บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) โดยคุณอำนวย ดาราแจ้ง ผู้จัดการโรงอัดบรรจุสาขาบางนา พร้อม คุณภวัต กานต์เดชะศา เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส ร่วมสนับสนุนกิจกรรมพิเศษภายใต้แคมเปญ 12 เชฟ 12 เดือน มอบอาชีพ มอบโอกาส ให้ผู้ที่สนใจได้เรียนทำอาหารกับร้านดัง ในเมนูก๋วยเตี๋ยวหมู ร้านรสดีเด็ด สอนโดยคุณสิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล ที่มาติวเข้มถึงการเปิดร้าน การตั้งราคา การทำการตลาด และการบริหาร ให้แบบครบวงจร เพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ ณ มติชนอคาเดมี ประชานิเวศน์ 1 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565

🧸 คอร์สคุณหนู เรียนสนุก เสริมสร้างจินตนาการ

🪆 Academy Kids Cooking Class

🍭 เรียนทำอาหาร ขนม เบเกอรี่ แฟนซี แสนอร่อย สุดน่ารัก

🤹🏻‍♀️ ราคาเหมาๆ 8 คอร์ส 8 วัน ลดจาก 5,999 บาท เหลือเพียง 2,999 บาท

🎯 เรียนทุกเย็นวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 15.30 – 17.30 น.

📍เมนูเดือน ม.ค. 65

  • 5 ม.ค. เซ็ตอาหารเช้าง่ายๆ ลายน่ารัก ใส่กล่อง อาทิ แซนด์วิช ไข่กระทะ
  • 6 ม.ค. คัพเค้กและการตกแต่ง
  • 12 ม.ค. คุกกี้แฟนซี
  • 13 ม.ค. บราวนี่
  • 19 ม.ค. วุ้นหลากสี
  • 20 ม.ค. บานอฟฟี่
  • 26 ม.ค. บลูเบอร์รี่ชีสพาย
  • 27 ม.ค. เครปเค้ก

💕 ข้อดีของการฝึกให้เด็กเรียนทำอาหาร คือ ฝึกกล้ามเนื้อมือ ฝึกสมาธิ เรียนรู้ศัพท์การทำอาหารสอดแทรกด้วยความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ในการปรุงอาหาร 🧁 เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการแต่งหน้าอาหาร รู้จักการรักษาความสะอาด ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และทำอาหารง่ายๆ กินเองได้ 🍪

👫 เปิดสอนเด็กอายุ 5-12 ปี เรียนที่ มติชนอคาเดมี

*** สามารถเลือกเรียนคลาสใดก็ได้ ไม่จำกัดครั้งภายในเดือน กรุณาแจ้งล่วงหน้า 1 วัน

*** เราคำนึงถึงความปลอดภัย มีทีมเจ้าหน้าที่ดูแลน้องๆ อย่างใกล้ชิด

📌 สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี 

📱 08-2993-9097

📱 08-2993-9105

💻 Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี คลิก m.me/Matichon.Academy.Thailand

✳️ line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

โดย ชม นำภา [email protected] / คอลัมน์เคี้ยวตุ้ย...ตะลุยกิน / นสพ.มติชนรายวัน

การที่ได้รู้สูตร รู้กรรมวิธีการทำอาหารแต่ละอย่างก่อนได้กิน บางทีก็เป็นความรื่นรมย์แบบไม่รู้ตัว

อย่างซาลาเปา อาหารพื้นๆ แต่กินได้กินดีนี้ ก็เพิ่งได้รู้จากชั้นเรียน “ซาลาเปาออมทรัพย์” ที่ มติชน อคาเดมี ว่าทำไม่ยากมาก ทั้งสนุกอีกต่างหาก แต่จะให้สวยงามอย่างมืออาชีพก็ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ

ด้วย ความที่เป็นอาหารที่ใครๆ ก็ชอบกิน ทำให้หลายคนหันมาสนใจการทำซาลาเปามากขึ้น ดูได้จากนักเรียนทุกเพศทุกวัยสนใจมาเรียนกันเต็มห้องที่มติชน อคาเดมี

ออม-ศุภชัย สากำสด เจ้าของร้านซาลาเปาออมทรัพย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นอาจารย์สอนหลักสูตรซาลาเปาออมทรัพย์ เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ วัยเพียง 26 ปี คือ แบบอย่างผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่น่าสนใจ

ด้วยความที่ออมเป็นคนปักษ์ ใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี คุ้นเคยกับการกินติ่มซำเป็นอาหารเช้ามาทั้งชีวิต ทำให้ระหว่างเรียนอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เกิดความคิดลองทำซาลาเปาขายเพื่อหารายได้พิเศษมาเป็นค่าเล่าเรียน ผลคือไม่เพียงส่งตัวเองเรียนเท่านั้น เงินเก็บนี้ยังเลี้ยงแม่ ยาย และตาได้อีกด้วย

แต่ด้วยความเป็นคนหนุ่มที่อยากจะทะยานสู่ฝัน ออมได้ตัดสินใจทิ้งการทำซาลาเปา แล้วเริ่มต้นด้วยการไปเป็นผู้ช่วยเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทำพักใหญ่สิ่งที่ได้ คือ ไม่มีเงินเก็บเลยจนต้องทบทวนกับตัวเอง

จนได้คำตอบว่า ที่จริงฝันที่ตามหานั้นมีอยู่แล้ว แต่มองข้ามไป จึงตัดสินใจกลับมาขายซาลาเปาที่เคยทำจนมีเงินเก็บเป็นแสน

ออมเรียกแทนตัวเองว่าเป็น “คนปั้นแป้ง” ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตระเวนกินร้านติ่มซำทั่วทั้งภาคใต้ เพราะมีแผนจะขยับขยายร้านซาลาเปาที่ขายได้วันหนึ่งกว่า 200 ลูก ให้เป็นร้านติ่มซำมีเมนูหลากหลายขึ้นภายในปลายปีนี้

“ร้านติ่มซำ ของผมวางแผนว่าจะมีน้ำจิ้มเป็นไฮไลต์ มีทั้งจิ๊กโฉ่ว ส้มเจื๊อง และแบบต้นตำรับรสชาติหวานเผ็ด และจะมีกระเทียมเจียวอย่างดีที่เจียวเอง ให้ตักใส่เองตามความพอใจ”

สูตรซาลาเปาของออมเด่นที่ไส้ หมูสับ คือ หมูไม่เป็นก้อนแข็งเหมือนทั่วไป แต่จะร่วนและฉ่ำ รสชาติที่กลมกล่อม ส่วนไส้หมูแดงและครีมก็นิยมไม่แพ้กัน

นอกจากรสชาติแล้วฝีมือการจับจีบแป้งอย่างคล่องแคล่วและสวยงามก็กลายเป็น งานศิลปะบนหน้าซาลาเปา ซึ่งออมจะจับจีบแต่ละไส้ไม่เหมือนกัน แทนการใช้สีผสมอาหารแต้มด้านบน

“ผมมองว่าซาลาเปาเป็นของกินง่าย อย่างเกษตรกรมาซื้อ ลูกสองลูกก็อิ่ม และสะดวกฉีกกระดาษออกกัดกินได้เลย”

