“มอนสเตอร์ ไอติมผัด” เจ้าของสโลแกน “ถ้าคุณชอบ…มันก็ใช่”  เป็นไอศกรีมสด ที่นำไปผัดบนกระทะที่มีความเย็นกว่าช่องฟรีซในตู้เย็นถึง 4 เท่า  ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์รสชาติได้ตามชอบใจ มี โอ๊ต –คงกะพัน ดีวงษ์ เป็นเจ้าของกิจการ

“โอ๊ต” เล่าถึงกิจการไอศกรีมรูปแบบแปลกตา นามว่า มอนสเตอร์ ไอติมผัด เริ่มต้นให้ฟัง จบการศึกษาระดับปวส.จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง ก่อนออกมาทำอาชีพหลายอย่าง ทั้ง เขียนรูปขาย ทำละคร ทำหนัง เปิดผับ  ขายลูกสุนัข

กระทั่งเมื่อราว 5 ปีก่อนหน้านี้ หันเข็มมาขายของรับประทาน เพราะมองตลาดแล้วว่าน่าจะขายได้ตลอด ไม่มีซบเซา ประกอบกับบ้านเราอากาศร้อนแทบทั้งปี ไอศกรีม จึงเป็นสินค้าน่าสนใจอย่างยิ่ง แต่ถ้าจะให้มาขายเป็นแท่ง เป็นถ้วย คงไม่มีจุดดึงดูดน่าสนใจนัก เลยโฟกัสไปที่ ไอศกรีมผัด ซึ่งเป็นที่นิยมในต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว ทดลองทำแบบลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน ไม่ได้อย่างใจคิด ออกมาเป็นเกล็ดๆ แบบไม่น่าทาน

คุณโอ๊ต เจ้าของกิจการ

แต่มาได้เพื่อนสนิท ซึ่งเป็นเชฟและเคยไปแข่งขันทำขนมเค้กที่สหรัฐอเมริกา จนได้เป็นแชมป์ มาช่วยคิดสูตรการทำ “ไอศกรีมผง” สารพัดรสชาติ ที่สามารถนำไปผสมน้ำจนเป็นของเหลว ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทำไอศกรีมผัดรสชาติต่างๆ รสชาติดี เนื้อเนียน ถูกปากคนไทย

ได้สินค้าในแบบที่มั่นใจแล้ว คุณโอ๊ต จึงนำออกตลาด เริ่มจากการออกบู๊ธตามอีเว้นต์ และสถานที่ท่องเที่ยว อย่าง  ปาลีโอ และ ตลาดน้ำเขาใหญ่ ปรากฏได้ผลตอบรับเกินคาด ลูกค้าเข้าคิวซื้อกันยาวเหยียด

“ไอศกรีมผัดมอนสเตอร์ ออกแบบรสชาติได้ไม่รู้จบ ผัดกับกีวี มะม่วง สตอร์เบอรรี่ โอลิโอ่ ก็ได้รสชาติที่ใส่ลงไป วิธีการทำมีการเคาะกระทะเสียงดังๆ เพื่อเรียกลูกค้า ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาทีได้รับประทาน เหล่านี้คงเป็นเหตุผลทำให้ยอดขายดีขึ้นตามลำดับ” คุณโอ๊ต บอกอย่างนั้น

 

ดำเนินกิจการอยู่ปีกว่า เริ่มมีคนสนใจติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ รายแรกเป็นเพื่อนนักธุรกิจต่างชาติ ติดต่อไปลงขายในห้างสรรพสินค้าของประเทศมาเลเซีย เท่าที่ทราบทุกวันนี้กิจการกำลังไปได้สวย  ล่าสุดมีนักลงทุนชาวไทย สนใจติดต่อขอไปลงที่ประเทศเมียนมาและลาว แต่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจา ส่วนในเมืองไทย มีแฟรนไชซีอยู่ 4 ราย แต่ตั้งเป้าไว้จะเปิดให้ได้อย่างน้อย 100 สาขาทั่วประเทศ

“ทำเลทองของสินค้านี้ คือ หน้ามหาวิทยาลัย แหล่งท่องเที่ยว ที่ผ่านมาเคยขายได้วันเดียว 3 หมื่นกว่าบาท” เจ้าของกิจการ ว่าให้ฟัง

 

