กระทรวงพาณิชย์ เร่งผลักดันส่งออกไข่ไก่ตั้งเป้า 200 ล้านฟอง ใน 6 เดือน แก้ล้นตลาด 3 ล้านฟอง/วัน หวังราคาปรับขึ้นเป็นฟองละ 2.80-3.00 บาท จากปัจจุบันไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.40 บาท

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตและราคาไข่ไก่ในประเทศขณะนี้ ว่า มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 40-41 ล้านฟองต่อวัน ขณะที่การบริโภคอยู่ที่ 38-39 ล้านฟอง ทำให้มีปริมาณการผลิตส่วนเกินวันละ 3 ล้านฟอง จึงเห็นควรให้ใช้มาตรการระบายผลผลิต โดยการผลักดันการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ 200 ล้านฟอง ภายใน 6 เดือน โดยภาครัฐจะเข้ามาอุดหนุนในการลดต้นทุนให้กับเกษตรกร เช่น บรรจุภัณฑ์ ซึ่งใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเกษตรกรจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะเริ่มเริ่มต้นดำเนินการที่ 100 ล้านฟองแรก ภายใน 4 เดือน ตั้งแต่เดือนมิ.ย. เป็นต้นไปถึงเดือนก.ย. และอีก 100 ล้านฟองที่เหลือในช่วง 2 เดือนหลังจากนั้นระหว่างเดือนต.ค. ถึงเดือนพ.ย.

“เชื่อว่าตลาดหลักๆ ที่เคยนำเข้าไข่ไก่จากไทยจะกลับมาซื้อไข่ของไทย หลังจากที่ไทยระงับการส่งออกไปในช่วงที่ผ่านมา เพราะถือเป็นมาตรการที่ทุกประเทศต้องดำเนินการในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ที่ทุกประเทศจะให้ความสำคัญกับผู้บริโภคในประเทศก่อน ทำให้สินค้าที่จำเป็นบางอย่างต้องระงับการส่งออกเพื่อให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ และผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่ปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วง

นอกจากนี้ ยังเร่งระบายในประเทศอีก 15 ล้านฟอง ผ่านโครงการรณรงค์ให้มีการบริโภคภายในประเทศ เช่น ผ่านร้านธงฟ้าและโครงการธงฟ้าในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้ โดยเชื่อว่าจะสามารถผลักดันราคาไข่ไก่คละของเกษตรกรให้ปรับราคาดีขึ้นอยู่ที่ราคาฟองละ 2.80-3.00 บาท จากปัจจุบันไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.40 บาท และระยะยาวอาจมีการพิจารณาลดปริมาณแม่ไก่ยืนกรงลงประมาณ 3 ล้านตัว เพื่อลดปริมาณการผลิตต่อวันลงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอาจให้อยู่ต่ำกว่า 41 ล้านฟองต่อวันอีกด้วย

นอกจากนี้ ในส่วนของสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น ผลไม้ ข้าว ในภาพรวมมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องผลผลิตและราคาตกต่ำ เพราะกรมเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการหลายรูปแบบ และผลผลิตที่ออกมาสามารถบริหารจัดการได้ เช่น มังคุด ทุเรียน ลองกอง และผลไม้อื่นๆ ที่จะทยอยออกมา รวมทั้งข้าวที่ราคาค่อนข้างดี คาดว่าจะเป็นอีกปีทองของสินค้าเกษตรไทย

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เยี่ยมชมบูธสินค้าของโอสถสภาภายใต้โครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” พร้อมส่วนลดสูงสุด 50% โดยมีสินค้าเข้าร่วมมากกว่า 22 รายการสินค้า เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน สู้ภัยโควิด-19 โดยมีนายสาโรจน์ อินทพันธุ์ Head of External Affairs and Sustainability บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ ณ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเร็วๆ นี้

กรุบกรอบเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ ตัดริบบิ้นเปิดตัวไปแล้ว สำหรับสแน็คไทยอนาคตไกล 2 โปรดักส์สุดฮิปจากมันสำปะหลังแปรรูปโดยมันสมองคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ‘วาฟเฟิลกรอบ’และ ‘มันอบกรอบ’ ภายใต้แบรนด์ CASSA AWEET , AMADE และ CASSY CHIPS

โดยวาฟเฟิลกรอบ ผลิตภายใต้แบรนด์ CASSA AWEET 2รสชาติ มัทฉะชาเขียวญี่ปุ่น และบลูเบอรี่ ส่วนมันสำปะหลังอบกรอบ แบรนด์ AMADE มี3รสให้เลือก รสธรรมชาติ ช็อคโกแลต และสตรอว์เบอร์รี่ รวมถึงมันสำปะหลังอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ CASSY CHIPS นอกจากนี้ยังมีเฟรนช์ฟราย จากมันสำปะหลังด้วย

มันสำปะหลังจัดเป็นพืชเศรษฐกิจของไทย ผลิตมากเป็นอันดับ2ของโลก และส่งออกมากเป็นอันดับ1ของโลก แต่ราคากลับผันผวนตามสถานการณ์ตลาดโลก ปัจจุบันราคาขายเพียงกิโลกรัมละ 2.50 บาท ถือว่าน้อยมาก

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงร่วมกับ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มรายได้เกษตรกร และพบว่าเมื่อมันสำปะหลังถูกนำมาแปรรูปแล้ว มีมูลค่าเพิ่มหลายเท่าตัว สร้างรายได้ให้เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปากได้

รศ.ดร.ปรารถนา ปรารถนาดี

รศ.ดร.ปรารถนา ปรารถนาดี หัวหน้าโครงการแปรรูปมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์สู่อุตสาหกรรมอาหารเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ประจำปีงบประมาณ 2561 เผยว่า คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับความไว้วางใจจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินโครงการฯนี้ ต่อเนื่องจากโครงการแปรรูปมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์สู่อุตสาหกรรมอาหารเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรชุมชนในปี 2559

รศ.ดร.ปรารถนา เล่าว่า ในปี 2559 โจทย์คือให้พัฒนา4ผลิตภัณฑ์3รสชาติ แล้วอบรมให้ความรู้เกษตรกรอย่างน้อย 1,200 ราย ให้แปรรูปมันสำปะหลังกินได้เป็นอาหาร เพื่อจัดจำหน่ายภายในชุมชนหรือขายในตลาด เพื่อพยุงราคามันสำปะหลังให้มีรายได้เพิ่ม

“สำหรับในปี2561เป็นโครงการต่อเนื่อง มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการแปรรูปมันสำปะหลังสู่อุตสาหกรรมอาหารให้มีความหลากหลายมากขึ้น  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเข้าถึงเทคโนโลยีแปรรูปมันสำปะหลัง รวมถึงพัฒนาศักยภาพทางการตลาด เพิ่มช่องทางการจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ได้พัฒนาแล้วมาวางขายจริงในตลาด โครงการนี้มีทีมงานใหญ่มาก อาศัยทีมงานจากหลายภาควิชา

“ล่าสุด เรามีแบรนด์ CASSA AWEET เป็นแบรนด์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตภัณฑ์ตัวแรกคือ วาฟเฟิล เป็นวาฟเฟิลอบกรอบจากฟลาวมันสำปะหลัง มี2รสชาติ บลูเบอรี่ และมัจฉะชาเขียว”หัวหน้าโครงการฯเผย

ด้านการตลาด นอกจากวางขายในประเทศไทยแล้ว มันสำปะหลังสแน็คคนไทย ยังมีโอกาสไปวางขายในตลาดต่างประเทศด้วย โดย รศ.ดร.ปรารถนา เผยว่า สแน็คมันสำปะหลังที่เราพัฒนาขึ้นมาจะเน้นเรื่องสุขภาพด้วย เพราะในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา หรือยุโรป กินมันสำปะหลังเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีข้อดีตรงที่ไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรม ไม่มีจีเอ็มโอ ไม่มีกลูเตน เป็นตลาดสุขภาพที่คนจำนวนมากนิยม ผู้สูงวัยกินได้