ใคร ได้ไปเที่ยวสุราษฎร์ฯช่วงเช้าๆ ไปลองชิมซาลาเปาฝีมืออาจารย์ออมได้ ร้านตั้งอยู่ใกล้ ร.ร.อนุบาลเวียงสระศึกษา อ.เวียงสระ ราคาน่ารักลูกละ 10 บาทเท่านั้น

สำหรับผู้สนใจเรียนหลักสูตร ซาลาเปาออมทรัพย์ สูตรแป้งนุ่ม ไส้หมูสับ , หมูแดง , ครีม  สอนโดย อ.ศุภชัย สากำสด  วันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2564 ราคา 2,140 บาท

  • สนใจติดต่อ Inbox : Facebook Matichon Academy
  • Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124
  • Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105
  • line : @mtichonacademy

ข้าวมันไก่ เมนูที่หลายคนติดอกติดใจ กินได้บ่อยๆไม่มีเบื่อ ยิ่งร้านอร่อยยิ่งขายดี คิวยาวเหยียด

ใครอยากทำอาหารขายในยุคที่ข้าวยากหมากแพง เมนูข้าวมันไก่ จัดเป็น recommend menu อาหารจานเดียวที่คุ้มค่าการลงทุน ยิ่งได้สูตรเด็ดยิ่งทำเงิน

อ.อรรถ ขันสี อาจารย์สอนหลักสูตรข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด และน้ำจิ้มสูตรเด็ดของมติชนอคาเดมี เผยว่า จะทำข้าวมันไก่ให้อร่อย หัวใจสำคัญ คือ 1.ตัวไก่ จะเป็นลักษณะของไก่ตอน มีความเหนียวนุ่ม หนึบ ฉ่ำน้ำ ไม่แห้ง 2.ข้าว ต้องมันเงา เป็นเม็ด นุ่ม หอม รสชาติกลมกล่อม 3.น้ำจิ้ม ต้องกลมกล่อม3รส ได้รสชาติพอดี ฉะนั้นจะขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ ต้องอร่อย3อย่าง บางร้าน ไก่อร่อย น้ำจิ้มไม่อร่อย ข้าวอร่อย บางร้านข้าวอร่อย ไก่ไม่อร่อย น้ำจิ้มไม่อร่อย แต่สูตรที่มาสอนที่มติชนอคาเดมีเน้นทั้ง3ตัว เพราะฉะนั้นกินไป1คำ รับรองติดใจ จะต้องกินเป็นประจำ

“ส่วนตัวผมชอบกินข้าวมันไก่ เพราะเป็นอาหารเช้าที่ง่ายและหาง่าย แต่ติดอยู่อย่างหนึ่งคือไขมันสูง คุณหมอเลยให้กินไม่บ่อย โดยข้าวมันไก่สูตรนี้จะใช้น้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ 

จริงๆเราจะใช้มันไก่ผัดก็ได้ จะหอมดี แต่มันไก่คอเรสเตอรอลค่อนข้างสูงหน่อย สูตรของเราจึงเป็นข้าวมันไก่ที่รักษาสุขภาพด้วย”อ.อรรถเผย

นอกจากนี้ อ.อรรถ ยังแนะนำถึงคนที่อยากเปิดร้านขายข้าวมันไก่ด้วย ว่า เวลาคนจะกินข้าวมันไก่ มันต้องเห็นไก่เป็นตัว ถึงจะได้อรรถรส ถ้าจะกินข้าวมันไก่ ต้องกินร้านที่มีไก่ห้อยไว้หน้าร้านเยอะๆเต็มตู้ อย่างข้าวมันไก่ประตูน้ำ ถึงจะน่ากิน

ส่วนข้าวมันไก่ทอด เมนูที่เป็นคู่หูดูโอ้กับข้าวมันไก่ อ.อรรถ บอกว่า เรามีเคล็ดลับหมักไก่ให้ถึงเครื่อง มีรากผักชี กระเทียมพริกไทย ที่สำคัญไก่ของเราเป็นไก่กรอบ เรามีเทคนิคทำให้ไก่ทอดกรอบนาน อยู่ที่แป้ง ผสมตัวหมักแป้งและทอดลงไป แต่บางร้านเป็นไก่หมักเกลือและซีอิ๊วลงไปทอด ชุบแป้งทอด ชุบเกล็ดขนมปังทอด ก็จะไม่อร่อย รวมถึงหัวใจอยู่ที่น้ำจิ้มด้วย ของเราทำน้ำจิ้มเอง แบบไม่เลี่ยนและกินได้เรื่อยๆ

เมื่อถามถึงเศรษฐกิจแบบนี้กระทบกับร้านข้าวมันไก่ไหม อ.อรรถ เผยว่า คิดว่าไม่กระทบกับร้านข้าวมันไก่ เพราะคนต้องกินทุกวัน เป็นอาหารของคนไทยไปแล้ว ใครคิดอะไรไม่ออก ก็ต้องเป็นข้าวมันไก่ ต้มเลือดหมู ข้าวหมูแดง แต่ข้าวมันไก่จะเป็นที่นิยมมาก ผมไปเกือบทุกจังหวัด มักจะต้องไปหาข้าวมันไก่ประจำจังหวัดนั้นๆกิน ปรากฏว่าข้าวมันไก่เป็นอันดับ1ในตอนเช้า บางร้านขายเวลา 03.00น. จากนั้นเวลา 11.00 น. ก็ขายหมดแล้ว ไม่รู้ว่าคนทำไมชอบกินข้าวมันไก่ จะหมดไวกว่าเพื่อน

“ผมเคยไปที่อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีร้านข้าวมันไก่คนเยอะ  พอเดินเข้าไปดูปรากฏว่าเป็นร้านลูกศิษย์ตัวเอง เขาบอกว่าเรียนจากอาจารย์ จากที่เคยเป็นเชฟโรงแรม ก็เลยลาออก มาเปิดร้านข้าวมันไก่เองตอนนี้ร่ำรวยจากสูตรนี้ ซึ่งผมรับรองว่าสูตรของผมเรียนไปทำขายได้เลย ที่สำคัญได้มาตรฐานและอร่อยเหมือนเดิมทุกครั้ง”อ.อรรถเผย

อยากได้สูตรเด็ดข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด by อ.อรรถ ขันสี อาจารย์ฝีมือเยี่ยมของมติชนอคาเดมี ขึ้นชื่อทำอะไรก็อร่อย ต้องมาเรียนกับเรา หลักสูตรข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด และน้ำจิ้มสูตรเด็ด วันเสาร์ที่ 10 มิ.ย.66 นี้

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี
Inbox : Facebook Matichon Academy
Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124
Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105
line : @matichonacademy

เมื่อพูดถึงของกินเล่นสำหรับคนไทย นอกจากสแน็กขนมขบเคี้ยวแล้ว หลายคนนึกถึง “ผลไม้ดอง” หรือ “ผลไม้แช่อิ่ม” รสชาติเปรี้ยวอมหวานจี๊ดจ๊าด กินได้เพลินๆ หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

ผลไม้แช่อิ่ม เป็นการถนอมอาหาร เก็บไว้กินเก็บไว้ขายได้นานเป็นปี ไม่เสีย การทำผลไม้แช่อิ่มขาย จึงเป็นอีกอาชีพน่าสนใจ เป็นการลงทุนที่แทบไม่มีคำว่าขาดทุนเลย

โดยเฉพาะเกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้ อย่างสวนมะม่วง มะขาม ฯลฯ ถ้าผลไม้ขายไม่หมด ก็จะเน่าเสียได้ รวมถึงในปีที่ผลผลิตออกมาเยอะ ราคาถูก ขายขาดทุน การนำผลไม้มาทำแช่อิ่มยิ่งเป็นไอเดียเก๋กู้ด ที่สำคัญกำไรเพิ่มเป็นทวีคูณด้วย

อ.ขนิษฐา ชัยชาญกุล อาจารย์สอนหลักสูตรผลไม้แช่อิ่มสูตรธรรมชาติและการค้า ของมติชนอคาเดมี เผยว่า ถึงแม้ขั้นตอนการทำจะไม่ยุ่งยาก แต่การทำออกมาให้กรอบอร่อยรสชาติถูกปากได้นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนจะลงมือทำต้องทำความเข้าใจหลักการและขั้นตอนการทำให้ดีเสียก่อน อย่างแรกต้องคำนึงถึงปริมาณของวัตถุดิบทุกขั้นตอนให้มีปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ความสะอาดยังถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำของดอง เพราะถ้าหากผลไม้ไม่สะอาด จะทำให้เกิดเชื้อรา ทำให้ผลไม้เน่าเสียทั้งหมด

“ก่อนจะทำการแช่อิ่มได้ ผลไม้จะต้องผ่านการดองเพื่อไล่ความชื้นออกก่อน เพื่อให้สามารถดูดความหวานได้อย่างเต็มที่ การดองผลไม้ มีทั้งแบบใช้เคมีและแบบไม่ใช้เคมี รสชาติและระยะเวลาในการดองจะแตกต่างกันออกไป โดยผลไม้ที่นำมาแปรรูปจะต้องเป็นผลไม้ดิบและแก่เต็มที่เท่านั้น ห้ามนำผลไม้สุกมาดอง ภายหลังหลังจากการแปรรูปแล้วไม่ว่าจะเป็นการดองหรือแช่อิ่ม จะสามารถเก็บไว้ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยราคาขายจะสูงกว่าผลไม้สดเป็นเท่าตัว และหากขายในห้างราคาจะสูงตามไปด้วย

“คอร์สที่จะมาสอนที่มติชนอคาเดมี เราจะสอนสูตรที่ไม่ใช้เคมี และจะแนะนำวิธีการใช้เคมีควบคู่ไปด้วย รวมถึงบอกทุกขั้นตอนอย่างละเอียดตั้งแต่วิธีการล้างผลไม้ไปจนถึงการแช่อิ่ม ผลไม้ที่จะนำมาสอนนั้นเป็นผลไม้พื้นฐาน 5 อย่างที่สามารถหาทานได้ทั้งปี ได้แก่ มะม่วง มะขาม มะกอก มะดัน กระท้อน”อ.ขนิษฐา เผย และว่า

คนที่มาเรียนจะได้ลงมือทำทั้งการดองและการแช่อิ่มที่ถูกวิธี จะได้ผลไม้ที่รสชาติดี และมีสีสันสวยงาม รวมถึงจะแนะนำวิธีการเข้าถึงแหล่งเกษตรกรสวนผลไม้โดยตรง ซื้อผลไม้ราคาถูก ให้แก่ผู้สนใจที่ไม่ใช่เจ้าของสวน แต่อยากทำผลไม้แช่อิ่มขายด้วย

ส่องสารพัดสูตรเด็ดเดือนกุมภาพันธ์ เรียนทำอาหาร เผื่อตกงานไม่รู้ตัว

หลังจากที่มาตรการป้องกันโควิด-19 เริ่มผ่อนปรน มิตรสหายของเรา “มติชน อคาเดมี” ที่ตอนนี้นอกจากจะเร่งมือทำคอร์สออนไลน์ออกมาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนี้แล้ว ล่าสุดสามารถเปิดคอร์สสอนได้ตามปกติในเดือนกุมภาพันธ์แล้วค่ะ

ใครที่กำลังเล็งเรียนทำอาหาร ลองมาดูคอร์สของที่นี่ได้ มีสูตรอาหารหลากหลาย ครอบคลุมทุกประเภทอาหาร ที่สำคัญเป็นสูตรเด็ด เรียนแล้วรู้จริงทำได้

เริ่มจาก วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ “ขนมต้มและขนมนึ่งยอดนิยม” ขนมต้ม ถั่วแปป ขนมมัน ขนมฟักทอง ขนมกล้วย โดย อ.พะเยาว์ กฤษแก้ว ราคา 2,140 บาท

“ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา สูตรโบราณดั้งเดิม” อ.โอฬาร ศรีสวรรค์ ราคา 2,140 บาท สูตรนี้ฮิตตลอดกาล ลูกศิษย์อาจารย์โอฬารค่อนประเทศการันตี “ขนมเครื่องทองไทยมงคล” (ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน) อ.เต็มสิริ รังหอม ราคา 2,140 บาท

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ “ขนมเบื้องโบราณสูตรชาววัง” อ.จักรรินทร์ นิ่มเนตร ราคา 2,140 บาท “ขนมถังทองชาววัง” คุณจิ๋ม ราชบุรี โดย อ.ธนวรรณ เทียมทัด ราคา 2,140 บาท สูตรนี้นุ่มอร่อย รับรองว่าทำได้ตามสูตรขายดิบขายดี “บัตเตอร์เค้ก หอมนุ่มชุ่มฉ่ำ” เป็นหลักสูตรใหม่เอี่ยม คอร์สนี้เป็นคอร์สปฏิบัติผู้เรียนได้ลงมือทำด้วย โดย อ.กฤษณะ ยุคะลัง ราคา 2,599 บาท

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ “ข้าวเหนียวมูนคุณพะเยาว์” อ.พะเยาว์ กฤษแก้ว ราคา 2,140 บาท “ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสป้าเตียง (ต้มยำ เย็นตาโฟ)” อ.พจนาถ บูระผลิต ราคา 2,140 บาท “ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น พร้อมข้าวหน้าหมู ข้าวหน้าเนื้อ” สูตรเด็ดร้านอิ่มหมีฟู้ดทรัก อ.นวลปรางค์ วรรณพงษ์ คำชื่นวงศ์ ราคา 2,140 บาท สูตรข้าวแกงกะหรี่ของ อ.นวลปรางค์ ลองผิดลองถูกด้วยตัวเองนานกว่า 1 ปี จนสูตรเป๊ะคนญี่ปุ่นมาชิมยังชมว่าโออิชิ

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ “กวยจั๊บน้ำข้นเจ้าดัง ซอยจรัสลาภ” หลักสูตรนี้จะสาธิตตั้งแต่การล้างเครื่องใน และการทำหมูกรอบสูตรเด็ด โดย อ.ชนันพร ชัยประภา ราคา 2,140 บาท “เปิดตำรับหมูปิ้งเมืองทอง สูตรชุบชีวิต” อ.พนัส แย้มสกุล ราคา 2,140 บาท ที่มาของชื่อชุบชีวิตก็เพราะว่า อ.พนัส กลับมาตั้งตัวใหม่ได้จากที่กำลังจะล้มด้วยหมูปิ้งสูตรเด็ดสูตรนี้จริงๆ