ก่อนบอก ไอศกรีมผัดในแบบของเขานี้ ต้นทุนวัตถุดิบต่ำมาก กำไรจึงได้ไม่ต่ำกว่า 400-500 เปอร์เซ็นต์ต่อถ้วย มั่นใจหากอยู่ในทำเลที่ไม่เหงาจนเกินไป น่าจะคืนทุนได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน  อย่างไรก็ตาม ช่วงเปิดตัวใหม่ๆ ลูกค้ามายืนดู แล้วถามว่า คืออะไร ใช่เครปหรือเปล่า แต่พอโชว์ลีลาการทำ     คนเริ่มมุง พอตักใส่ถ้วยได้ลองชิม คราวนี้ต่อคิวกันยาว

 

“เชื่อว่าธุรกิจนี้พามาถูกทางที่สุดแล้ว ขอแค่เราอยู่ได้ แฟรนไชซี มีความสุข พอใจแล้วครับ” คุณโอ๊ต ฝากไว้ ก่อนยิ้มกว้างส่งท้าย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณโอ๊ต โทรศัพท์ 086-993-7440 หรือ www.facebook.com/Monster ไอติมผัด

 


source : เส้นทางเศรษฐี

หนึ่งในเทรนด์อาหารเช้า ปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ยังติดโผ เป็นที่นิยมของทุกเพศทุกวัย อย่างปาท่องโก๋ร้านเพชรบุรี 42 สูตรฮ่องกง ร้านนี้มีที่มาน่าสนใจ เพราะศึกษาสูตรจากหนังสือใส่ฝีมือลงไปจนได้สูตรปาท่องโก๋แสนอร่อยขายได้ แถมมียอดขายเฉลี่ย 2-3 หมื่นบาทต่องานเลยทีเดียว

ลุงชวน วัย 61 ปี เจ้าของร้านเล่าว่า ยึดอาชีพมาขายปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้มาตั้งแต่ปี 2527 แถวปากซอย 42 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เพราะมีเพื่อนที่มาจากจังหวัดเดียวกันทำขายอยู่แถวตลาดคลองเตย ในตอนแรกลุงชวนไม่ได้คิดจะขายปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ แต่เห็นเพื่อนขายแล้วรายได้ดีแบบไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนจากอีสานมาทำงานในกรุงเทพฯ ลุงเลยเริ่มสนใจ เริ่มถามคนรู้จักที่ค้าขายส่วนใหญ่บอกว่าดี ได้เงินทุกวันจะมากน้อยก็ยังได้

อาศัยเรียนสูตรกับเพื่อน มาเป็นลูกมือ มาเรียนสูตร เพื่อนก็ช่วยสอนให้ อยู่ร่วม 2 เดือนจนทำเป็น

จากปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ ณ ตอนนั้น ขยับขยายมาอีกก้าว สู่ปาท่องโก๋ร้านเพชรบุรี 42 สูตรฮ่องกง ที่ทำขายในปัจจุบัน เพราะลุงชวนรู้สึกว่าสินค้าที่ขายอยู่ยังสามารถปรับสูตรให้ดีกว่านี้ได้ ตอนนั้นเองที่ลุงชวนเริ่มศึกษาสูตรปาท่องโก๋จากหนังสือ

“ลุงใช้สูตรจากหนังสือครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งเป็นสูตรที่พลิกแพลงด้วยฝีมือของลุงเอง ทุกวันนี้ลุงยังปรับสูตรอยู่นะ ลูกค้าอาจไม่รู้ ที่ปรับทุกวันเพราะอยากให้กินได้หลายวัน และยังคงรสชาติที่อร่อยอยู่” ลุงชวน ว่าอย่างนั้น

ก่อนเล่าต่อถึงปาท่องโก๋สูตรฮ่องกง จะออกขายตามงานแสดงสินค้าเป็นหลัก รวมถึงรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ มีทีมสำหรับออกงาน 2 ทีม บางครั้งให้ลูกชายเป็นคนขาย บางครั้งให้ลูกน้องออกขายแล้วแต่งาน สำหรับปาท่องโก๋ร้านลุงชวนจะเป็นเกลียวชิ้นใหญ่ สูตรกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับเครื่องจิ้ม 4 สูตรคือ สังขยาใบเตย สังขยาชาไทย เนย&นม นมข้นหวาน แต่ละรสเป็นสูตรที่ลุงชวนศึกษาจากหนังสือ แล้วปรุงแต่งให้มีกลิ่นอายของรสมือคุณลุงอีกที

“เวลาลูกค้ามาซื้อหน้าร้านลุงจะแนะให้ชิมทุกสูตร แต่ที่ขายดีต่อเนื่องเป็นสูตรนม&เนย อย่างไปขายในห้าง ลูกค้าบางคนมาซื้อช่วงเช้า ช่วงบ่ายยังกลับมาซื้อใหม่ บางคนซื้อครั้งละ 5-6 กล่องเลยนะ ลุงจะเก็บเป็นข้อมูลแล้วนำไปปรับสูตรอีก”