“ทิศทางการส่งออกตอนนี้อยู่ในระยะเริ่มต้น เราได้นำผลิตภัณฑ์ไปนำเสนอในงานต่างๆ เราเคยเอาผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้ประกอบการหรือผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมชิมที่ประเทศอังกฤษ ได้รับคอมเมนต์มาว่าชอบในผลิตภัณฑ์ และให้คำแนะนำว่าเราสามารถปรับปรุงตัวผลิตภัณฑ์ยังไง และในปลายเดือนกุมภาพันธ์จะนำผลิตภัณฑ์นี้ไปนำเสนอที่งานแสดงสินค้าที่ฮ่องกง เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าออแกนนิค สินค้าจากธรรมชาติ”หัวหน้าโครงการฯเผย

กว่ามันสำปะหลังจะมาเป็น ‘วาฟเฟิลกรอบ’ และ ‘มันอบกรอบ’ ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง?

รศ.ดร.กมลวรรณ แจ้งชัด จากภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์วาฟเฟิลกรอบ เผยว่า วาฟเฟิลกรอบทำมาจากฟลาวมันสำปะหลัง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลูเตน มี2รสชาติ

“ในการพัฒนาสูตรและกระบวนการผลิต ใช้เทคโนโลยีส่วนผสม เพื่อออกแบบเนื้อผลิตภัณฑ์ รวมทั้งศึกษากระบวนการอบและวิธีการอบ ให้ได้ระยะเวลาและอุณหภูมิที่เหมาะสม จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสกรอบ ไม่แข็งกระด้าง จากงานวิจัยนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่หัวมันสำปะหลังสด จากราคากิโลกรัมละ 2-3 บาท สามารถผลิตเป็นฟลาวมันสำปะหลัง ราคากิโลกรัมละ 25-30 บาท

“จากนั้นเราเอามันฟลาวมันสำปะหลังไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เพื่อผลิตเป็นวาฟเฟิลอบกรอบ สามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ1,000บาท หรือ 3 ชิ้น 20 บาท จะเห็นว่าในงานวิจัยอันนี้ นอกจากได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทำจากฟลาวมันสำปะหลัง ทั้งกรอบและอร่อย เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่มันสำปะหลังสด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย”รศ.ดร.กมลวรรณเผย

มาถึงผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแผ่นอบกรอบ ต้องบอกว่าทั้งหอมกรอบอร่อย ครบทุกคุณสมบัติที่สแน็คควรจะมี!!

ผศ.ดร.ศศิธร ตรงจิตภักดี

โดยหัวเรือใหญ่ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแผ่นอบกรอบ คือ ผศ.ดร.ศศิธร ตรงจิตภักดี จากภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และดร.พิสมัย ศรีชาเยช จากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร

ผศ.ดร.ศศิธร เผยว่า ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแผ่นอบกรอบ เรามุ่งเป็นขนมขบเคี้ยวสำหรับผู้รักสุขภาพ เพื่อทดแทนหรือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่เคยชอบมันฝรั่งทอด สามารถมารับประทานมันฝรั่งแผ่นอบกรอบได้ ที่บอกว่ารักสุขภาพ เพราะเราใช้กระบวนการอบ ไม่ใช้การทอด เพราะฉะนั้นจะมีปริมาณน้ำมันต่ำ

“เนื่องจากเราใช้มันสำปะหลังที่รับประทานได้มาเป็นส่วนประกอบหลัก ปราศจากกลูเตน เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่แพ้แป้งสาลี โดยมันสำปะหลังแผ่นอบกรอบของเรา สามารถใช้มันสำปะหลังสด หรือแป้งฟลาวมันสำปะหลังมาผลิตได้ มีการพัฒนากระบวนการผลิต ปรับสัดส่วน โดยครั้งนี้เราร่วมกับ บริษัท พลวรรธน์ ฟู้ดส์ จำกัด ในการพัฒนาตัวโปรดักส์ให้สามารถผลิตด้วยกระบวนการอุตสาหกรรมได้”ผศ.ดร.ศศิธร เผย