“ไอศกรีมกะทิสด ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน ไอศกรีมแต่งกลิ่นผลไม้” อ.มานะ พชนะโชติ ราคา 2,140 บาท “ขนมปังไส้ทะลัก 5 ไส้” หลักสูตรเบเกอรี่คอร์สใหม่อีกตัว เรียนแบบปฏิบัติ กับ อ.กฤษณะ ยุคะลัง ราคา 2,599 บาท

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ “หมูทอดเจียงฮาย” พร้อมสาธิตการนึ่งข้าวเหนียว อ.สุรีย์ แก้วพิลา ราคา 2,140 บาท “ขนมเทียน ขนมเข่ง” อ.พะเยาว์ กฤษแก้ว ราคา 2,140 บาท “กาแฟโบราณ ร้านไฮโซโบราณ” อ.พรรณวดี อยู่คง ราคา 2,140 บาท

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ “บะหมี่หัวโต ตลาดศรีย่าน” อ.ธีรชัย เจริญวัฒนาเลิศ ราคา 2,140 บาท “ซาลาเปาออมทรัพย์” สูตรแป้งนุ่ม มีไส้หมูสับ หมูแดง ครีม โดย อ.ศุภชัย สากำสด ราคา 2,140 บาท คอร์สนี้อาจารย์มีแถมสูตรขนมจีบหมูให้อีกสูตรด้วย เกินคุ้มจริงๆ

“สุดยอดน้ำยำทำอะไรก็อร่อย” โดยเชฟระดับอดีตหัวหน้าเชฟห้องเบญจรงค์ โรงแรมดุสิตธานี อ.สุรศักดิ์ คงสวัสดิ์ จะมาสอนทำน้ำยำ พร้อมการทำยำ อาทิ ยำปลาดุกฟูทรงเครื่อง ยำผักบุ้งกรอบ ยำผลไม้เลิศรส ในราคา 3,299 บาท รับรองว่าได้รับทั้งความสนุกสนาน และความรู้แน่นๆ เกินคาด

“ชีสเค้กหน้าไหม้ ทาร์ตชีส” เป็นคอร์สปฏิบัติอีกเช่นกัน โดยอ.กฤษณะ ยุคะลัง ราคา 2,599 บาท

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 มือถือ 08-2993-9097, 08-2993-9105

ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์, มติชนรายวัน อาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564, หน้า 20
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]

รู้หรือไม่กะหรี่ปั๊บดั้งเดิม ฉบับออริจินอลเป็นยังไง?!!

อ.อรรถ ขันสี อาจารย์สอนหลักสูตรกะหรี่ปั๊บสูตรแป้งหมัก กรอบนอกนุ่มใน พร้อมไส้สูตรลับ ของมติชนอคาเดมี เผยว่า กะหรี่ปั๊บดั้งเดิมต้องกรอบนอกนุ่มใน ไม่แข็งกระด้าง กินคู่กับน้ำอาจาดจะลงตัว สมัยก่อนกินกะหรี่ปั๊บต้องจุ่มน้ำอาจาดหรือตักน้ำอาจาดใส่ เป็นวิธีกินที่ถูกต้อง กะหรี่ปั๊บจะได้นุ่มอร่อย ออริจินอลต้องมีอาจาด จะคล้ายๆแกงกะหรี่ไก่มาห่อใส่ไส้พายและกินกับน้ำอาจาด เป็นสูตรดั้งเดิม ปกติเวลากินกับน้ำอาจาดจะนิยมกินกับไส้ไก่

อ.อรรถ เล่าว่า กะหรี่ปั๊บเป็นอาหารมุสลิม คนไทยนำมาดัดแปลงทำเป็นขนม เมื่อก่อนก็คือแกงกะหรี่นี่เอง เอามาผัดให้แห้งแล้วใส่ไส้เหมือนไส้ขนม เดี๋ยวนี้มีไส้ออกมามาก ไส้ปลา ไส้ไก่ ไส้กุ้ง ฯลฯ อย่างที่นิยมซื้อจากจ.สระบุรี เป็นการเอามาประยุกต์อีกที เป็นของฝากจำที่จะต้องทำให้แห้งหน่อย เป็นของกินเล่น

“ที่มาสอนที่มติชนอคาเดมี จะมีน้ำอาจาดด้วย รสเด็ดอยู่ที่น้ำอาจาดกับไส้ ไส้ของเราจะชุ่มฉ่ำ กินแล้วนุ่มนวล ต้องทำเสร็จแล้วกินเลย เอกลักษณ์ของขนมกะหรี่ปั๊บคือทำสดใหม่แล้วก็กินเลยจะอร่อย แต่ที่เขาทำเป็นของฝากต้องไส้แห้งเพื่อเก็บขายได้นาน

“สอนทั้งหมด4ไส้ คือ 1.กะหรี่ปั๊บไก่เป็นไส้ดั้งเดิม 2.ไส้หมูแดงของเราจะเหมือนกับพายฮ่องกงยี่ห้อดังๆที่อยู่ในห้าง เป็นไส้ที่ผมคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง  3.ไส้หมูเห็ดหอมเราประยุกต์มาจากไส้ที่เป็นปั้นสิบไส้หมู เอามาเติมเห็ดหอมเข้าไปเพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับไส้ 4.ไส้เผือกจะคล้ายไส้โอนีแปะก๊วย จะมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ

“แต่ละไส้ของเราจะเน้นความนุ่มฉ่ำ ขายความสดๆใหม่ๆ ถ้าต้องการประยุกต์เป็นไส้อื่นๆก็ทำได้ เช่น ไส้สับปะรดมันแห้งอยู่แล้ว จะเหมือนกินพายสับปะรด หรือจะทำเป็นไส้ทุเรียน ไส้ถั่วกวน ก็ได้”อ.อรรถเผย

จัดเป็นกะหรี่ปั๊บ4ไส้ ที่ทุกคนต้องถามถึง เป็นสูตรที่อ.อรรถ คิดค้นขึ้นมาเอง ถ้ามาเรียนที่มติชนอคาเดมี จะได้ไส้ใหม่และอร่อย ลิสต์ติดดาวเป็นซิกเนเจอร์ของร้านได้เลย รวมถึงทีเด็ดน้ำอาจาดเข้มข้นไม่เหมือนใคร!!

