าด้วยกัน ให้บรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลาย และสบายตา ทำให้สมองปลอดโปร่ง ก่อให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์และความคิดนอกกรอบมากมายได้อย่างอิสระ เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท ถูกออกมาเพื่อรองรับกิจกรรมประเภทต่างๆ และให้คุณสามารถเลือกใช้พื้นที่ได้อย่างอิสระ พร้อมด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส (World Class Facilities) ที่ครบครัน มีโซน Working Space Sharing ที่มอบอิสระให้นักธุรกิจได้คิดงานแบบสร้างสรรค์ หรือพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน ไปจนถึง Private Office อย่าง Cocoon Office และยังมีมุมทำงานคนเดียวไร้เสียงรบกวนด้วย Hot Desk Area อีกทั้งยังมีโซน Event Space รองรับการจัดประชุม สัมมนา งานแถลงข่าว และงานเลี้ยงในรูปแบบต่างๆที่หลากหลาย รองรับการจัดงานได้ถึง 200 ที่นั่ง

ราคา: ไม่มีค่าบริการสำหรับพื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซ/แพ็คเกจสำหรับห้องประชุม ราคาเริ่มต้นชั่วโมงละ 1,000++ บาท
พิกัด: เกษรทาวเวอร์ ชั้น 19 เปิดบริการวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-253-3999, 
www.gaysornurbanresort.com FB: @GaysornUrbanResort IG: @GaysornUrbanResort

 

เวิร์ค (WERK) เป็น Lifestyle Space แห่งแรกที่ตั้งอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีใจกลางเมือง อย่างราชดําริ เป็นการผสมผสานแบบลงตัวที่ไม่เหมือนใครระหว่างสถานที่ที่เดินทางสะดวก พื้นที่ Physical Store สำหรับแบรนด์ และพื้นที่การทำงานอเนกประสงค์ เวิร์คตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วิถีชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน หรือวัยทํางาน ในย่านราชประสงค์ และรองรับคนที่กําลังหาสถานที่ทํางาน อ่านหนังสือ ด้วยบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เงียบสงบ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายบนสถานี BTS ด้วยการตกแต่งที่ทันสมัย พร้อมเก้าอี้ที่รองรับคนที่นั่งทำงานเป็นเวลานานๆ เป็นสถานที่ทำงานที่สร้างแรงบันดาลใจและความสร้างสรรค์ มีโซน WERK Brand Space ที่สามารถใช้เป็นสถานที่ทำงาน จัดโชว์รูม หรือจัดกิจกรรม WERK Co Space ที่เป็นพื้นที่ทำงานร่วมกัน เหมาะสำหรับฟรีแลนส์หรือนักศึกษาทั่วไป และ WERK Meet Space ห้องประชุมที่สามารถรองรับได้ 6-8 คน พร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อมัลติมีเดียต่างๆ อีกทั้งยังครบครันด้วยเครื่องเขียนที่มีให้ยืมใช้ มีบริการอินเตอร์เน็ต ปริ้นท์ และสแกน พร้อมเครื่องดื่มชาและกาแฟ

สอบถามราคาได้ที่ โทร. 083-545-4311, โคเวิร์คกิ้งสเปซ ราคาเริ่มต้น 300 บาทต่อวัน, และห้องประชุม ราคาเริ่มต้น 400 บาทต่อชั่วโมง

พิกัด: สถานีรถไฟฟ้า BTS ราชดำริ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 23.00 น.

 

Research & Innovation for Sustainability Centre หรือ RISC (ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน) เป็นศูนย์วิจัยและการทดสอบแห่งแรกของอาเซียนที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อมและการเป็นอยู่ของมนุษย์ ครบครันด้วยห้องแล็ปและศูนย์ทดสอบมากมายที่ติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยไว้เพื่อรองรับกิจกรรมวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่แบบครบวงจรอย่างมีประสิทธิภาพ โดย RISC เป็นที่แรกของประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีการกำบังเสียงเพื่อให้เกิดความสงบ และค้นหาโซลูชั่นและนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่และนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เช่น ในโซนคาเฟ่ มีการตกแต่งในสไตล์ธรรมชาติ ด้วยตู้สวนผัก และพืชนานาชนิด และเซ็นเซอร์บ่งบอกคุณภาพอากาศ โดย RISC มีหลากหลายมุมให้ทุกคนที่มาเยือนได้นั่งคิดงานแบบสร้างสรรค์มากมาย ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือพบปะผู้คนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิด

ราคา: ไม่มีค่าบริการสำหรับพื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซ

พิกัด: โครงการแมกโนเลีย ราชดำริ บูเลอวาร์ด ชั้น 4 เปิดบริการวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 083-095-5268

 