นอกจากนี้ ผศ.ดร.ศศิธร ยังเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เฟรนช์ฟรายจากมันสำปะหลังด้วย โดยร่วมกับหลายกลุ่มเกษตรกรที่สนใจ อาทิ ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก.บ้านฉาง จ.ระยอง และ คลัสเตอร์มันสำปะหลังกำแพงเพชร ฯลฯ

ผศ.ดร.ศศิธร เผยว่า เฟรนช์ฟรายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม ผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจ แต่สิ่งที่ต้องศึกษาคือปริมาณของไซยาไนด์ แม้เราจะใช้มันสำปะหลังพันธุ์ที่รับประทานได้แต่จะต้องมีกระบวนการลดปริมาณไซยาไนด์ให้ต่ำกว่ามาตรฐาน จำเป็นต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ไม่เพียงแค่นั้น คณะอุตสาหกรรมเกษตร ยังมีส่วนร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์มันทอดกรอบ 3 รสชาติ ทั้งรสดั้งเดิม รสสมุนไพร และรสน้ำพริกเผา ให้กับ ศพก.บ้านฉาง จ.ระยอง เป็นผู้ผลิตด้วย โดยมี ผศ.ดร.เทพกัญญา หาญศีลวัต จากภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ เข้าไปช่วยให้คำแนะนำกับเกษตรกรด้วย

ผศ.ดร.เทพกัญญา เผยว่า โจทย์คือการยกระดับผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรให้สามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมหรือสามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมอื่นได้ จากที่เข้าไปพูดคุยสำรวจปัญญาจะพบว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพไม่คงที่ อาจเป็นผลจากวัตถุดิบที่ใช้ในพื้นที่ จึงนำโจทย์มาศึกษาเพื่อหาวิธีการแก้ปัญหา โดยการใช้สารบางอย่างช่วย ปรับเรื่องอุณหภูมิและเวลาในกระบวนการทอด เพื่อให้คุณภาพสม่ำเสมอมากขึ้น จากโครงการนี้จะได้องค์ความรู้ที่เกษตรกรสามารถนำไปใช้ได้เลย เป็นรูปแบบง่ายๆ ตรงนี้จะถ่ายทอดต่อไปเพื่อให้คนไม่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้

ด้านบรรจุภัณฑ์หรือเพจเกจจิ้งจัดเป็นส่วนสำคัญช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า ควบคุมโดย ผศ.ดร.เลอพงศ์ จารุพันธ์ จากภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและพัสดุ

“เราพัฒนาบรรจุภัณฑ์จากวาฟเฟิลกับมันอบกรอบ บรรจุภัณฑ์จะเป็นเหมือนเป็นถุงตั้งได้ มีหลายแบบ ธีมของการออกแบบ คือ เพิ่มมูลค่า ตัวกราฟฟิคแยกตามประเภทผลิตภัณฑ์แต่ยังคงเป็นรูปร่างของตัวมันสำปะหลังอยู่ อาทิ ของบริษัท พลวรรธน์ ฟู้ดส์ จำกัด พัฒนาเป็นรูปตัวการ์ตูน คือ คอนเซ็ปต์จะทำให้รู้สึกว่ากินแล้วสนุกสนาน ส่วนสีจะแยกตามรสชาติ”ผศ.ดร.เลอพงศ์เผย

เรียกว่าเป็นนวัตกรรมแปรรูปมันสำปะหลังครบวงจร โดยคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซัพพอร์ตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ!!