 

 

หลักสูตร กะหรี่ปั๊บสูตรแป้งหมัก กรอบนอกนุ่มใน พร้อมไส้สูตรลับ สอนโดย อ.อรรถ ขันสี ราคา 2,140 บาท

สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี
Inbox : Facebook Matichon Academy 
Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105
line : @matichonacademy

ฉบับนี้จู่ๆ ก็มีลาภปากได้ชิมขนมจากเชฟยอดฝีมือที่เดินทางมาทำเค้กสไตล์ญี่ปุ่นให้ลิ้มลองถึงถิ่นเลยค่ะ

เรื่องของเรื่องก็คือ มติชน อคาเดมี เปิดสอนคอร์สขนมในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 ที่จะถึงนี้ มิตรสหายเลยโทรตามให้มาชิมด้วยกัน

เห็นรูปร่างหน้าตาแล้วต้องรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาแชะๆ ก็เจ้าขนมสองก้อนสุดแสนจะน่ารัก เรียบง่ายสไตล์มินิมอล และน่ากินขนาดนั้นนี่คะ

อย่างแรก คือ “เจแปนนีส ชีสเค้ก” หรือ “ชีสเค้กนุ่มสไตล์ญี่ปุ่น” อย่างที่สอง คือ “มัทฉะ อะซูกิ แซนด์วิช ครีมเค้ก” หรือ “ชิฟฟ่อนชาเขียวสอดไส้ถั่วแดงญี่ปุ่นและครีมเค้ก” นั่นเอง

ตัวเจแปนนีส ชีสเค้ก เป็นเทรนด์มาหลายปีแล้ว แต่ความนิยมยังไม่หยุดง่ายๆ เราจะเห็นเมนูนี้อยู่ในคาเฟ่แทบทุกแห่ง แล้วแต่จะครีเอตหลากสไตล์ต่างกันไป

สำหรับสูตรที่จะสอนที่มติชน อคาเดมี เป็นชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น คือ มีความนุ่มเนียนกริบ แต่งหน้าเรียบง่ายด้วยผลไม้สดอย่างสตรอเบอรี่ ตัดแบ่งเป็นก้อนเสิร์ฟ ขอบอกว่าตัวนี้ตอนยกออกจากเตาใหม่ๆ ถือส่ายไปมาเนื้อเค้กเด้งดึ๋งๆ ยั่วน้ำลายสุดสุด ล่ะค่ะ

อีกตัวก็ว้าวไม่แพ้กัน “มัทฉะ อะซูกิ แซนด์วิช ครีมเค้ก” สูตรนี้เชฟครีเอตเค้กชิฟฟ่อนให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ปาดครีมเค้กหนาๆ ขั้นกลางด้วยถั่วแดง วางชิฟฟ่อนประกอบอีกด้าน ท็อปปิ้งด้วยผลไม้รสฉ่ำเปรี้ยวหลายชนิด ทั้งส้ม กีวี สตรอเบอรี่ และ ถั่ว

ลำพังเค้กชิฟฟ่อนก็นุ่มแสนนุ่ม ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นและรสชาติชาเขียวเข้มข้น กัดไปเจอความหวานของถั่วแดงและความมันของครีมเค้ก ผสมกับรสเปรี้ยวนิดของผลไม้ ตายๆๆ กินไป 2 ชิ้นรวดไม่รู้ตัวค่ะ

เอาเป็นว่าชอบทั้ง 2 เมนูเลย ดีงามทั้งรสชาติและหน้าตา ใครที่หาคอร์สเบเกอรี่เก๋ๆ แบบนี้อยู่ ก็อยากจะชวนให้มาเรียนกัน เอาไปต่อยอดคาเฟ่ตัวเองก็ได้ หรือ ไว้ทำเป็นงานอดิเรกให้คนที่บ้านกินกันก็เริ่ดค่ะ

กินเสร็จได้คุยกับเชฟพอหอมปากหอมคอ เชฟชื่อ “เชฟโต้ง-วรดนย์ ประสม” อายุ 27 ปี เป็นเชฟหนุ่มไฟแรงเฟร่อร์ โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

เชฟโต้งเป็นเด็กหนุ่มจากเชียงราย พออายุ 15 ปี มีโอกาสเข้ามาอยู่กับอาที่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าเรียนอาชีวะ อาถามว่าอยากเรียนอะไรระหว่างช่างตัดผม หรือ ทำอาหาร เชฟโต้งตัดสินใจเรียนด้านอาหาร เพราะคิดว่าเอาไปต่อยอดได้มากกว่า ไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา หลักสูตรอาหารและโภชนาการ เรียนจนจบ ปวช. ได้โควต้าเข้าเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คณะโรงเรียนการเรือน อุตสาหกรรมอาหาร

เพิ่งจะอยู่ชั้นปีที่ 1 เทอม 2 เชฟโต้งได้รู้จักกับบรรดาเชฟ TCA (Thailand Culinary Academy) ได้เข้าร่วมทีมเพื่อไปแข่งขันทำอาหารเริ่มจากรายการในประเทศก็ขยับไปต่างประเทศ

เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ จากทำอาหารคาว ก็เริ่มทำขนมหวาน ครั้งหนึ่งไปคว้าเหรียญทองแดงการทำขนมมาได้จากผู้แข่งขันหลายสิบประเทศ ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเชฟโต้งในการทำขนม

เชฟโต้ง-วรดนย์ ประสม

“ตั้งแต่เริ่มแข่งขันก็จะเจอขนมมากขึ้น รู้สึกว่ามันสวย ไม่ร้อนเหมือนทำอาหารคาว ที่หน้าเตาผ่าวร้อนใจเราก็ร้อน แต่พออยู่กับขนมใจเริ่มเย็นลง เรามีความลงดีเทล มีรายละเอียดมากขึ้น” เชฟโต้ง เล่าจุดที่ทำให้มาสนใจทำขนมจริงจัง

แต่ถ้าถามว่าจุดที่พัฒนาฝีมือแบบเห็นได้ชัด คือ หลังจากที่ฝึกงานโรงแรมเสร็จได้มีโอกาสไปทำงานที่ร้านขนมของสองเชฟรุ่นพี่ คือ เชฟนัท และ เชฟพลอย ที่ A Baketime Story เป็นร้านขนมชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์

“ตอนนั้นรุ่นพี่ทาบทามให้ไปทำ เราไปเป็นลูกน้องเขา เป็นคาเฟ่ทำขนมเองหมดเลย ที่นี่เป็นแหล่งความรู้ของเราจริงๆ เพราะว่าเขาสอนทุกอย่าง แต่อยู่ประมาณเกือบ 2 ปี ชอบที่นี่ เขาดูแลเราเป็นน้องเลย แต่มาซักพักที่บ้านถามเราอยากให้ทำงานบริษัท ก็ตัดสินใจเข้าเบทาโกร แต่ก็มองว่าในอนาคตเราอาจจะมีโอกาสได้ร่วมกันอีกก็ได้”

ระหว่างที่ทำงานประจำ เชฟโต้งยังใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ในการสอนทำขนม แม้จะเหนื่อยแต่เชฟโต้งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเช่นกัน

“ความยากง่ายของการทำขนม ขึ้นอยู่ที่เบสิกแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน และความเข้าใจว่ามีแค่ไหน เราเลยต้องถามตลอดว่าเข้าใจไหมครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องพยายามทวนจนเข้าใจขั้นตอนการทำ เช่น เวลาที่คนก็ต้องคน เวลาตีต้องตี พักก็คือพักเก็บไม่ให้โดนอากาศ เพราะจะมีขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ถ้าเราละเลย หรือ สักแต่จะทำมันไม่ได้ แล้วถ้าสอนคนทำไม่เป็นเลย ก็ต้องใช้อินเนอร์เราบิวท์ให้เขาทำ ก็ใช้พลังเยอะ แต่การพูดเวลาสอนก็มีผลดี คือ มันจะเป็นสกิลติดตัวเรา”

ในยุคสมัยที่ออนไลน์เข้ามามีบทบาทสูง เชฟโต้งก็ยอมรับว่าเคยไปลงเรียนออนไลน์เช่นกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องเอามาปรับเองต่ออีกที เนื่องจากไม่ได้เจอครูโดยตรง เวลาถามใช้การอินบอกซ์ ทำให้มันไม่เต็มที่