วีโค่ซิสเต็ม (Wecosystem) พื้นที่แห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างวัฒนธรรมผู้ประกอบการในประเทศไทยในย่านที่มีธุรกิจสตาร์ทอัพมากมายอย่างย่านราชประสงค์ โดยเป็นโรงเรียนสำหรับผู้ประกอบการที่รวบรวมหลายหลักสูตรการเรียนรู้ทางธุรกิจทุกระดับจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น การสร้างทักษะทางธุรกิจ แบรนด์ดิ้ง การวางแผนทางการเงิน การออกแบบสิ่งที่จับต้องได้และประสบการณ์ รวมถึงด้านเทคโนโลยี ผ่านวิธีบ่มเพาะผู้ประกอบการด้วยการฝึกอบรมและทำเวิร์คช็อป เพื่อสร้าง mindset ใหม่เพื่อต่อยอดให้นำความคิดและไอเดียทางธุรกิจจากระยะแรกเริ่มมาสร้างให้เกิดเป็นธุรกิจได้จริง ภายในพื้นที่ได้แบ่งออกเป็น Cafe & Studio, Private Meeting, และ Wecosystem Outpost ให้ผู้คนได้เข้ามาทำงานหรือแลกเปลี่ยนไอเดียและความคิดสร้างสรรค์

ราคา: สมาชิกแพ็คเกจ สำหรับโคเวิร์คกิ้งสเปซ เริ่มต้น 6,000+/3 เดือน

พิกัด: เกษรทาวเวอร์ ชั้น 9 ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 092-274-7434 และติดตามได้ที่ www.wecosystem.co

 

เดอะ เกรท รูม (The Great Room) จากสิงคโปร์ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัวที่กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก ณ เกษร ทาวเวอร์ ซึ่งตอบรับกระแสนิยมของโคเวิร์คกิ้งสเปซได้เป็นอย่างดี แรงบันดาลใจในการสร้าง เดอะ เกรท รูม เกิดจากการศึกษาเกี่ยวกับสำนักงานที่ดีที่สุดของโลก โรงแรมหรู และสโมสรธุรกิจชั้นนำ เพื่อมอบความรู้สึกสบาย โปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด และสดใส ให้กับผู้ใช้พื้นที่ เดอะ เกรท รูม ถูกตกแต่งและจัดสรรเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและส่วนกลาง มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้สมาธิสูง มีพื้นที่ไว้สำหรับจัดกิจกรรมสันทนาการ มีห้องประชุมหลากหลายรูปแบบไว้ให้บริการและพื้นที่ส่วนรวมเพื่อการพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิด เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจและทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์เพื่อผลิตผลงานที่มีคุณภาพ 

ราคา: 9,500 บาท ต่อชั่วโมง/แพ็คเกจสำหรับห้องประชุม ราคาเริ่มต้นชั่วโมงละ 720 บาท

พิกัด: เกษรทาวเวอร์ ชั้น 25 & 26 ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-703-0222

 

สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ (Starbucks Reserve) เป็นมากกว่าร้านกาแฟธรรมดาทั่วไป เพราะเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซ ที่มีมุมให้นั่งทำงานคนเดียวหรือเป็นกลุ่มหรือนั่งจิบกาแฟในวันสบายๆ และมีห้องประชุม พร้อมจอ LCD เพื่อรองรับมัลติมีเดียต่างๆ และถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผลงานของศิลปินชาวไทยชื่อดัง มีโซน “Starbucks Reserve Experience Bar” ซึ่งเป็นบาร์กาแฟที่มาพร้อมกับเครื่องดื่มพรีเมี่ยมโดยใช้เมล็ดกาแฟแบบ Coffee Reserve มอบความอร่อย หอม และกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมี Starbucks® DRAFT แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแท็ปดราฟต์สำหรับอัดก๊าซไนโตรเจน เครื่องดื่มจะเสิร์ฟตรงจากแท็ป ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 แบบ คือ แท็ปโคลด์ บรูว์ แท็ปไนโตร โคลด์ บรูว์ แท็ปชา และแท็ปนม ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับฟองครีมละเอียดนุ่มนวลละมุนลิ้นคล้ายเบียร์ ลื่นคอ และมอบรสชาติเครื่องดื่มอย่างแท้จริง
โดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มผสมนม สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยความกว้างขวางถึง 760 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าได้ 230 ที่นั่ง และซิกเนเจอร์เมนูของร้านคือ Undertow, Vanilla Bean Latte, และ Shakerato Bianco Over Ice

ราคา: 55-200 บาท

พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (ใกล้ทางเข้าอิเซตัน) ชั้น 1 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 084-438-7336

 