รศ.ดร.อนุวัตร แจ้งชัด

รศ.ดร.อนุวัตร แจ้งชัด คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงสิ่งที่คณะอุตสาหกรรมเกษตรมีส่วนช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประเทศว่า ปัจจุบันเรามีบริษัทอาหารที่จดทะเบียน 8,000 บริษัท โดย 1,800 ราย เป็นกลุ่มเครื่องดื่ม นอกจากนี้คิดเป็น23%ของจีดีพี มูลค่าส่งออกและมูลค่าทางด้านอุตสาหกรรมอาหารประมาณ 102 พันล้านบาท ในปี 2016 อย่างเดียว นับเป็นอันดับ2ของเอเชีย ประมาณ16.7พันล้านบาท

“จากตัวเลขจะเห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารมีความสำคัญจริงๆ รัฐบาลถึงต้องมาเน้นยุทธศาสตร์ทางด้านนี้ จากโครงการแปรรูปมันสำปะหลัง จะเห็นว่าเป็นรูปแบบหนึ่งที่เราทำได้เร็วเพราะมีการวิจัยไว้ล่วงหน้า เรามีองค์ความรู้ที่สะสมไว้พอสมควรแล้ว จาก 6 สาขาวิชาที่เราเปิดสอน สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร สาขาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ สาขาวิทยาการสิ่งทอ สาขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร กล่าวได้ว่าเราทำงานครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำสำหรับอุตสาหกรรมเกษตรในประเทศไทย

“ตอนนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหนึ่งในเครือข่ายของเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือฟู้ดอินโนโพลิส หมายความว่าถ้ามีผู้ประกอบการมาลงทุนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงทุนด้านวิจัยเขาจะได้สิทธิทางด้านภาษี ซึ่งมีส่วนทำให้งานวิจัยก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เรายังเป็นเครือข่ายของมหาวิทยาลัยวิจัย และทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ภายใต้การสนับสนุนจาก กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกได้ว่าค่อนข้างครบวงจร

“ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ เรามีการจัดกลุ่มใหม่ โดยตรงกลางจะเน้นด้านข้อมูลและการจัดการมากขึ้น โดยงานวิจัยจะเริ่มตั้งแต่การออกแบบให้มีการกินดีอยู่ดี ไม่ได้เน้นอาหารอย่างเดียว ขึ้นกับหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นยา ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทางคณะได้ทำวิจัยเองและร่วมกับหน่วยงานอื่น”คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตรเผย

อย่างไรก็ดีในอนาคต ผศ.ดร.อนุวัตร อยากให้ฝ่ายนโยบายให้ความสำคัญเกี่ยวกับการรับรองงานวิจัยต่างๆโดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆของรัฐ เพื่อให้งานวิจัยออกสู่ตลาดการค้าได้จริง เพื่อสู้กับตลาดต่างชาติ

นวัตกรรมแปรรูปมันสำปะหลังจึงเป็นโมเดลงานวิจัยผลิตภัณฑ์ครบวงจร เพื่อออกสู่ตลาดขายได้จริงและมีคุณภาพ

สนใจลิ้มรสสแน็คแบรนด์ไทย By KU ทั้ง CASSA AWEET , AMADE และ CASSY CHIPS เริ่มจำหน่ายแล้วที่งานเกษตรแฟร์ วันที่25ม.ค.-2ก.พ. ที่บูธ H1-5 หน้าอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ หรือสั่งซื้อได้ทาง www.cassaaweet.com หรือ Facebook CassaSweet.KU หรือไลน์ @cassasweet บอกเลยว่าของเขาดีจริงๆ ไม่มีผิดหวังจ้า!!

สแน็คใหม่ – กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จับมือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แถลงเปิดตัว2โปรดักส์ใหม่สุดฮิป ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแปรรูปมันสำปะหลัง “วาฟเฟิลกรอบ”และ”มันอบกรอบ” พร้อมสแน็ค3แบรนด์ใหม่ รุกตลาดขนมขบเคี้ยว 40,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเพิ่มมูลค่า แก้ปัญหาราคามันตกต่ำ เตรียมวางขายครั้งแรกงานเกษตรแฟร์ 25 มกราคมนี้ เผยผู้ประกอบการสนใจผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่ายแล้ว4ราย ที่ห้องกำแพงเพชรอัครโยธิน ชั้น4 กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 มกราคม