“บางอย่างมันถูกกั้น ถูกกั๊กไว้อยู่ ก็มาปรับเอง”

ในฐานะที่เคยอยู่ในแวดวงคาเฟ่ เชฟโต้งยืนยันว่า คาเฟ่ได้กลายเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นชินไปแล้ว ชาวออฟฟิศนิยมไปนั่งเพื่อผ่อนคลาย ถ่ายรูปลงโซเชียล กลายเป็นเทรนด์ในการไปนั่งคาเฟ่ ยิ่งเจอขนมหน้าตาน่ารัก มีสตอรี่ การไปถ่ายรูปลงโซเชียลมันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง

สุดท้าย เชฟโต้งฝากบอกว่า เมนูสองอย่างนี้เหมาะกับทุกกลุ่ม จะนำไปทำเป็นงานอดิเรกก็ได้ หรือถ้าทำคาเฟ่อยู่แล้ว สามารถเอาไปต่อยอดได้เลย มาเรียนในชั้นเรียนรับรองว่าเข้าใจ และ ได้รับความเพลิดเพลินแน่นอน

ใครที่สนใจแล้ว ติดต่อเลยที่ มติชน อคาเดมี โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 มือถือ 08-2993-9097, 08-2993-9105 หรือ Inbox Facebook : คลิกที่นี่ m.me/Matichon.Academy.Thailand หรือ line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy

 

 

 

ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]
รศ.พิชญา สุ่มจินดา(ซ้าย) อ.ปริญญา สัญญะเดช (ขวา)

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 กันยายน ที่ห้องโถง ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน(มติชนอคาเดมี) มติชนอคาเดมี จัดเสวนา “ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยวิทยากร รศ.พิชญา สุ่มจินดา อาจารย์ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในประเด็น “ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และ อ.ปริญญา สัญญะเดช ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธไทยโบราณ ในประเด็น เศียรใหญ่ไม่ได้ถูกเผา แต่ถูกยิงด้วยปืนใหญ่

โดย รศ.พิชญา นำเสนอข้อสันนิษฐานใน 5 ประเด็น คือ 1.เศียรใหญ่ เคยประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญหรือไม่ โดยมีข้อสันนิษฐานว่า เป็นไปได้ที่เศียรใหญ่อาจเคยประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ แต่ไม่รู้ว่าวิหารไหน โดยประเมินจากพระอุณาโลม 2.เศียรใหญ่ เคยเป็นพระพุทธรูปยืนหรือประทับและมีขนาดเท่าใด สันนิษฐานว่า เศียรใหญ่ถ้าเป็นพระยืน จะสูงไม่เกิน 8 เมตร หรือสูงสุดๆไม่เกิน 9 เมตร ถ้าเป็นพระนั่ง จะสูงไม่เกิน 5.52 เมตร เพราะฉะนั้นเศียรใหญ่ไม่มีทางเป็นพระศรีสรรเพชญได้เลย

3.เศียรใหญ่ มีพระพักตร์สอดคล้องกับพระพุทธรูปในช่วงที่สร้างพระศรีสรรเพชญหรือไม่ สันนิษฐานว่าพระพุทธรูปปีใกล้เคียงกับช่วงที่หล่อพระศรีสรรเพชญหน้าตาไม่ใกล้เคียงกับเศียรใหญ่เลย 4.เศียรใหญ่ มีพระพักตร์สอดคล้องกับพระพุทธรูปในช่วงเวลาใด สันนิษฐานว่า เศียรใหญ่มีพระพักตร์ไม่สอดคล้องกับพระพุทธรูปที่สร้างช่วงเวลาเดียวกับพระศรีสรรเพชญ แต่สอดคลอ้งกับพระพุทธรูปที่สร้างใกล้รัชกาลพระเจ้าปราสาททอง อาทิ หลวงพ่อยอ มีจารึกพ.ศ. 2198 จึงเป็นไปได้ที่จะเป็นเศียรวัดป่าเลไลยก์ ช่วงพระเจ้าปราสาททอง

และ 5. เศียรใหญ่ เคยประดิษฐานที่ใดในวัดพระศรีสรรเพชญ สันนิษฐานว่า จากขนาดและความแข็งแรงของฐาน น่าจะอยู่ที่วิหารพระปาลิไลยก์

ด้าน อ.ปริญญา กล่าวว่า จากการศึกษาร่อยรอยที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่ พบว่าบริเวณหน้าพระอุโบสถและหน้าวิหารปาลิไลยก์ มีใบเสมาล้ม และร่องรอยจากกระสุนปืนใหญ่ ใบเสมาแตก หินแตกจากการปะทะ โดยเศียรใหญ่ที่พระศรีสรรเพชญ มีรอยบุบและกระแทกจากด้านซ้ายอย่างแรงและเร็ว วิถีกระสุนปืนใหญ่เข้ามาทางด้านข้าง แนวกระสุนเป็นวิถีโค้งมาจากวัดหน้าเมรุ ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานหนึ่งของพม่า ในสงครามยิงปืนใหญ่กันเป็นพันเป็นหมื่นลูก บ่งชี้ว่าเศียรใหญ่ถูกยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ ซึ่งความยิ่งใหญ่ของอยุธยาเริ่มจากดินปืนและกระบอกปืน และจบด้วยดินปืนและกระบอกปืน

ทั้งนี้ หลังจากฟังเสวนา“ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง แล้ว ในวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ทัวร์มติชนอคาเดมี จะพาไป ทัวร์ ศิลปะหลังรัฐประหาร ของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จ.พระนครศรีอยุธยา นำชมโดย รศ.พิชญา สุ่มจินดา

ทริปนี้ คณะทัวร์จะได้ชม ศิลปะ วัด วัง ที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สร้างขึ้น ประกอบด้วย ปราสาทนครหลวง พระราชมณเฑียรที่ประทับในฤดูร้อน เดิมเชื่อว่าสร้างเลียนแบบปราสาทนครวัด แต่ปัจจุบันเชื่อว่าถ่ายจำลองและปรับปรุงแบบจากปราสาทบาปวนใกล้กับพระราชวังหลวง เมืองพระนคร ร่วมค้นหาว่าเหตุใดพระองค์จึงเลือกจำลองปราสาทบาปวนแทนที่จะจำลองปราสาทนครวัดที่ใหญ่โตและน่าจะมีความสำคัญมากกว่า

วัดหน้าพระเมรุ สันนิษฐานว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างเป็นพระอารามขนาดใหญ่ ชมความงดงามของ พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ขนาดใหญ่ที่สุดในศิลปะอยุธยา ปางมารวิชัย ภายในพระอุโบสถ ที่น่าจะมีนัยสื่อถึงสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในฐานะที่ทรงเป็นทั้งพระอนาคตพุทธเจ้าและพระเจ้าจักรพรรดิราช พร้อมชม พระพุทธรูปประทับห้อยพระบาทสลักศิลา ภายในพระวิหารน้อย ซึ่งอัญเชิญมาจากวัดพระเมรุ จ.นครปฐม แต่เดิมเคยประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นต้นแบบให้กับการสร้างพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ในรัชกาลของพระองค์ซึ่งเริ่มสร้างเป็นพระพุทธรูปประทับห้อยพระบาทเช่นกัน