สแนป คาเฟ่ (Snap Cafe) ร้านกาแฟสไตล์มินิมอลโทนสีขาว ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนและตัดด้วยโทนสีเข้มอย่างสีดำทำให้ดูเท่ และถูกออกแบบให้มีความโปร่ง โล่ง สะอาด และสบายตา มีเครื่องดื่ม
นานาชนิดและเต็มไปด้วยอาหารที่หลากหลายให้เลือกสรร ซิกเนเจอร์เมนูของร้านคือ ข้าวแต๋น, Salted Caramel ที่เพิ่มความหวานโดยการใส่ผงลูกอมชื่อดังของเยอรมันอย่าง Werther’s Original ไว้ด้านบน และ แซนวิชไข่ดาวและทูน่า จุดเด่นของร้านอีกหนึ่งอย่างคือ การมีแท็ปสำหรับอัดก๊าซไนโตรเจนซึ่งเพิ่มความพิเศษให้ Nitro Cold Brew ทำให้เกิดฟองครีมนวลละเอียดคล้ายเบียร์ มีมุมสำหรับนั่งทำงานหรือ
อ่านหนังสือ พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ราคา: 80-200 บาท

พิกัด: เกษรวิลเลจ ชั้น 1 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 19.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 089-244-5191

 

คาซ่า ลาแปง (Casa Lapin) เป็นร้านกาแฟสุดฮิตของเหล่าวัยรุ่นที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้หรูสีน้ำตาลเข้ม ตัดด้วยโซฟาสีฟ้าเข้มที่เพิ่มความเท่ มีที่นั่งสบาย มอบความรู้สึกเสมือนอยู่บ้าน พร้อมเปิดเพลงเบาๆ สร้างบรรยากาศให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินระหว่างการทำงาน คาซ่า ลาแปง สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ มีเมนูอาหารจานหลักและทานเล่น เครื่องดื่มกาแฟ ชา และผลไม้ เบเกอรี่ และขนมหวานนานาชนิดมากกว่าสาขาอื่น เสิร์ฟกาแฟทั้งแบบเครื่องชงและแบบกาแฟดริป และ Cold Brew ให้รสชาติที่กลมกล่อม ไฮไลท์ของคาซ่า ลาแปง สาขานี้คือเครื่อง Steampunk เทคโนโลยีสุดล้ำด้วยการสั่งงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เลือกเมล็ดกาแฟ ซึ่งทางร้านมีให้เลือกถึงสองแบบ คือ เมล็ดกาแฟไทยและเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ เช่น เอธิโอเปีย เคนยา คอสตาริกา และโคลอมเบีย เพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับรสชาติ/กาแฟในทุกๆ แก้วอย่างมีคุณภาพ ซิกเนเจอร์เมนูของร้านคือ Flat White และแซลมอนครีมชีส พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ราคา: 90-200 บาท (ช่วง Early Bird promotion เวลา 10.00 น. ถึง 12.00 น. เมนูกาแฟลดเหลือแก้วละ 70 บาท)

พิกัด: ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (โซนเอเทรียม) ชั้น 3 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-116-3308

 

กาแฟวาวี (Wawee Coffee) ร้านกาแฟจากจังหวัดเชียงใหม่สไตล์ไทย เพิ่มสาขามาที่ใจกลางเมืองกรุง ณ ย่านราชประสงค์ เสิร์ฟกาแฟทั้งแบบเครื่องชงและแบบกาแฟดริป อีกทั้งยังมีเมนูชา ผลไม้ ขนม ไอศกรีมมะพร้าว และน้ำผลไม้อีกด้วย เมล็ดกาแฟส่วนใหญ่ที่ใช้ในร้านปลูกในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย มีโรงคั่วและผู้เชี่ยวชาญที่ใช้เครื่องคั่วที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ทำให้ได้เมล็ดกาแฟมีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อีกทั้งยังได้รับรางวัลมาตรฐานออร์กานิคจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปอีกด้วย กาแฟวาวีถูกออกแบบให้มีบรรยากาศโปร่งและโล่ง พร้อมสามารถมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเทพฯ และทิวทัศน์ของราชประสงค์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งได้เป็นอย่างดี รวมถึงราชประสงค์ วอล์ก ที่เต็มไปด้วยคนทำงานและนักท่องเที่ยว ซิกเนเจอร์เมนูของร้านคือ กาแฟวาวี พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและไวไฟ

ราคา: 75-100 บาท

พิกัด: บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ ชั้น 2 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 21.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-250-4946

นี่คือขุมพลังของออฟฟิศเคลื่อนที่…นี่คือคลังในการขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำงานรุ่นใหม่….และนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ราชประสงค์ยังเป็นศูนย์กลางที่รวมโคเวิร์คกิ้งสเปซ และ ร้านกาแฟ กว่า 60 แห่งให้เลือกสรรเปลี่ยนบรรยากาศไม่ซ้ำกัน เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนทาเล้นท์ซึ่งเป็นสังคมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ในการสร้างสรรค์ไอเดียสุดเวิร์คตลอดเวลา เช่นเดียวกับย่านราชประสงค์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการเสิร์ฟไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ของคนยุคใหม่ ดั่งคำกล่าวของ Woody Allen ผู้กำกับและนักเขียนชื่อดังที่ว่า “ไอเดียใหม่ๆ มาจากการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศ และเจอผู้คน”