ขายราคากล่องละ 60 บาท ปาท่องโก๋ 3 ตัว เครื่องจิ้ม 1 ถ้วย หากอยากได้รสชาติเพิ่มขายถ้วยละ 20 บาท ส่วนรายได้ต่อเดือน ลุงชวน บอกว่า เรื่องรายได้ถามเป็นเดือนตอบยาก เพราะเวลาออกบู๊ธเหมือนการเสี่ยงโชค แต่ละครั้งขายได้ไม่เท่ากัน

“บางงานขายดีมาก บางงานก็ขายไม่ดีเลย ถึงขั้นเสมอตัว ขาดทุนก็เจอมาแล้ว แต่โดยเฉลี่ยแล้วรายได้อยู่ที่ 2-3 หมื่นบาทต่องาน”

อ่านแล้วสนใจอยากลองชิม สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่เบอร์ 089-200-6967 / 085-362-8992

 


ที่มา เส้นทางเศรษฐี
โดย กนกพร หมีทอง

หาอาชีพก่อนเกษียณ

Human of Office ชีวิตมนุษย์เงินเดือน

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์


“นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด”

ผมไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กล่าวคำคำนี้ แต่คำพูดดังกล่าวทำให้เราเห็นภาพจริงว่านักการเมืองกับพระราชามีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือประชาชนต่างกัน

ทั้ง ๆ ที่เป็นการช่วยเหลือเหมือนกัน

แต่ความยั่งยืนในระยะยาวกลับมีความต่างกัน

คำพูดดังกล่าวเบื้องต้น ทำให้ผมนึกถึงวิธีการบริหารจัดการของผู้นำบางองค์กร เพราะเขาคิดว่าสิ่งที่พนักงานทำอยู่ในปัจจุบัน นอกจากจะทำหน้าที่มนุษย์เงินเดือนของตัวเองอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว เขากลับมีความคิดว่าหากเราติดอาวุธให้พนักงานเหล่านั้น มีอาชีพด้วยจะดีกว่าไหม

โดยเฉพาะพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีรายได้น้อย มีภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวค่อนข้างสูง มีพ่อแม่พี่น้องลูกเมียต้องดูแล และอื่น ๆ มากมาย กับพนักงานอีกบางส่วนที่จะเออร์ลี่รีไทร์ในอายุ 55 ปี หรือพนักงานที่จะเกษียณอายุ 60 ปี

ด้วยการจัดคอร์สอบรมวิชาชีพให้ฟรี โดยบริษัทเป็นผู้ออกภาระค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งการอบรมวิชาชีพต่าง ๆ นอกจากเขาจะซาวเสียงพนักงานเหล่านั้นตรง ๆ ว่าต้องการฝึกอาชีพอะไร ?

อยากจะขายอะไร ?

และอยากจะมีอาชีพอะไรติดตัว ?

เขายังสอบถามพนักงานอีกว่าปีหนึ่ง ๆ ควรจะฝึกอาชีพทั้งหมดกี่ครั้ง เพราะเขาจะได้วางแผน และตั้งงบประมาณถูกว่าปีหนึ่ง ๆ เราควรจัดสรรงบประมาณสักเท่าไหร่ เพื่อให้พนักงานเหล่านั้นนำไปสร้างประโยชน์ต่อตนเอง และครอบครัว

นอกจากในฝั่งขององค์กร อีกส่วนหนึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับชุมชนต่าง ๆ โดยรอบบริษัท หรือโรงงานต่าง ๆ ที่เขาดำเนินธุรกิจอยู่ เพราะอย่าลืมว่าทุก ๆ บริษัทมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอยู่แล้ว ดังนั้น หากเรานำอาชีพไปให้ชาวบ้านรอบ ๆ ชุมชน เขาจะมีอาชีพเพื่อเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวในระยะยาว

ทุกอย่างจะวิน วินเกม

เพราะนอกจากเราจะได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ชาวบ้านยังได้อาชีพต่าง ๆ เพื่อเลี้ยงปากท้องของตัวเองด้วย

เพียงแต่ช่วงผ่านมาหลาย ๆ บริษัทอาจไม่รู้ว่าถ้าจะติดต่อคนมาอบรมวิชาชีพต้องไปติดต่อที่ไหน ? ค่าอบรมเท่าไหร่ ? เขาจะมาไหม ? ถ้าบริษัทของเรา หรือชุมชนมีพนักงาน หรือคนเพียง 20-30 คนเท่านั้นเอง