วัดไชยวัฒนาราม พระอารามสำคัญอันเปรียบได้กับเพชรยอดมงกุฎแห่งรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงสถาปนาเมื่อปลายรัชกาลบนสถานที่ถวายพระเพลิงสมเด็จพระราชชนนี พระอารามแห่งนี้มีความหมายถึง ‘ความรุ่งเรืองแห่งชัยชนะ’ พุทธสถาปัตยกรรมของที่นี่รวมความหมายทั้งคติจักรวาลตามคัมภีร์โลกศาสตร์พุทธศาสนา, คติทักษาตามคัมภีร์โหราศาสตร์และตำราพิชัยสงครามเข้าไว้ด้วยกัน

อ.ปริญญา สัญญะเดช

ชมปรางค์ประธานขนาดใหญ่ที่เคยหุ้มทองจังโกทั้งองค์ ล้อมรอบด้วยปรางค์มุมบริวารทั้ง 4 มุม และระเบียงคดที่เชื่อมเมรุทิศ ทั้ง 8 เข้าด้วยกัน พร้อมชมการวางตำแหน่งของพระอุโบสถ ที่สื่อถึงชมพูทวีปที่ตั้งของพระมหาโพธิบัลลังก์ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงมีชัยเหนือพญามาราธิราช และตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย 3 องค์ เพื่อสื่อความหมายถึงพระอดีตพุทธเจ้า พระปัจจุบันพุทธเจ้า และพระอนาคตพุทธเจ้า ที่น่าจะหมายถึงพระองค์เองในอนาคต ซึ่งได้ตรัสรู้หรือจะมาตรัสรู้บนพระมหาโพธิบัลลังก์ศูนย์กลางแห่งชมพูทวีปดุจเดียวกัน

พระราชวังหลวง หรือพระราชวังโบราณ อยุธยา ชมร่องรอย พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ ที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างและพระราชทานนามไว้ว่า พระที่นั่งศิริยศโสธรพิมานบรรยงก์ ให้สอดคล้องกับนามของเมืองพระนคร หรือยโศธรปุระ อดีตราชธานีของกัมพูชา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา ชมปูนปั้นครุฑแบก สิงห์แบก ที่ฐานชุกชีในพระวิหารหลวง และที่ฐานของพระมณฑปหลังกลางระหว่างพระเจดีย์ประธานสามองค์ อันเป็นประจักษ์พยานของงานช่างตามแบบอย่างศิลปะกัมพูชา ก่อนจะถูกครอบไว้ด้วยฐานใหม่ในสมัยต่อมา จากนั้นชมพระวิหารพระปาลิไลยก์ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้เคยทรงสร้างเป็นมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ด้วยความเชื่อว่าพระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นช้างปาลิไลยก์ปรนนิบัติพระพุทธเจ้า

วิหารพระมงคลบพิตร แต่ก่อนมีนามเดิมว่า วัดสุมงคลบพิตร เข้านมัสการ พระมงคลบพิตร หรือพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระสยมภูวญาณโมลี ภายในพระวิหาร ซึ่งแต่เดิมเป็นพระมณฑปที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงสร้างถวาย หลังจากชะลอพระพุทธรูปองค์นี้มาจากวัดพระชีเชียงของสมเด็จพระชัยราชาธิราช เพื่อสร้างความหมายใหม่ให้กับพระพุทธรูปองค์นี้ว่าเปรียบได้กับพระอนาคตพุทธเจ้า ในฐานะที่พระองค์จะทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตพระนามว่า พระสุมังคลพุทธเจ้า

บางครั้งการลองผิดลองถูกก็เป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกดี แต่บางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกให้เสียเวลา โดยเฉพาะการทำอาหารที่เป็นศาสตร์และศิลป์มีการเขียนตำราไว้มากมายเต็มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สู้ได้เรียนกับครูจริงๆ เพราะเราจะได้เห็นทุกกลเม็ดเคล็ดลับแบบจะจะ คล้ายกับที่แม่เราเรียนจากตายาย ลูกก็เรียนรู้จากพ่อแม่นั่นเอง

เกริ่นมาแบบนี้เพื่อที่จะขายของแน่นอนค่ะ (ฮา) มิตรของเราเช่นเคย “มติชน อคาเดมี” ศูนย์อาชีพธุรกิจมติชน ที่ตอนนี้ขาข้างนึงปรับมาสอนออนไลน์เรียบร้อยแล้ว โดย 2 เชฟคนหนุ่มสาวที่ทยอยจัดสูตรลับอาหารคาวหวานรสชาติเยี่ยมให้ได้มาเรียนกันในราคาสุดแสนจะมิตรภาพ

ไปเยี่ยมเยียนชาวมติชน อคาเดมี วันก่อน ได้มีโอกาสชิมสูตรเด็ด 3 เมนูรวดเลยค่ะ เป็นเมนูที่เปิดสอนไปแล้ว 1 คอร์ส คือ “น้ำสลัดตั้งตัว 5 สไตล์” 599 บาท อันประกอบไปด้วย มายองเนส น้ำสลัดซีซ่า น้ำสลัดงาญี่ปุ่น น้ำสลัดบัลซามิก และ น้ำสลัดส้ม ที่นอกจากจะทำเป็นน้ำใส่สลัดแล้ว เชฟยังปรับไปทำเมนูหลากหลาย เช่น สลัดโรล แซนด์วิช ได้น่าสนใจมากๆ

เชฟเต็ม-เต็มสิริ รังหอม เชฟสาวไฟแรงที่ผ่านประสบการณ์ร้านอาหารทั้งสไตล์ไทยและฝรั่งเศส ไล่มาตั้งแต่ร้าน FATBIRD ร้านสยามชาร์มมิ้ง ร้าน Aldo’s Bistro และ ร้าน Coal Bistro พูดถึงคอร์สน้ำสลัดว่า เป็นหลักสูตรที่เน้นไปที่ทำกินเองที่บ้าน ด้วยวัตถุดิบที่เลือกใช้มีราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเอาไปขายก็สามารถประยุกต์ได้

“การเรียนน้ำสลัดมองว่าโอกาสตั้งตัวมีสูง เพราะว่าเดี๋ยวนี้คนรักสุขภาพมากขึ้น เลือกทานน้ำสลัดที่ไม่ได้มาจากน้ำมันอย่างเดียว”

ถึงแม้ว่าคอร์สน้ำสลัดจะผ่านไปแล้ว แต่เชฟเต็มบอกว่ายังสมัครเข้ามาเรียนได้ตลอด จะมีการดึงเข้ากลุ่มสามารถดูได้ไม่จำกัดครั้ง มีคำถามก็สามารถพิมพ์ทิ้งไว้เช่นกัน

แต่ที่กำลังจะเปิด และน่าสนใจมากตอนนี้คือ “หมูปลาร้า” เป็นเมนูที่ยังฮอตไม่เลิก ที่จะเปิดสอน วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ ราคา 599 บาท

เชฟเต็ม บอกว่า ตอนนี้เมนูหมูปลาร้าเป็นที่นิยมมาก จุดเริ่มต้นอยู่ที่ร้านที่ราชดำเนิน เป็นกระแสโซเชียล คนเริ่มฮิตทำกินที่บ้าน บางคนทำเป็นธุรกิจตั้งตัวได้เลย