ซึ่งปัญหาทุกอย่างจะหมดไป

ตอนนี้สำนักงานมติชน อคาเดมี หน่วยงานสร้างอาชีพภายใต้ชายคามติชน กรุ๊ป จัดทำคอร์สอบรมอาชีพให้กับพนักงานบริษัท และชุมชนต่าง ๆ หลายร้อยอาชีพด้วยกัน

พูดง่าย ๆ ว่าอาชีพที่เกี่ยวกับต้ม ผัด แกง ทอดมีหมด

ขนมไทย ขนมเทศมีหมด

ทั้งยังมีงานช่างฝีมือต่าง ๆ อีกเพียบ

ที่สำคัญ คนที่มาอบรมล้วนมาจากร้านอาหารดัง ๆ ทั่วประเทศทั้งสิ้น ผมลองยกตัวอย่างให้ฟังเกี่ยวกับอาชีพต้ม ผัด แกง ทอดสัก 2-3 ร้านนะครับ ไม่ทราบว่าใครเคยรู้จัก หรือเคยได้ยินร้านเฮียจกโต๊ะเดียวไหมครับ ร้านนี้นอกจากจะมีต้มเลือดหมู ราดหน้าหมูคะน้าฮ่องกงที่ขึ้นชื่อแล้ว เขายังมีเมนูปลาช่อนนานึ่งซีอิ๊ว และปวยเล้งผัดไฟแดงด้วย

สำหรับร้านนี้ “อาจารย์สมชาย ตั้งสินพูลชัย” จะเป็นคนสอน ทั้งยังสอนอย่างไม่มีการกั๊กเก็บเอาไว้เป็นอันขาด พูดกันให้ชัด ๆ คือสอนเพื่อให้ทุกคนนำไปขายได้เลย

หรืออย่างร้านเป็ดย่างแสงทอง ร้านนี้จะมีเมนูที่เกี่ยวกับเป็ดทุกอย่าง ไม่ว่าเป็ดย่าง, ข้าวหน้าเป็ดย่าง, น้ำราดเป็ด, เป็ดตุ๋นมะนาวดอง ก็จะได้ “ประพจน์ ตรีจันทร์ทอง” มาเป็นผู้สอน

หรือ ร้านครัวคุณจ๋า วัดเขายี่สาร เมนูเด็ดของร้านนี้คือน้ำพริกชะคราม, ต้มส้มปลากระบอก, หลนปูม้า, ปลาหมึกผัดกะปิ ก็จะมี “นิภาภัทร พยนต์ยิ้ม” เป็นผู้สอน พูดกันง่าย ๆ คือสอนเสร็จแล้วทำกินกันเองก่อนภายในครอบครัวได้เลย

เพื่อรอทุกคนบอกว่าอร่อยตรงกัน ค่อยเตรียมเปิดร้านต่อได้เลย

ส่วนขนมก็จะมีขนมถังแตกชาววัง, ขนมโตเกียวหลากไส้, ขนมครกสองแคว (นางเลิ้ง), ชาเขียวถั่วแดง, บลูเบอรี่ชีสเค้ก, พายไส้กรอก, พายไก่, แพนเค้กเยอรมัน และอื่น ๆ อีกกว่าร้อย ๆ ชนิด

ขณะที่ในส่วนของงานช่างฝีมือก็จะมีอบรมเกี่ยวกับการทำสวนจิ๋วในถาดแก้ว, ตัดเย็บเสื้อผ้าน้องหมา, แกะสลักเพื่อการจัดจาน, ต่อเล็บสวย 3 สไตล์, ต่อขนตาธรรมชาติ และอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกัน

สำหรับการอบรมจะมี 2 ส่วนครับคือ จะให้ไปอบรมที่ออฟฟิศ หรือโรงงานก็ได้ หรือจะมาอบรมที่ สำนักงานมติชน อคาเดมี ก็ได้เช่นกัน ส่วนค่าอบรมจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม กับส่วนตัว แต่ราคาเฉลี่ยโดยรวมน่าจะประมาณ 2 พันกว่าบาทขึ้นไปต่อคน ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอาชีพที่จะอบรมด้วย ขณะที่เวลาอบรมก็จะใช้เพียง 1-2 วันเท่านั้นเอง

ถ้าสนใจลองโทร.ไปสอบถามดูนะครับที่เบอร์ 0-2954-3977-84 ต่อ 2104

เท่านั้นคุณก็จะรู้ซึ้งดีถึงคำว่า…นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ดเป็นอย่างไร