“มันเริ่มจากแค่เป็นเนื้อหมูหมักกับน้ำปลาร้า ย่างให้มีกลิ่นหอม เสร็จแล้วตัวปลาร้าบอง หรือ น้ำจิ้มแจ่ว ถ้าทำเป็นธุรกิจคือขึ้นหม้อใหญ่ เราก็สามารถทำขายได้ตลอด เก็บไว้ได้ด้วย ย่างหมูอาจจะย่างหน้าร้าน แต่เราหมักแช่ตู้เย็นไว้ ในคลาสจะบอกหมดว่าเตรียมหมูยังไง หมักหมูยังไง เก็บหมูไว้ได้นานเท่าไหร่ ทำยังไงให้หมูนิ่ม อันนี้สำคัญมาก เพราะตอนนี้จุดขายของหมูปลาร้าส่วนมากคืออยู่ที่หมูนิ่มไหม ปลาร้าบองอร่อยไหม สูตรเรารับรองว่าอร่อยแน่นอน”

จบจากของคาว มาต่อกันที่ของหวานกันบ้าง กับ เชฟต่อ-กฤษณะ ยุคะลัง เชฟหนุ่มที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานในครัวเบเกอรี่จากโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน และสยาม เคมปินสกี้

เชฟต่อ เล่าประสบการณ์การอยู่ในครัวเบเกอรี่ว่า ได้เห็นการทำเบเกอรี่คุณภาพเยี่ยมหลายรูปแบบ อย่างช่วงเทศกาล เช่น ออคโทเบอร์เฟส จะมีเพลสเซลที่เป็นออริจินอลที่เอาไปชุบด่างโซดา โรยด้วยร็อคซอลต์แล้วเอาไปอบ หรือ ช่วงคริสต์มาส จะมีจินเจอร์เบรด และได้ลงมือทำเบเกอรี่ที่ต้องใช้ทักษะสูงอย่างครัวซองค์ด้วยเช่นกัน

เชฟเต็ม-เต็มสิริ

ด้วยเสน่ห์ไม่รู้จบของเบเกอรี่นี่เองที่ทำให้เชฟต่อหลงใหลในการทำเบเกอรี่อย่างมาก ฝึกฝนจนฝีมือเข้าที่ชนิดว่าทำอะไรมาให้ชิมก็อร่อยไปหมด

สำหรับคอร์สออนไลน์ที่เชฟต่อสอนไปแล้ว คือ “ขนมปังไส้ทะลัก” 599 บาท สูตรนี้แป้งนิ่มหอมกรุ่นจากเตา ไส้รสละมุนอีก 5 แบบ และเช่นกันใครสนใจยังสามารถติดต่อเรียนได้ไม่จำกัดเวลา สมัครเข้ามาเมื่อไหร่ทีมแอดมินก็จะดึงเข้ากลุ่มดูได้ทันที

“ขนมปังไส้ทะลักสูตรนี้ ตัวขนมปังจะมีความฟูนุ่ม สามารถเก็บเข้าตู้เย็นได้ เวลาจะทานให้เอามาคลายเย็น เข้าไมโครเวฟ 20-30 วินาที ก็นุ่มเหมือนเดิม ขนมปังตัวนี้ถ้าจะไม่ทำใส่ไส้ก็ได้ จะทำเป็นขนมปังแพแพคเป็นถุงใหญ่สำหรับร้านขายไอศกรีมก็ทำได้เช่นกัน”

เชฟต่อ-กฤษณะ

สำหรับคนที่คิดว่าการทำเบเกอรี่ยากเกินไป เชฟต่อ บอกว่า ขึ้นชื่อว่าทำอาหารก็มีความยากง่ายต่างกัน เพียงแต่ว่าอาหารคาวบางอย่างถ้าลืมบางขั้นตอนเราแก้ไขตอนนั้นได้ แต่เบเกอรี่จะมีความยาก คือ เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปจนกว่าเราจะทำมันเสร็จออกมา เลยทำให้คนรู้สึกว่ายาก ดังนั้นการทำเบเกอรี่ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องชั่งตวงวัดที่ถูกต้อง ดังนั้นการทำตามยูทูบอาจทำไม่ได้เสมอไป มองว่าคนที่จะดูยูทูบแล้วทำตามคือคนที่ต้องมีพื้นฐานมาก่อนระดับหนึ่ง

“ในคอร์สเราอธิบายละเอียดมาก อยากให้คนไม่มีพื้นฐานเลยเข้าใจ เราพยายามปิดเพนพอยส์ที่คนมองว่ายาก เราอยากให้เข้าใจถึงแก่นการทำเบเกอรี่ว่าต้องเริ่มจากอะไร ต้องชั่งตวงวัดที่ถูกต้องก่อน แล้วปลายทางก็จะถูกต้องแน่นอน”

อีกหนึ่งข้อที่คนมองว่าธุรกิจเบเกอรี่ปราบเซียน เชฟต่อ บอกว่า จริงๆ เบเกอรี่ถ้าทำขายจะรู้ว่าต้นทุนจริงๆ มันต่ำมาก ที่เห็นเค้ก 70-80 บาท ต้นทุน 20-30 บาทเท่านั้น คำว่าปราบเซียน จริงๆ แล้วถ้าเราจับทิศได้ว่าจะทำเค้กแบบไหน ตั้งราคาเท่าไหร่ ธุรกิจไปได้อยู่แล้ว เพราะต้นทุนไม่ได้สูงเลย

ใครที่อยากเรียนกับเชฟต่อ กำลังจะเปิดวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ คือ “บัตเตอร์เค้ก” 599 บาทเท่านั้น

บัตเตอร์เค้ก เค้กสุดคลาสสิกนี้หลายคนอาจจะมองข้าม แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับเลยว่าเมื่อชงกาแฟซักแก้วยามเช้า หลายคนยังนึกถึงบัตเตอร์เค้กมากินคู่กัน

“เสน่ห์ของบัตเตอร์เค้ก คือ กลิ่นหอมและความชุ่มฉ่ำของเนย กินได้เรื่อยๆ โอกาสทำขายก็ได้เสมอ จะทำแบบโฟรเซนไว้ก็ได้ ไม่ต้องขึ้นรูปใหญ่มาก พออบออกมาแพคใส่ถุงซีลไว้แล้วแช่ฟรีซ เวลาจะรับประทานก็เอาออกมาสไลซ์ซักชิ้นสองชิ้น แล้วเข้าเวฟ 20-30 วินาที จากนั้นหันมาชงกาแฟกินกับบัตเตอร์เค้กนุ่มๆ เท่านี้ก็เพอร์เฟกต์แล้ว”

หลังจากนี้เชฟต่อจะมีสูตรเบเกอรี่อร่อยๆ ออกมาสอนเรื่อยๆ ล่าสุดเห็นขลุกอยู่กับการทำขนมปังสุขภาพ ใครสนใจลองติดตามกันดูค่ะ ส่วนใครอยากเรียนแล้วสมัครได้เลยที่มติชน อคาเดมี โทร 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 หรือ มือถือ 08-2993-9097, 08-2993-9105 หรือ เข้าไปดูในเพจ Matichon Academy

ที่มาอาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียนชม นำพา [email protected]
บัตเตอร์เค้ก2แบบ